“เราเรียนรู้ชีวิตได้เสมอจากการมางานศพ”
ประโยคข้างต้นเป็นคล้ายประโยคของนักคิดในวัยเริ่มคิด
“เราอาจไม่เห็นความจำเป็นของงานศพ แต่การมางานศพ เป็นเรื่องจำเป็น”
ประโยคข้างต้นอาจเป็นบางประโยคของคนที่คิดตก
“คุณเคยอยู่ที่นี่ และคุณก็ไม่ได้หายไปไหน คุณจะหายไปจริงๆ ก็ต่อเมื่ออันตรธานไปจากความทรงจำของทุกคน แต่นั่นก็ชี้ชัดได้ยาก คุณมีหลายแง่มุมในยามที่มีชีวิต ชิ้นส่วนซับซ้อนเหล่านั้นพลันกระจัดกระจาย ฝังฝากไว้ในสมองของคนอื่นอีกมาก เป็นชิ้นเล็กบ้างใหญ่บ้าง เป็นส่วนเสี้ยว เป็นส่วนเดียวหรือบางทีก็เกี่ยวพันกับส่วนอื่นๆ
“และนั่นทำให้คุณมีตัวตนอันพร่าเลือน แม้กระทั่งอนุสาวรีย์ของคุณที่แข็งแกร่งท้าวันเวลา ก็อาจมีความหมายและนัยยะที่แตกต่างกันไป”
สองย่อหน้าข้างต้นนั้นค่อนข้างจะแห้งแล้ง คล้ายเสียงแหบๆ ของนักเล่าที่เหนื่อยล้า
ไม่ต้องคิดไปไกลถึงเวิ้งฟ้า มองดูคนที่ยังอยู่เราก็จะเห็นความเศร้าฉายชัดในแววตา มันเป็นเรื่องที่จริงและดิบ สามัญและน่าเบื่อ แต่มันก็เป็นเช่นนี้เสมอ
หากเราจะเรียนรู้อะไรสักอย่างจากงานศพ สิ่งนั้นควรนำมาซึ่งหัวใจที่อ่อนโยนต่อการสูญเสียทั้งหลาย..มิใช่ตรงกันข้าม
(บันทึกไว้เมื่อ 27052014)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in