...
ตั้งแต่เด็กจนโตฝันมาตลอดว่าอยากไปเรียนเมืองนอก
เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ตาลุกวาวทุกครั้งที่มองเห็นพระจันทร์เต็มดวง
เหมือนคนที่เฝ้าภาวนาทุกวันไหว้พระจันทร์ว่าขอให้ได้ไปท่องอวกาศซักครั้ง
แต่คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ก็เลยต้องดิ้นรนพอสมควร ...
จำได้ว่าครั้งแรกที่รู้สึกอยากไปเรียนต่อเมืองนอกคือตอนมัธยมต้น
ตอนนั้นเว็บเด็กดีกำลังบูม นอกจากส่องรูปเนตไอดอลยุคแรกในบอร์ดรูปคนน่ารักแล้ว
ก็มีบอร์ดเรียนต่อต่างประเทศนี้แหละที่ชอบเข้าไป
พอๆกับเว็บวิชาการดอทคอมที่เต็มไปด้วยทุนเรียนต่อ
ด้วยความเป็นเด็กบ้านนอก ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละทุนมันแข่งขันสูงแค่ไหนใช้เงินเท่าไหร่
ยอมรับว่าตอนนั้นคิดว่าได้ทุน = ไม่ต้องออกเงินเอง
ทุนแรกที่ติดอยู่ในความทรงจำคือทุนไปเรียนต่อมัธยมปลายที่อังกฤษ
แต่แล้วความเป็นจริงของชีวิตก็ค่อยๆหล่อหลอมเราว่าโลกมันกว้างกว่าแค่ตำบลที่เราอยู่
โอกาสในการไปเรียนม.ปลายที่อังกฤษแบบในหนัง Wild child ที่เอ็มม่า โรเบิร์ตเป็นนางเอกก็จบไป
พอเข้าม.ปลายมาอยู่ในอำเภอเมืองก็เลยได้เปิดหูเปิดตาว่าคนเก่งมันมีเยอะเหมือนกันนะ
โชคดีที่มีเพื่อนชวนไปสอบ AYC ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
อ่านในเอกสารที่เขาแจกมาก็คือเป็นการสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอกนั้นแหละ
ตอนนั้นตาลุกวาวเพราะถ้าเราสอบได้อันดับแรกๆในประเทศนิวซีแลนด์เราแทบจะไม่ต้องจ่ายเงินเลย
แต่แล้วชีวิตจริงก็มักจะตบหน้าเราให้ตื่นขึ้นมาจากความฝันเสมอ
จำได้ดีถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ AYC ส่งผลสอบมาให้ เขาบอกว่าเราได้ไปนิวซีแลนด์
แต่เป็นอันดับที่ไม่ได้สูงมากเลยต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณแสนกว่าบาท
แต่นี้มันชีวิตจริงนะเว้ย
“ถ้าแม่เอาแสนนึงให้เราไปเรียนระหว่างนั้นก็ต้องส่งเงินให้เดือนละหลายหมื่น
แกทำใจได้หรอกที่จะต้องเห็นคนที่บ้านลำบาก เห็นน้องลำบากเพราะต้องเอาเงินให้เราไปเรียนนะ ..”
เป็นคำพูดที่ไม่มีคำหยาบ ไม่มีคำปฏิเสธในประโยค แต่กลับทำให้รู้สึกว่าการตัดสินใจไปคือสิ่งที่ผิด
แน่นอนว่าที่แม่พูดไม่ได้มีข้อไหนที่โอเวอร์เกินจริง บ้านเราไม่ได้มีเงินอะไรมากมาย
ไม่เป็นไรหรอก
ถ้าอะไรมันจะเป็นของเราซักวันมันก็จะเป็นของเรา
โอกาสในชีวิตก็เหมือนกัน
.
.
.
มั้ง ?
โอกาสก็เหมือนข้าวของที่ไหลมาตามแม่น้ำ บางคนโชคดีก็ได้ยืนอยู่ต้นน้ำ
สิ่งที่เราต้องทำคือรอเวลาที่เหมาะสม
เมื่อของที่เราอยากได้ไหลผ่านมาไกลที่สุดที่แขนของเราจะยื่นออกไปเก็บเกี่ยวมันมาไว้กับตัวได้ ...
เวลาผ่านไปพร้อมกับความฝันที่ไม่เป็นความจริงซักที
ได้แต่มองดวงจันทร์ที่อยากไปแล้วใช้เท้าเบอร์ 39 เดินย้ำดินไปเรื่อยๆ
...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in