เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Plaa's diary feat. APP JP LINGnamprikplaa2
Entry No.4: ประสบการณ์สอนภาษาญี่ปุ่นเด็กเล็ก + ความเห็นเกี่ยวกับInput hypothesis
  • เฮลโหลว กลับมาเจอกันเป็นครั้งที่ 4 แล้วนะคะ(^▽^)

    ถ้าจะให้บอกเล่าชีวิตของเจ้าของบล๊อกช่วงนี้ในหนึ่งประโยคก็คือ "เหมือนนั่งโรลเลอร์โคสเตอร์" ค่ะแอบเหนื่อยนิดนึงเพราะพอเรื่องหนึ่งจบ ก็มีปัญหาเข้ามาอีกเป็นยก ๆ ไม่ให้เราพักเลย ด้วยความที่เราเป็นคนมีพลังงานน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยแอบเพลียนิดนึงค่ะ แต่เราคิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแหละ ชีวิตมันก็ต้องมีแบกหินขึ้นเขาบ้าง สู้ต่อไปทาเคชิ!!٩(ˊᗜˋ*)و
    (หมดช่วงระบายไว้เพียงเท่านี้ กลัวลากยาว5555)

    เข้าเรื่องดีกว่า วันนี้ก็อยากจะมาแชร์เรื่องราวประสบการณ์หนึ่งให้เพื่อน ๆ นะคะ คือเราเคยรับจ๊อบสอนภาษาญี่ปุ่นให้เด็กเล็ก (เด็กไทยนะคะ) อยู่พักหนึ่งค่ะ น้องเขาก็อายุประมาณ 7 - 8 ขวบ วัยกำลังซนเลย จริง ๆ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะรับสอนเด็กเล็กนะคะ แต่สมัยมัธยมเราเคยไปเรียนที่โรงเรียนสอนพิเศษด้านศิลปะแล้วที่นู่นมักจะมีน้องเล็กมาเรียนด้วย เรารู้สึกสนุกกับการคุยกับน้อง ๆ ดีค่ะ เหมือนได้เลี้ยงน้อง ไม่เหงาดี555555

    ช่วงแรก ๆ ที่สอนคือค่อนข้างจะเงอะงะนิดหน่อยค่ะ เพราะปกติเคยสอนแต่กับคนที่โตและพูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่เด็กเล็กเนี่ยโคตรยากเลยค่ะ เพราะถึงเนื้อหาจะง่าย ๆ แค่สอนระดับเบสิค ๆ แต่วิธีการเรียกร้องความสนใจให้น้องสนใจที่เรากำลังสอนนี่ไม่ง่ายเลยค่ะ อย่างรอบแรกเนี่ยน้องเขาจำอะ อิ อุ เอะ โอะ ได้ไหมเรายังไม่รู้เลย55555555

    พอเรารู้ปัญหาแล้วว่าวิธีการสอนเรามันไม่น่าได้ผล เราก็เลยไปถามปู่กูเกิ้ลดูค่ะว่าปกติเวลาเขาสอนเด็กเล็กนี่เขาทำไง เขาบอกว่าการสอนเด็กเล็กเนี่ยควรจะสอนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ สอนร้องเพลง สอนวาดรูปอะไรเทือกนี้ (ซึ่งก็พยายามทำแล้วนะ แต่น้องเขาสนใจหญ้าในสวนมากกว่าชั้น(┯_┯) )

    ไป ๆ มา ๆ ก็เลยลองชวนน้องเขาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นดูค่ะ อย่างแรกเลยคือน้องเขาชอบทำอาหาร เราก็เลยชวนน้องเข้าครัวไปทำขนม แล้วก็สอนว่าอันนี้ ๆ ภาษาญี่ปุ่นพูดไง หรือว่า สถานการณ์นี้ ๆ เราควรพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่ายังไง  ส่วนตัวว่าเป็นวิธีการสอนที่ค่อนข้างเอนจอยทั้งเด็กและคนสอนเลยค่ะ

     จริง ๆ มีอีกวิธีหนึ่งที่คิดจะทำอยู่ คือการพูดภาษาญี่ปุ่นกับน้องไปเลย  แล้วให้น้องซึมซับไป แต่คิดว่าสำหรับน้องในตอนนี้น่าจะยังเร็วไป วิธีการนี้คิดว่าน่าจะให้น้องชินกับญี่ปุ่นไปก่อนถึงจะได้ค่ะ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ...มีใครคิดไหมคะว่าทั้งหมดที่พูดมาเนี่ยมันเกี่ยวอะไรกับที่เรียนในคาบไปเหรอ55555555555
    เกี่ยวค่ะ มันต้องเกี่ยวสิ เพราะคาบที่ผ่านมาเราพึ่งได้เรียนเรื่อง Input Hypothesis ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการสอนภาษาที่สอง หรือ SLA ของคุณ Stephen Krashen

    " Input = การป้อนข้อมูล/สอนความรู้ให้ผู้เรียน "

    เขาว่ากันว่าอินพุทที่ดีเนี่ยควรเป็น (1) การป้อนอินพุทเยอะ ๆ ให้ข้อมูลแก่ผู้เรียนมาก ๆ และ (2) Comprehensible input หรือการป้อนอินพุทที่ยากกว่าระดับของผู้เรีียน 1 ขั้น หากมากกว่า 1 หรือต่ำกว่า 1 ขั้น การสอนจะไม่เกิดประสิทธิภาพ

    ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ คือเราเห็นด้วยกับ (2) Comprehensible input มากเลยค่ะ เพราะจากประสบการณ์การสอน(อันน้อยนิด555)ของเราเองเนี่ย กว่าเราจะหาวิธีสอนที่ได้ผลมันก็ต้องอาศัยประสบการณ์และคุณสมบัติของผู้เรียนด้วยค่ะ บางคนเรียนมาเท่านี้ เราจะไปเร่งให้เขารู้มากขึ้นอีก 5 ขั้นในชั่วโมงเดียวก็ไม่ได้ หรือตัวเราเองเนี่ย เคยไปลงเรียนวิชาเจนเอดวิทย์กับเด็กคณะวิทยาศาสตร์ มันก็เป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะที่เราจะฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยเพราะว่าเรามีความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เพียงขี้ปะติ๋ว เทียบเด็กคณะวิทย์ไม่ได้เลย555

    อย่างไรก็ตาม เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับ (1) การป้อนอินพุทเยอะ ๆ ค่ะ อย่างการสอนเด็กเล็กเนี่ยก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันค่ะ ถึงเนื้อหามันจะอยู่ในระดับง่าย แต่ถ้าเราฝืนป้อนอินพุดเยอะ ๆ เพียงแค่เพราะเราต้องการให้เด็กมาสเตอร์ภาษาไว ๆ มันก็จะกลายเป็นแค่การฝืนธรรมชาติการเรียนรู้เด็กไปแทนค่ะ

    โดยส่วนตัวเราว่าวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการสอนภาษาที่สองให้กับเด็กเล็กคือการใช้วิธี Immersion Program ผสมกับ Natural Approach ค่ะ อธิบายง่าย ๆ นะคะ เราต้องสอนให้เด็กคุ้นชินกับภาษานั้นก่อน (ด้วยวิธีหรือกิจกรรมการเล่นของเด็ก เช่น ดูการ์ตูน ร้องเพลง เป็นต้น ) ให้น้องเห็นว่าภาษา ๆ นั้นอยู่รอบตัวเขา แล้วก็ไม่ควรบังคับให้เขาพูดค่ะ เพราะจะเป็นการทำให้น้องเขารู้สึกกดดันจนไม่อยากพูดค่ะ(^^;

    นี่ก็เป็นความคิดเห็นที่ถ่ายทอดออกมาผ่านประสบการณ์ของเรานะคะ การสอนภาษาเดิมทีก็คิดว่ายากนะ คือเราเป็นคนจัดการข้อมูลในหัวไม่ค่อยเก่ง พอมาก ๆ เข้า สมองมันจะเออเร่อเอ๋อเหลอ ไปสอนชาวบ้านยิ่งลำบากเลยเพราะพูดไม่รู้เรื่อง แล้วยิ่งพอเป็นเด็กเล็กกลับยากขึ้นไปอีก... แต่ถ้าเป็นคนที่ชินกับเด็กเล็กน่าจะไม่มีปัญหานะคะ อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าประสบการณ์นี้สอนอะไรให้เราเยอะมากเลยค่ะ ในอนาคตก็อยากจะรับจ๊อบสอนเด็กเล็กอีกนะคะ มันท้าทายดี คือถ้าเราคุมน้องอยู่ ชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรยากแล้วค่ะ....(;·∀·)

    วันนี้ก็มีแค่นี้ค่า マタネ───(`・∀・´)ノシ───!!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
k.l.k (@k.l.k)
ให้ input ที่เหมาะสมในระดับหนึ่งและไม่บังคับ ถ้าสอนเด็กเล็กน่าจะเหมาะ แล้ว TPR ชอบไหมคะ (แบบคลิปตุ๊กตาหมี) เด็กเล็กชอบ action story ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน
untobuns (@untobuns)
เป็นเหมือนคุณเจ้าของบล็อกเลยค่ะ เคยสอนเด็กโตแล้วตอนนี้สอนภาษาญี่ปุ่นเด็กเล็กอยู่ แรกๆ มีเหงื่อตกจริงค่ะ ฮา แต่น้องเคยเรียนพูดมาก่อน ละปรากฎว่าจำตัวอักษรได้เร็ว เรียนไปได้เร็วมาก ตอนแรกก็พยายามยั้งๆ หานู่นนี่มาสอน ไม่พาไปเข้าหนังสือเรียนเข้าแกรม่าจริงจัง แต่สุดท้ายก็เข้ามาแล้วค่ะ /ปาดเหงื่อ ? ตอนนี้ก็พยายามไปช้าๆ เรื่อยๆ น้องจะได้ไม่โอเวอร์โหลด หานู่นนี่มาคั่นบ้าง ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์นะคะ!?