เซบาสเตียนน่ะ...เหมือนแมว
หลักฐานข้อแรก: แมวน่ะ...ไม่ชอบน้ำ
“ไปอาบน้ำไหมเซบดึกดื่นขนาดนี้แล้วเดี๋ยวก็บ่ายเบี่ยงไม่อาบอีก...ไปเลยนะเดี๋ยวนี้” เสียงบ่นยืดยาวของชายหนุ่มร่างสูงที่มือขวาถือตะหลิวมือซ้ายยืนเท้าเอวพิงขอบประตูมองร่างของคนตัวเล็กกว่าที่ขดตัวเป็นก้อนกลมๆในผ้าห่มผืนสีขาวก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมางอแงบ่นพึมพำงุ้งงิ้งอะไรซักอย่างที่ ‘คริสอีแวนส์’ คนนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...ตอนนี้รู้เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายกำลังถ่วงเวลาไม่ไปอาบน้ำทั้งๆที่วันนี้ทั้งวันก็ไปตะลอนออกไปถ่ายรูปนู่นนี่มาไม่ได้หยุดหย่อนจนเหงื่อกาฬไหลบ่าโชกโชนเต็มไปหมดพอกลับมาถึงห้องได้ก็สั่งอาญาสิทธิ์ให้เขาคนนี้ไปทำอะไรให้กินโดยอ้างว่าตนนั้นจะไปอาบน้ำแต่พอเขาเข้ามาเช็คแล้วกลับพบเจ้าตัวเอาแต่นอนเล่นเกมส์โทรศัพท์พอทักเข้าหน่อยก็งอนนอนม้วนตัวเป็นก้อนอย่างที่เห็น
“ไม่! คนบ้าอำนาจชอบบังคับ!” มุดใบหน้าน่ารักออกมาเถียงแง้วๆเสร็จแล้วก็มุดกลับไปที่เดิมฝ่ายคนถูกเถียงส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะมาทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเตียงมองพระจันทร์ด้านนอกที่เริ่มส่องแสงแข่งกับแสงไฟของตึกสูงๆแล้ว
“แค่กลัวว่าเธอจะนอนไม่สบายตัวน่ะ ขอโทษนะถ้าก้าวก่ายเกินไป...เราแค่หวังดี” บทโหดไม่ได้ก็ต้องเล่นบทโศกกันล่ะ
...เอาล่ะมันได้ผลเสียด้วยเมื่อเจ้าแมวน้อยของเขาค่อยๆคลายผ้าห่มออกมาก่อนจะค่อยๆคลานมาใกล้ๆเขาแล้วกอดหมับเอาหัวถูไถที่เอวอย่างออดอ้อนแล้วค่อยๆช้อนดวงตากลมโตสีฟ้าแซมเทาที่เอ่อคลอเต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมาสบตากับคริสอีแวนส์พร้อมเบะปากเตรียมพร้อมแล้วสำหรับโหมดขี้แย
“ก็เค้าไม่ชอบอาบน้ำนี่!“
หลักฐานข้อที่สอง: แมวน่ะ...ขี้เซา
เช้าวันนี้คริสกำลังพบเจอกับปัญหาใหญ่ตามปกติแล้วกิจวัตรประจำวันของเขาจะเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้าเริ่มจากตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำทำอาหารเช้าแล้วค่อยมาปลุกคนขี้เซาให้ตื่นจากนิทรา...แต่จริงๆแล้วนั้นเซบาสเตียนน่ะไม่จำเป็นจะต้องตื่นเช้าก็ได้เพราะคนตัวบางมีอาชีพเป็นช่างถ่ายรูปแบบฟรีแลนซ์ที่จะมีงานเข้ามาบ้างไม่เข้าบ้างตามโอกาส...แต่เพราะอากาศตอนเช้านั้นมันดีต่อสุขภาพคริสจึงอยากให้คนขี้เซาตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อยก็เท่านั้น
...แต่วันนี้ไม่เหมือนกับทุกวัน...
คริสกำลังจะสาย...แน่ละเขาทำงานบริษัทไม่ได้ทำฟรีแลนซ์เหมือนใครบางคนที่เอาแต่นอนทับอยู่บนอกของเขาไม่ยอมขยับไปไหนเขาจำเป็นต้องเข้างานให้ตรงเวลามีงานมากมายร่ำร้องให้เขาไปสะสางอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดแต่ปัจจุบันเขากลับนอนแมะอยู่ที่ห้องโดยมีเจ้าลูกแมวตัวใหญ่นอนทับไว้อีกที
“เธอ...เซบเราจะสายแล้วนะ...เธอ” พยายามสะกิดให้อีกคนรู้สึกตัวแต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลับไม่ได้เป็นไปดังที่หวังเลยสักนิดเพราะนอกจากคนตัวนุ่มนิ่มจะไม่ขยับตัวแล้วซ้ำยังกระชับอ้อมแขนกอดเขาแน่นขึ้นไปอีกใช้ศีรษะกลมถูไถบนอกของเขาราวกับจะหามุมที่สบายที่สุดให้ตนเอง
“เธอ... ตื่นนะเราจะสายแล้วจริงๆ“ ถ้าถามว่าทำไมไม่ผลักออกหรือดันออกไปเลยจริงๆแล้วคริสน่ะมีเหตุผลนะ...เซบาสเตียนน่ะจะขี้แยมากๆเวลาถูกกวนแต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือถ้าปลุกแบบรุนแรงละก็นอกจากจะทำอีกฝ่ายงอนแล้วเขายังจะโดนห้ามไม่ให้ถูกเนื้อต้องตัวของอีกคนเลยเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์...พูดก็พูดเถอะเขาไม่ใช่นักบวชนักพรตมาจากไหนไฉนเลยจะอดทนอดกลั้นไม่สัมผัสร่างกายขาวผ่องนุ่มนิ่มน่าถนุทะนอมแถมยังขี้อ้อนที่หนึ่งของคนๆนี้ได้...ฉะนั้นเขายอมไปทำงานสายเสียดีกว่าผลักอีกคนออก
“งื้อ...ไม่ไปได้ไหมเค้าไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว” คนตัวหอมที่เขาเข้าใจว่าคงกำลังอยู่ในห้วงนิทราผงกศีรษะขึ้นมาเบะริมฝีปากเอ่ยเว้าวอนเขาอย่างออดอ้อน
“โธ่...ถ้าเราไม่ไปทำงานแล้วเราจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงเธอละหืม~” ใช้นิ้วเกลี่ยพวงแก้มใสไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะตกใจนิ่งค้างจากสัมผัสเบาๆที่ประทับลงมาบนริมฝีปากเมื่อครู่
“น้า~ อยู่เป็นเพื่อนเค้าน้า” คนขี้เซาเอ่ยออดอ้อนด้วยน้ำเสียงที่กึ่งไปทางงัวเงียแต่แล้วจู่ๆคนหัวดื้อก็นิ่งค้างไปเหมือนกับคิดแผนอะไรออก
ริมฝีปากบางสวยค่อยๆคลี่ยิ้มงดงามจนเผยให้เห็นเจ้าเขี้ยวแสนซนที่โผล่มาทักทายให้คริสใจเต้นเล่นๆยามเช้าก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมันขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ...
‘จุ๊บ...’
ที่หนึ่ง...ประทับลงบนหน้าผาก
‘จุ๊บ...’
ที่สอง...ประทับลงบนปลายจมูก
‘จุ๊บ...’
ที่สาม...ประทับลงบนริมฝีปากก่อนที่เจ้าตัวซนจะแลบลิ้นน่าเอ็นดูออกมาเล็กน้อยแล้วเลียเข้าที่ริมฝีปากของเขาช้าๆสองทีค่อยๆช้อนดวงตาใสๆมองเขาอย่างออดอ้อน
ริมฝีปากซุกซนผละออกห่างจากริมฝีปากของเขาเพียงนิดเดียวก่อนจะค่อยๆเอ่ยประโยคที่ทำให้เขาตัดสินใจโทรไปลาป่วยกับบอสชนิดที่รีบร้อนแบบที่ไม่สามารถคีพลุคชายหนุ่มมาดเท่ขวัญใจสาวออฟฟิศเอาไว้ได้
“วันนี้มันหนาว...เค้าอยากให้คริสกอดเค้าแรงๆ...”
ซึ่งเอาจริงๆแล้วเซบาสเตียนก็แค่อยากนอนต่อก็เท่านั้น...คริสอีแวนส์คนโง่โดนหลอกซะแล้ว...
หลักฐานข้อที่สาม: แมวน่ะ...ชอบเรียกร้องความสนใจ
“ครับถ้าผมทำเสร็จผมจะเมลล์ไปให้นะครับ...ครับขอบคุณครับ”
หลังจากการสนทนาที่คริสแสนจะอัดอั้นตันใจได้จบลงร่างสูงก็ระบายอารมณ์ด้วยการทุบโต๊ะทำงานไปหนึ่งทีใจอยากจะด่ากราดลูกค้าที่แสนจะเรื่องมากน่ารำคาญโน่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่เอาขนาดวันนี้ที่เป็นวันหยุดคริสมาสตร์ทั้งที่ยังมิวายโทรมารบกวนเวลาพักผ่อนของคนอื่นเขาอีกอยากจะซื้อพจนานุกรมไปเปิดแล้วสะกดคำว่ามารยาทให้ฟังเสียจริงๆคนอย่างเขาไม่ใช่ใครที่ไหนก็จะมาสั่งได้เสียเมื่อไหร่...ทั้งชีวิตของคริสอีแวนส์น่ะมีแค่แมวน้อยที่ชื่อว่าเซบาสเตียนเท่านั้นนั่นแหละที่สั่งได้
“เมื่อไหร่คริสจะทำงานเสร็จเค้าเบื่ออยากเล่นด้วย” เสียงงุ้งงิ้งของคนที่นอนกลิ้งบนเตียงไม่ได้เรียกความสนใจของคริสออกจากจอคอมได้เลยแม้แต่น้อยใจอยากจะรีบปั่นๆให้มันเสร็จๆไปเบื่อหน่ายที่จะต้องมานั่งแก้มันอีกนั่งทำมันมาสามชั่วโมงแล้วก็อยากจะให้มันเสร็จๆไปเลยภายในครั้งเดียว
“ทำไมคริสไม่สนใจเค้าเลย!” คนขี้แงเอ่ยออกมาอย่างเหลืออดปลายประโยคได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ...เขาทำเจ้าแมวน้อยร้องไห้เสียแล้วสิ
“อย่าเพิ่งงอแงสิครับขอเราทำงานตรงนี้แปปเดียวนะ” เซบาสเตียนน่ะไม่รู้หรอกว่าใจของเขามันกระโดดไปกอดอีกคนแล้วนอนหลับฝันไปไกลแค่ไหนแล้วแต่กายหยาบของเขาตอนนี้มันต้องทำงานน่ะสิมันทำดั่งใจนึกไม่ได้! ...คริสได้แต่ขบเคี้ยวความแค้นเอาไว้ในใจ
‘ฟุ่บ’
“เธอ! ทะ-ทำอะไร!”
ร่างสูงตกใจเผลอปล่อยแก้วโกโก้ร่วงลงพื้นในจังหวะที่สไลด์ตัวออกมาจากโต๊ะคอมเพื่อยืดเส้นยืดสายแต่กลับเห็นเงาลางๆผ่านตาไปแวบๆพอมารู้ตัวอีกทีก็พบว่าร่างของคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงเหมือนเมื่อสักครู่ได้ลุกขึ้นมานั่งคร่อมตักของเขาใช้เรียวขาสวยๆสอดลอดที่วางแขนมือทั้งสองข้างโอบรอบคอของเขาไม่ยอมปล่อยจนเป็นเขาเองต้องใช้มือโอบรอบเอวบางเอาไว้กลัวคนแสนซนจะผลัดตกหงายหลังไป
“ก็คริสไม่สนใจเค้านี่” ในขณะที่เขาร้อนใจจนแทบบ้าแต่อีกฝ่ายกลับเอียงคอตอบเขาตาใสแจ๋วก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆที่ได้หลอมละลายใจของเขาให้แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
“แล้วทะทำไมไม่ใส่กางเกงให้มันดีๆ“ พยายามไม่สนใจแมวน้อยขี้อ้อนที่ใช้ศีรษะทุยๆซุกหน้าอกเขาแล้วพยายามทำงานต่อไปทั้งๆที่ตอนนี้ในหัวของเขามันคิดอะไรไม่ออกแล้วนอกจากอยากจะฟัดเจ้าแมวขี้ยั่วตัวนี้ให้จมเขี้ยวจนร้องเหมียวๆให้เข็ด
“เค้าอึดอัดนี่เค้าไม่ชอบอีกอย่างตัวคริสน่ะอุ่นจะตายถ้าเค้ากอดแบบนี้ๆก็ไม่หนาวแล้วไง” แต่การที่ใส่แค่เสื้อเชิ้ตที่ชายเสื้อหมิ่นเหม่ตรงต้นขาขาวๆที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเสื้อตัวเก่งของเขาเจ้าตัวดีนี่คงไปคุ้ยตู้เอามาใส่เล่นอีกแล้วแน่ๆ มันก็ทำให้เขาอึดอัดเหมือนกันนั่นแหละ!
“ไปนั่งดีๆเราจะทำงาน” ลองใช้น้ำเสียงนิ่งๆเข้าสู้ดูเผื่ออีกฝ่ายจะกลัวแล้วล่าถอยไป
“แต่...แต่เค้าอยากอยู่กับคริสนี่~ ...เหมียว...”
“ห้ะ...เมื่อกี้ร้องว่าอะไรนะ” เขาเอ่ยถามแต่อีกฝ่ายกลับทำท่านึกก่อนจะค่อยๆเอียงคอตอบเขาด้วยการช้อนดวงตาขึ้นมากระพริบช้าๆ...น่าหมั่นเขี้ยวที่สุด
“คริสชอบไม่ใช่หรอเค้าเลยอยากเอาใจไง...เหมียว...”
“...”
“เจ้านายฮะ...เค้าเหงา...เล่นกับเค้าน้าาเหมีย- เอ๊ะ!!!” แทนคำตอบร่างสูงได้รวบคนขี้แกล้งขึ้นอุ้มก่อนจะเดินลิ่วๆไปที่เตียงนอนจนคนในอ้อมกอดผวากอดคอกันตกแทบไม่ทัน
...ลืมงานลืมลูกค้าลืมแม้กระทั่งคอมที่ยังคงเปิดงานค้างเอาไว้
แต่ก็นะ...
งานน่ะ...ช่างมันเถอะตอนนี้น่ะการฟัดแมวสำคัญกว่า
“คิก ๆ คริสทำหน้าตลกอ่า”
คนแสนซนหลุดขำในตอนที่คริสวางเจ้าตัวลงบนเตียงแล้วพยายามจะถอดเสื้อออกแต่มันดันติดค้างเติ่งอยู่ที่หู! ...บ้าจริง! เสื้อโง่นี่มันทำให้เขาดูแย่!
แต่ก็เอาเถอะ....ขำไปเถอะเจ้าแมวน้อยขำไปเลยในตอนที่ยังมีโอกาสเพราะต่อจากนี้-ทั้งคืนนี้...คงต้องร้องครางแทนขำขันจนเสียงแหบแห้งแน่ๆ
end.
————————————————————
มันเกิดจากการนั่งดูรูปเซบแล้วคิดว่าเซบเนี่ย เหมือนแมวจังน้า เป็นคนเงียบ ๆ แต่ก็มีมุมขี้เล่น มีโลกส่วนตัวแต่ก็ไม่ใช่คนเข้าถึงยาก มองไปมองมาเซบก็เริ่มมีหูมีหางมีหนวด รู้ตัวอีกทีก็แต่งฟิคจบแน้วหนึ่งเรื่อง
ความน่ารักของเซบเนี่ยอันตรายจริงๆนะคะ;—-;
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ พูดคุยกันได้ที่ @buckymyboy ไม่กัดคับฉีดยาแน้ววว
hashtag: #myboyfic
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in