หนังสือเล่มนี้เป็นภาคต่อของเล่มแรก แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นไปสัมภาษณ์พวกคนที่เข้าไปอยู่ในลัทธินี้ว่า เข้าไปได้อย่างไร และเกี่ยวข้องกับลัทธินี้อย่างไร คือ หากถ้าเพื่อนๆอ่าน จะพบถึงบางอย่างที่ว่า คนเหล่านั้นก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้ถูกหลอก แต่แค่คิดเห็นเหมือนกันเท่านั้น
“ความคิดเห็นที่เกี่ยวกับศาสนา
เชื่อว่าลัทธินี้ดีกว่าสิ่งไหน
เชื่อว่าเจอคำตอบอยู่ในใจ
เชื่อว่าได้ค้นหาความเป็นจริง
เมื่อยิ่งอยู่ก็ยิ่งพบว่าสิ่งนั้น
กิจวัตรประจำวันที่เปลี่ยนนิ่ง
เป็นให้ดูวุ่นวายในทุกสิ่ง
ชีวิตจริงก็ไม่ต่างลวงไป”
เรื่องราวในครั้งนี้จะเสนอให้เห็นว่า คนที่เข้าไปในลัทธิโอมจะแบ่งออกเป็นได้ประมาณ 3 กลุ่ม อย่างเช่น กลุ่มที่เชื่อมั่นและศรัทธา กลุ่มที่ตามกันมา และกลุ่มที่ทดลอง และคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาด ขาดความมั่นใจ ไม่มีศาสนา และมีปมในใจตัวเอง จนเมื่อโดนโชโกะ มันหลอกพูดนู่นพูดนี้ที่ดูน่าเชื่อถือสักหน่อย ก็กลายเป็นว่า เชื่อไปหมด และเริ่มเข้าไปเป็นนักบวชเหล่านั้น แต่บางคนที่รู้ว่า ก๊าซซารีนไม่ดี ก็ไม่กล้าบอก หรือบางคนในใจ ก็อาจคิดว่า เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นไป ซึ่งคนเหล่านี้มักอ้างว่า เป็นเหยื่อของความเชื่อในตัวบุคคลกับคนอันตรายที่ทำไปเพราะเชื่อในสิ่งๆนั้นจริงๆ
“เมื่อคนเราขาดความมั่นใจ
และคิดไว้เจอคนที่เหนือกว่า
ดูเป็นคนที่น่าเชื่อถือว่า
ดูเก่งกว่าพระศาสดาไหน
เพราะโชโกะแสดงตนได้ดีนัก
สุดประจักษ์ว่าโชโกะดีกว่าใคร
โดยทำตัวเป็นดุจร่างทรงไว้
คนกราบไหว้เพราะเชื่อถือมากมาย
และเมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งเชื่อถือ
เพราะกล่าวคือชีวิตมีความหมาย
และกล่าวถึงชีวิตคนมากมาย
ได้หลากหลายถูกต้องอย่างตาเห็น”
ถ้าหากเราอ่านด้วยใจเป็นกลาง เราจะพบว่า คนหลายคนเชื่อในสิ่งที่เห็น เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เเละเชื่อมั่นในตัวบุคคลจนเชื่อมั่นว่า โชโกะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากทุกข์ได้จริงๆ แต่บางคน ไม่ บางคนก็แค่สนุกกับสิ่งที่ได้ทำก็เท่านั้นเอง และเราคิดว่า บางคนก็พูดไม่จริง เพราะกลัวว่า จะโดนหางเลขไปด้วย เป็นต้น
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in