เย้ เฮลโหลค่ะทุกคนสบายดีไหมคะ✧٩(ˊωˋ*)و✧
ก็กลับมาพบกันอีกครั้งในเอนทรี่ที่ 3 นะคะ หลาย ๆ วันที่ผ่านมาเราค่อนข้างยุ่งกับงานที่บ้านมาก ๆวีคนี้เลยมาลงบล็อกช้าไปหน่อยค่ะ แหะ ๆ5555555 (เปล่าอู้น้า---)
สำหรับเนื้อหาในวีคนี้เราอยากจะพูดถึงเรื่อง
โดยส่วนตัวเรื่องนี้ค่อนข้างใหม่สำหรับเราค่ะฟังดูทีแรกละเหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ คือ โคตรยาก 5555555555555555 เพราะว่าถ้าถามว่าเรานี่มันเป็นคนแบบไหนเราก็คงตอบแบบเล่นๆ บอกไปตามตรงได้นะคะ แต่อันนี้มันคือใช้งานโอกาสทางการอย่างการสมัครงาน..........คือการเขียนพรีเซ้นต์ตัวเองเวลาสมัครงานเนี่ย มันคือการเขียนอวยตัวเองยังไงก็ได้ให้ดูดีและดูไม่นาร์ซิสจนเกินไปอะค่ะ ทั้งหมดจะต้องเบสออนความจริง และไม่เว่อวังจนเกินไปจากที่เราเรียนมาในคาบบวีคนี้เราก็ได้มีโอกาสฟังการบรรยายจากท่านผู้เชี่ยวชาญ(เป็นเกียรติมากค่ะ*กราบ*) ซึ่งเราก็ได้สรุปมาเป็นลิสต์ “ข้อควรคำนึง” เวลาเขียน
โดยทั่วไปแล้วการแอพพีลฝ่ายตรงข้ามที่เขาไม่เคยรู้จักเรามาก่อนเนี่ยการพูดถึงข้อดี หรือว่าข้อเสียก็เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อย และมีความชัดเจนในการพรีเซ้นความเป็นตัวเราได้ดีมากๆ เลยค่ะ อย่างเช่นข้อดีของเราคือเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ถ้าได้รับมอบหมายงานมาแล้วเราจะวางแผนเลยว่าต้องทำให้เสร็จภายในเวลาไหน(โดยมากจะพยยทำให้เสร็จก่อนหนึ่งวันเดดไลน์) ซึ่งผลก็คือเราจะสามารถจัดสรรตารางชีวิตให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและไม่ต้องเครียดมากอะไรแบบนี้ค่ะหรืออีกข้อก็คือเราเป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ ถึงเวลาเสียใจมันจะมีเฟลบ้างแต่เราไม่ค่อยจมกะมันมากเท่าไหร่ค่ะ(ถ้าถามคติประจำใจก็อาจจะเป็น I don’t give a * 55555555555) ถ้ารู้จักข้อดีของตนเองแล้วมันจะเขียนง่ายมากค่ะเราก็เขียนไปตามที่เราคิดว่าเราเป็น แต่ควรมีเค้าความจริงนะ ไม่ใช่มโน
ส่วนข้อเสียนี่เราว่าแล้วแต่คนจะเขียนเลยค่ะจากที่เราอ่านของเพื่อน ๆ ในคลาสมาก็มีบางคนเขียนข้อเสียของตัวเองแล้วใช้ลีลาในการเขียนพลิกให้ตัวเองดูน่าสนใจขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนคนหนึ่งในคลาสเขาเขียนประมาณว่าตัวเองไม่ชอบทำงานเบื้องหน้าแต่ชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่าแล้วเขาก็ยกความสำคัญของงานเบื้องหลังประกอบกับประสบการณ์ที่เขาได้ทำงานเบื้องหลังเพื่อให้สิ่งที่เขาเขียนมีน้ำหนักมากขึ้น โดยส่วนตัวเราประทับใจของเพื่อนคนนี้มาก ๆ เลยค่ะ^^
*ข้อควรระวัง* บางสกิลอาจจะไม่ใช่ข้อดีก้ได้เช่น เป็นคนตรงต่อเวลา เพราะHRบางบริษัทเขาอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำอยู่แล้วนะคะ;;__;;
บางทีเราก็ไม่รู้ใช่ไหมคะว่าตกลงเราเป็นคนแบบไหนแล้วบางทีก็ไม่มีคนให้ถามด้วย ไม่เป็นไรค่ะ เรามีสิ่งนี้มานำเสนอมันคือหลักสามอย่างที่จะช่วยให้เรานึกออกว่าตกลงเรามีดีตรงไหนกันแน่ได้ค่ะ555555555555
WILL=
CAN=
MUST= 使命感を持って取り組めるこ
ไม่รู้ว่ามันจะช่วยทุกคนได้ไหมแต่ถ้าไม่รู้จะ自己分析
(ขอบคุณต้นคิดจาก
การเขียนว่าเราคิดหรือตั้งเป้าว่าจะเป็นเช่นนั้นโดยใช้คำว่า “พยายาม” เป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่มันจะขาด 説得力
การทำให้ผู้อ่านเห็นเส้นทางที่เราจะใช้เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่เราหวังไว้จะช่วยให้
ข้อนี้สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ก่อนเราจะไปสมัครงาน หรือยื่นทุนอะไรก็แล้วแต่ เราต้องเขียนแสดงด้วยค่ะว่าเราเนี่ย“เหมาะกับสถาบัน/องค์กร” ยังไง แล้วทำไมเขาต้องเลือกเรา เพราะถ้าเราเป็น HR
สำหรับเอนทรี่ก็น่าจะมีเพียงเท่านี้ค่ะ ทั้งหมดเป็นลิสต์ที่เราสรุปด้วยตัวเอง มีทั้งที่ได้จากในคาบแล้วก็ที่เราไปหามาเองค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ(๑`·ᴗ·´๑)
ปล. เรายังไม่ค่อยชินกับเว็บนี้ ถ้าฟ้อนต์มันแปลก ๆ ต้องขออภัยด้วยนะคะ แง(T▽T)
ชอบการแบ่งเป็นข้อๆ (มีแค่ 4 ข้อ) จำได้ง่ายดี แถมยังมีการยกตัวอย่างประกอบด้วย ทำความเข้าใจตามง่ายมากเลยค่ะ