ไม่นานเกินรอ ไวน์ขาวเย็นเฉียบ และถาดไม้ที่มีวิทเทจเชดดาร์ชีสสีเหลืองนวล และบรีชีสเนื้อนิ่ม เคียงข้างมากับขนมปังหั่นขวางและแครกเกอร์สี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นใหญ่ มีมะกอกป่าดองลูกเล็กๆและหัวอาร์ติโชคหมักเครื่องเทศอยู่ในชามกระเบื้องสีขาว
" ขอบคุณค่ะ" เธอเห็นความใส่ใจและความปราณีตในการจัดวางอาหารของเขา
"ไม่เป็นไรครับ ทานอาหารให้สนุกนะครับ" เขาส่งยิ้มแล้วเดินจากไป
เสียงเพลง "I wished on the moon" ของนักร้องหญิงเลื่องชื่อบิลลี่ ฮอลิเดย์ ดังขึ้นจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง เธอลิ้มรสกรีจิโอ พลางทอดสายตาไปยังสนามหญ้าของสวนสาธารณะเบื้องหน้า รสสดชื่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิของมันเข้ากันกับชีสที่เลือกมาอย่างดี สิริรู้สึกว่าแค่ความพอใจต่อสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ทำให้ตัวเองมีความสุขแล้ว
เธอตะโกนบอกชายเจ้าของร้านว่านี่เป็นเพลงโปรดของเธอเพลงหนึ่งเลยทีเดียว เขาดูยินดีมากที่เธอชอบ
" ถ้าอยากนั้นคุณน่าจะชอบเพลงต่อไปด้วย " เขาว่า และแล้ว นีน่า ซีโมนก็ขับร้องเพลงที่น่ารักของเธอขึ้นมา ดนตรีโทนสว่างไสวกับทำนองที่ทำให้ใจเบิกบานของ " Here come the sun" ทำให้บ่ายวันอาทิตย์ปลายฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่นเช่นนี้สดใสยิ่งขึ้น
สิริรู้สึกสนุกกับการฟังเพลง เธอจึงคิดว่าจะขอเพลงที่เธอรำลึกได้ว่าเคยฟังจากร้านนี้ "today more than yesterday" อีกครั้งหนึ่ง
แต่เธอคิดอย่างไรก็ไม่ทราบได้ กว่าจะรู้ เธอก็หลุดคำถามนี้ออกไปเสียแล้ว
" ไม่ทราบว่าคุณรู้จักเจคไหมคะ เจคที่ทำงานเป็นช่างถ่ายภาพสารคดีน่ะค่ะ"
" เจค ปีเตอร์สัน ใช่ไหมครับ" เขาถามเพื่อความมั่นใจ
" ค่ะ" สิริรับคำ เธอไม่ได้บอกความจริงกับเจ้าของร้านไปทั้งหมดว่าเธอรู้นามสกุลของเขาผ่านการเสริชหาข้อมูลทางอินเทอร์เนต หลังจากวันที่พวกเขาเจอกัน เธอคิดเข้าข้างตัวเองว่าอย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าคนแปลกหน้าที่เธอคุยด้วยนั้นไม่ใช่คนโกหกพกลม
" ถ้าอย่างนั้นก็รู้จักครับ เขาเป็นลูกค้าประจำร้านเรามาหลายปีแล้ว ผมชื่นชมเขามาก เค้าเป็นคนหนุ่มไฟแรง อุดมการณ์เหลือล้นทีเดียว เอ... แล้วคุณรู้จักเค้าได้ยังไงครับ"
" เอ่อ...เค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนน่ะค่ะ เค้าเคยแนะนำว่าถ้าชอบแจ๊สต้องมาร้านนี้ให้ได้" สิริพูดโกหกออกไป ด้วยรู้ว่าการพบกันของเธอและเขาอาจจะดูแปลกประหลาดเกินไป นอกจากนี้เขายังไม่ใช่เพื่อน หรือแม้แต่คนรู้จักของเธอด้วยซ้ำ
" เค้ามาที่ร้านบ่อยไหมคะ" สิริถามต่อด้วยความอยากรู้
" มาทุกครั้งเมื่อมีโอกาสนะครับ ปีหนึ่งอาจจะสามหรือสี่ครั้ง ส่วนใหญ่เขาทำงานต่างประเทศนานๆจะกลับบ้านทีหนึ่งใช่ไหมล่ะครับ ครั้งที่แล้วก็ได้คุยกันนิดหน่อยตอนที่เขาพาแฟนคนสวยมาทานดินเนอร์ด้วย เขาเล่าเรื่องตอนไปดักถ่ายฮิปโปที่แอฟริกาใต้ให้ฟัง น่าอิจฉานะครับ ชีวิตของเขาตื่นเต้นดี" เจ้าของร้านเล่าอย่างออกรส ก่อนที่จะขอตัวไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใหม่
สิริหมุนแก้วก้านสูงในมือ แดดอ่อนที่เคยคลอเคลียกับสนามหญ้าเขียวขจีนั้นเคลื่อนตัวช้าๆไปยังทิศตะวันตก ช่วงวันของฤดูใบไม้ร่วงช่างสั้นนัก เอลล่า ฟิจเจอรัล เปล่งเสียงร้องกระทบวิญญาณกับเพลง " cry me the river" ด้วยท่วงทำนองแสนไพเราะจับใจ
" ไม่มีอะไรเกินความคาดหมายเลยสักนิดนี่นา" สิริบอกตัวเอง แม้ว่าที่แท้แล้วหัวใจจะเดินผิดจังหวะไปสักหน่อยเมื่อตอนที่ฟังเรื่องราวของใครอีกคนในชีวิตเขาก็ตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in