เครื่องปรับความร้อนเสียงหึ่งๆกับไฟจากหลอดนีออนสว่างจ้าทำให้ห้องสี่เหลี่ยมทึมเทาที่ดูน่าเบื่อนั้นยิ่งเพิ่มความรู้สึกเหนื่อยหน่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากโต๊ะทำงานว่างเปล่าสองตัวที่อยู่ติดกันแล้วก็มีตู้ใส่หนังสือและตำราจำนวนหนึ่งอยู่ติดผนังข้างประตู โต๊ะของสิริหันหน้าออกไปยังหน้าต่างที่กิ่งก้านของต้นเมเปิ้ลแผ่ขยายราวกับม่านบังตาชั้นดีอยู่ด้านนอก ในต้นฤดูใบไม้ร่วง สีเหลืองปนส้มและแซมด้วยแดงจัดจ้าของใบเมเปิ้ลแต่งแต้มอยู่ทั่วทุกกิ่งก้าน สีสวยของมันตัดกันฉับกับฉากหลังของฟ้าสีน้ำทะเลยามกลางวันที่ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆ บางครั้งมันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้สิริอยากตื่นมาทำงาน แต่หากเวลาของความงามเหลือเชื่อเช่นนี้อยู่ให้เธอชื่นชมได้ไม่ถึงสี่สัปดาห์ด้วยซ้ำ ตอนนี้ต้นเมเปิ้ลหลากสีหลือแค่ใบสีนำ้ตาลกรอบที่รอวันทิ้งต้นอย่างจำนนต่อชะตากรรม
สายลมเมื่อพลบค่ำพัดโบกจนกิ่งเมเปิ้ลส่ายไหวเสียงดังแกรกๆ สิริปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์และถอดแว่นตาออกช้าๆเธอนวดขมับพลางถอนหายใจ เย็นวันศุกร์เช่นนี้คนส่วนใหญ่จะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บ้างก็เลี่ยงรถติด บ้างก็มีนัดทานข้าวกับคนรักหรือเพื่อนฝูง สิริไม่ต้องรีบร้อนที่จะไปไหนเช่นเคย เธอไม่มีคนรัก หรือกระทั่งเพื่อนสนิทที่รอฉลองวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยกัน
สิริได้รับทุนจากรัฐบาลของที่นี่มาเรียนต่อระดับปริญญาโทเมื่อสองปีก่อน ระหว่างเรียนเธอมีเพื่อนสนิทอยู่สองคนคือโทมิโกะ สาวร๊อคเกอร์จากญี่ปุ่น และแอเดรียนาสาวงามตาคมจากบราซิล พวกเธอเรียนสาขาเดียวกันและแชร์บ้านกันอยู่ด้วย พวกเธอไปไหนมาไหนก็ตัวติดกัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่ธอได้รับโทรศัพท์จากวีรวุฒิหนุ่มไทยสาขาวิศวกรรมเคมีที่กำลังหาเช่าบ้านอยู่โดยบังเอิญ
และจากนั้นวีรวุฒิเข้ามาเป็นชายหนุ่มหนึ่งเดียวในบ้านแก็งค์สาวโสด เขาทำตัวประหนึ่งแชปเปอโรนและคนขับรถให้ทุกคนในบ้าน ตอนแรกพวกเธอเดากันว่าเขาคงจะหลงเสน่ห์ของแอเดรียนาเป็นแน่ เพราะเมื่อวีรวุฒิรู้ว่าแอเดรียนามาจากบราซิลเขาก็ชวนคุยเรื่องต่างๆของประเทศลุ่มนำ้อเมซอนเป็นวรรคเป็นเวร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ประวัติศาสตร์ เรื่องงานคานิวัล เรื่องทีมฟุตบอลทีมชาติ เรื่องอาหาร แต่สุดท้ายถึงรู้ว่าคุณพ่อเขาเคยเป็นทูตอยู่ที่นั่น และเขาได้ไปเยี่ยมคุณพ่อเมื่อตอนเด็กๆเลยมีความผูกพันกับประเทศนี้เป็นพิเศษ
สิรินึกถึงวันเวลาที่มีความสุขเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย โทมิโกะกลับญี่ปุ่นทันทีเมื่อเรียนจบและตอนนี้ก็แต่งงานและกำลังตั้งท้องได้สามเดือนแล้ว แอเดรียนานั้นย้ายไปอยู่ประเทศแถบแสกนดิเนเวียกับแฟนหนุ่มนักโบราณคดี ส่วนวีรวุฒิ ....เธอรู้เลาๆว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่จะกับใครมันก็คงไม่ใช่ธุระการอะไรของเธอนี่นะ
" สิริ" เสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง ทำเอาเธอสะดุ้งโหยง
" อ้าว ใจลอยไปถึงหน้าตึกแล้ว" อีกเสียงแซวขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเธอเหลียวกลับไปดู ก็พบจอห์นหนุ่มไอริชและอลิชา สาวศรีลังกา เพื่อนร่วมโครงการวิจัย ที่โผล่หน้ามาหยอก
"ฉันนึกว่าพวกเธอกลับไปแล้วซะอีกแน่ะ" นำ้เสียงของเธอออกจะประหลาดใจ
"ก็ว่าจะกลับอยู่หรอก แต่หลังจากเดินชนโปรเฟสเซอร์ไมค์ที่หน้าตึก แล้วพูดคุยกันสองสามคำ เลยคิดว่ากลับขึ้นมาชวนเธอไปกินเบียร์ดีกว่า" จอห์น อธิบายถึงสาเหตุด้วยนำ้เสียงทุ่มต่ำที่แต่ละคำดูเหมือนจะพันรวมกันในคอแบบสำเนียงไอริชที่เธอชอบฟังหนักหนา เธอเคยบอกจอห์นว่ามันทำให้เธอคิดถึงนักร้องไอริช "เดเมียน ไรซ์ " ที่เป็นแฟนในจินตนาการของเธอ
"ฉันว่าคงจะไม่ใช่แค่สองสามคำแน่ๆ" สิริหันไปมองหน้าอลิชาอย่างรู้เท่าทัน อลิชาหัวเราะกิ๊กออกมา พลางหยิบโค้ตส่งให้เธอ
"ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง"
พวกเขาเดินออกจากห้อง ทิ้งกระจกที่มีเงาสะท้อนจากกิ่งเมเปิ้ลไหวเอนไว้เบื้องหลัง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in