เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กาลครั้งหนึ่ง ฉันเป็นเด็กฝึกงานSASAPRAEW
โค้งสุดท้าย
  •           25 กรกฎาคม 2564

              หลายวันที่ผ่านมากับการทำงานแบบ WFH ผ่านไปอย่างราบเรียบ เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีอะไรให้น่าตื่นเต้นเสียเท่าไหร่ เนื่องจากว่างานที่ได้รับมอบหมายมายังคงเป็นงานในรูปแบบเดิมๆ เช่น การออกแบบโปสเตอร์ทรงพระเจริญ ๑๒ สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ โปสเตอร์ทรงพระเจริญ ๒ เมษายน วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่นอกจากนี้ก็ยังมีงานออกแบบบัตรนักศึกษาฝึกงานที่ทำให้เราเริ่มสนุกขึ้นมากบ้าง และไม่รู้ว่าเพราะสนุกหรือเราว่างมากถึงได้ออกแบบเพลินมากไปหน่อยถึง 8 แบบด้วยกัน ซึ่งในขณะที่เพื่อนร่วมฝึกงานตำแหน่งเดียวกันอย่างพิมกับวิวออกแบบกันอยู่ที่คนละ 4 แบบ และเรื่องที่คาดไม่ถึงซึ่งเรายังคงงงมาจนถึงตอนนี้ก็คือบุคคลที่พวกเราเลือกมาเป็นแบบบนบัตรนักศึกษาฝึกงานดันเป็นคนเดียวกันหมดอย่างที่ไม่ได้มีการนัดหมายใดๆ เลย นั่นก็คือ บิวกิ้นและพีพี นักแสดงและนักร้องชาวไทยในสังกัดค่ายนาดาวบางกอกที่วิวชื่นชอบมากเป็นพิเศษนั่นเอง 55555 

              27 กรกฎาคม 2564

              นี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้วก็จะครบกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการฝึกงาน เรียกว่าเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับการฝึกงานในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อคิดว่าใกล้จะฝึกงานจบแล้วทีไรเราก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ เพราะวันเวลาช่างผ่านไปเร็วนัก เหมือนว่าเราเพิ่งเริ่มฝึกไปมีกี่วันนี้เองทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว และอีกอย่างที่ทำให้เราอดคิดไม่ได้ก็คือเมื่อฝึกงานจบแล้วก็หมายความว่าอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงช่วงเวลาแห่งการเปิดเทอมที่มาพร้อมกับสถานะใหม่นั่นก็คือ นิสิตชั้นปี 4 ซึ่งเป็นการเรียนชั้นปีสุดท้ายก่อนที่จะจบออกไปเผชิญหน้ากับโลกที่กว้างขึ้นในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นเราเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังมีชีวิตเหลือไปถึงตอนนั้นได้หรือไม่ เพราะสถาการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ก็ทำให้เราหนักใจและเครียดอยู่ทุกวันจนไม่สามารถจะแน่ใจกับอะไรได้เลย...เฮ้อ!

              หลังจากที่คิดนั่นคิดนี่ไปมากมาย เราก็พยายามดึงตัวเองให้กลับมาสู่ปัจจุบัน และแล้วงานที่เราคิดว่าน่าจะเป็นงานสุดท้ายก่อนฝึกงานจบก็มาทำให้เราหยุดฟุ้งซ่านได้นั่นก็คืองานออกแบบ Directory artHUB@bacc ขนาด A3 งานนี้ดูเหมือนไม่ยากแต่ก็เล่นทำเราปวดหัวอยู่วันสองวัน เพราะคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ต่างจากต้นแบบที่พี่ไนซ์ส่งมาเป็นตัวอย่างให้ดู ซึ่งเราคิดว่าอะไรที่มีตัวแบบให้ดูมักจะทำให้เราเผลอยึดติดกับงานนั้นๆ ไปอย่างไม่รู้ตัว เราเลยรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับงานนี้ของตัวเองสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่มันเป็นงานสุดท้ายที่เราควรจะทำได้ดีกว่านี้

              ซึ่งเมื่อส่งชิ้นงานไปแล้วเราก็ถูกให้แก้เพียงปรับสีให้เข้ากับโลโก้มากขึ้นและอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกให้แก้ก็คือคำว่า "หอศิลปกรุงเทพฯ" ซึ่งแต่เดิมเราเขียน "หอศิลป์กรุงเทพฯ" แบบนี้มาตลอด เรารู้สึกเขินและอายมากที่ฝึกงานมาจนกระทั่งใกล้จะจบอยู่แล้วยังเขียนชื่อไม่ถูก และที่เจ็บใจกว่านั้นคือในตัวอย่างก็มีข้อความให้ดูแต่เราก็ยังเขียนผิดอยู่ดี งื้อออTT

              และเพื่อเป็นการเก็บไว้เตือนตัวเอง เราจะขอเขียนย้ำไว้ในนี้ว่าการเขียนที่ถูกต้องนั้นเขียนได้อย่างไร ^^

    หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

    หอศิลปกรุงเทพฯ

    หอศิลป์

    ...

              

                

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in