"I hit the point when I realized I had to aim high and fail, fail, fail in order to keep growing."
VIDEO
ข้อความข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งที่ยกมาจากทวีตของ Brendon Urie นักร้องนำวง PANIC! At The Disco ที่ใส่ไว้ใต้คลิปเพลง High Hopes ซิงเกิ้ลที่สามในอัลบั้มที่หกชื่อ "Pray for the Wicked" ซึ่งวางจำหน่ายในวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนข้อความเต็มที่เขากล่าวถึงเพลงนี้คือ
"I spent too long not setting my expectations high enough, worried about how it felt to fail. I hit a point when I realized I had to aim high and fail, fail, fail in order to keep growing. This one is for all of you who helped me go for it all. I thank you"
แปลว่า "ผมเสียเวลาไปมากกับการไม่ตั้งความหวังไว้ให้สูงพอ มัวกังวลแต่ว่ามันจะรู้สึกแย่แค่ไหนถ้าผมล้มเหลว จนมาถึงจุดที่ผมคิดได้ว่าผมน่าจะตั้งความหวังให้สูงเข้าไว้ และล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อที่จะเติบโตขึ้น ผมจึงขอมอบเพลงนี้เพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่คอยช่วยให้ผมได้ทำตามความฝันในทุกๆ ครั้ง"
เนื้อเพลง + คำแปล
Had to have high high hopes for a living
Shooting for the stars when I couldn’t make a killing
Didn’t have a dime but I always had a vision
Always had high high hopes
ผมเคยต้องกล้าฝันเพื่อให้อยู่รอด
ตอนที่ยังหาเงินไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ ผมก็ฝันไปไกลถึงดวงดาว
ตอนที่ไม่มีเงินสักแดง แต่ผมยังเห็นหนทางให้ก้าวไป
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
Had to have high high hopes for a living
Didn’t know how but I always had a feeling
I was gonna be that one in a million
Always had high high hopes
ผมเคยกล้าฝันเพื่อให้อยู่รอด
ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ผมก็เชื่อเสมอว่า
จะได้เป็นหนึ่งในล้าน
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
Mama said
Fulfill the prophecy
Be something greater
Go make a legacy
Manifest destiny
Back in the days
We wanted everything
แม่เคยสอนว่า
จงเติมเต็มคำทำนายด้วยความพยายาม
จงกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
จงจารึกความสำเร็จไว้ในกาลเวลา
จงสำแดงชะตาของตน
ในตอนนั้น
เราเคยปรารถนาทุกๆ สิ่ง
Mama said
Burn your biographies
Rewrite your history
Light up your wildest dreams
Museum victories
Everyday
We wanted everything
แม่เคยสอนว่า
จงเผาประวัติทิ้งไป
แล้วสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมา
จุดประกายความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจขึ้นมา
สร้างชัยชนะที่จะต้องจารึกในประวัติศาสตร์
ทุกเมื่อเชื่อวัน
เราเคยปรารถนาทุกๆ สิ่ง
Mama said don't give up, it's a little complicated all tied up, no more love and i hate to see you waiting
แม่เคยสอนว่าอย่ายอมแพ้ ชีวิตก็แค่ซับซ้อน
ยุ่งเหยิง ปราศจากความรัก และแม่ไม่อยากเห็นลูกรอคอยอะไรอีกต่อไป
Had to have high high hopes for a living
Shooting for the stars when I couldn’t make a killing
Didn’t have a dime but I always had a vision
Always had high high hopes
ผมเคยต้องกล้าฝันเพื่อให้อยู่รอด
ตอนที่ยังหาเงินไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ ผมก็ฝันไปไกลถึงดวงดาว
ตอนที่ไม่มีเงินสักแดง แต่ผมยังเห็นหนทางให้ก้าวไป
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
Had to have high high hopes for a living
Didn’t know how but I always had a feeling
I was gonna be that one in a million
Always had high high hopes
ผมเคยต้องฝันไกลเพื่อให้อยู่รอด
ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ผมก็เชื่อเสมอว่า
จะได้เป็นหนึ่งในล้าน
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
Mama said
It’s uphill for oddities
The stranger crusaders
Ain’t ever wannabes
The weird and the novelties
Don’t ever change
We wanted everything
แม่เคยสอนว่า
ชีวิตอาจจะยากลำบากหากเราแปลกแยก
แต่จงเป็นนักรบจากดินแดนอันห่างไกล
อย่าเป็นคนที่อยากจะเป็นเหมือนใครอื่น
จงเป็นความแปลกใหม่และน่าอัศจรรย์
อย่าเปลี่ยนตามคนอื่น
ณ ตอนนั้นเรายังปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง
Stay up on that rise
Stay up on that rise
Stay up on that rise
Never come down
จงอยู่ในจุดที่สูงเข้าไว้
จงอยู่ในจุดที่สูงเข้าไว้
จงอยู่ในจุดที่สูงเข้าไว้
ไม่ต้องลงมาอีก
Mama said don't give up, it's a little complicated
all tied up, no more love and i hate to see you waiting
They say it’s all been done but they haven’t seen the best of me
So I got one more run and it’s gonna be a sight to see
แม่เคยสอนว่าอย่ายอมแพ้ ชีวิตก็แค่ซับซ้อน
ยุ่งเหยิง ปราศจากความรัก และแม่ไม่อยากเห็นลูกรอคอยอะไรอีกต่อไป เขาว่ากันว่าในโลกนี้ไม่เหลือสิ่งใหม่ๆ ให้ทำอีกต่อไปแล้ว
แต่จริงๆ พวกเขาแค่ยังไม่ได้เห็นตัวตนที่ดีที่สุดของผม
ฉะนั้น ผมยังคงเหลือโอกาสอีกหนึ่งครั้ง และจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง
Had to have high high hopes for a living
Shooting for the stars when I couldn’t make a killing
Didn’t have a dime but I always had a vision
Always had high high hopes
ผมเคยต้องกล้าฝันเพื่อให้อยู่รอด
ตอนที่ยังหาเงินไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ ผมก็ฝันไปไกลถึงดวงดาว
ตอนที่ไม่มีเงินสักแดง แต่ผมยังเห็นหนทางให้ก้าวไป
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
Had to have high high hopes for a living
Didn’t know how but I always had a feeling
I was gonna be that one in a million
Always had high high hopes
ผมเคยต้องกล้าฝันเพื่อให้อยู่รอด
ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ผมก็เชื่อเสมอว่า
จะได้เป็นหนึ่งในล้าน
ผมถึงได้กล้าคิดกล้าฝันอยู่เสมอ
ก่อนอื่นขอพูดถึงคำศัพท์ที่คิดว่าน่าสนใจในเพลงนี้สักนิด
Shoot for the star แปลว่า ตั้งเป้าหมายเอาไว้สูงๆ หรือพยายามทำในสิ่งที่ยากเป็นพิเศษ ความหมายตามพจนานุกรม The Free Dictionary by Farlex คือ To set one's goals or ambitions very high; to try to attain or achieve something particularly difficult
Make a killing แปลว่า หาเงินได้มากๆ ในเวลาอันรวดเร็วโดยไม่ต้องพยายามอะไรมาก ความหมายตามพจนานุกรม Cambridge Dictionary คือ To earn a lot of money in a short time and with little effort
Manifest Destiny ในที่นี้แปลไว้ว่า จงสำแดงชะตาของตน อธิบายข้อความนี้คือ จะหมาย ความถึง ให้แสดงให้คนอื่นๆ เห็นว่าชีวิตของเราถูกลิขิตไว้ว่าจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ จริงๆ แล้ววลีนี้ถือว่ามีความสำคัญในประวัติศาสตร์อเมริกาและเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปีค.ศ. 1840 คือเป็นความเชื่อของอเมริกันชนในสมัยนั้น (ซึ่งความจริงเป็นชาวยุโรปที่อพยพมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา) ว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้อเมริกาขยายอาณาเขตไปทั่วทั้งทวีป และเผยแพร่ประชาธิปไตยและระบบทุนนิยม ความเชื่อนี้เป็นจุดกำเนิดของ Westward Movement และ White Man's Burden ในอเมริกา ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับเพลงเท่าไหร่ แต่เป็นการเลือกใช้คำได้อย่างดี เมื่อสื่อถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อว่าเราถูกลิขิตให้ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวเรา
ในส่วนของเพลง คิดว่าเพลงนี้แปลยากสักหน่อย ความจริงเกือบจะแปลไม่ยากแล้ว หมายถึงถ้าแปลไปเลยว่าแต่ละคำแปลได้ว่าอะไรบ้าง แต่พอแปลดุ่ยๆ ไปก่อน ดันเอะใจว่า ทำไมใช้ Past Tense เยอะจัง เลยลองอ่านอีกรอบแล้วแปลใหม่ เดิมทีคิดว่าเป็นเพลงที่เขียนเพื่อบอกคนฟังว่า ให้กล้าฝันเข้าไว้ ซึ่งในเพลงใช้คำว่า High Hopes แปลตรงตัวคือหวังสูงนั่นแหละ ตอนแปลด้วยความเข้าใจแบบนั้นแล้วเนื้อเพลงมันดูไม่สอดคล้องกัน เลยลองดูกาลของเนื้อหาเพลงว่ามันเป็นอดีต
จึงได้ข้อสรุป (เอาเองแบบโลกสวย) ว่าเป็นเพลงที่เล่าจากมุมที่ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้วมองย้อนกลับไปในสมัยที่ยังวิ่งตามความฝัน หากดูจากที่ Brendon Urie ทวีตเอาไว้ตามด้านบน คือ ทำเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยเหลือเขาในวันที่ยังทำความฝันไม่สำเร็จ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นอาจจะกำลังอยู่ในจุดเดียวกันกับที่เขาเคยอยู่ก็ได้ หรือถ้าเป็นคนทั่วไปหรือแฟนเพลงที่ได้ฟังเพลงนี้ เขาก็ให้กำลังใจว่า ตัวเขาเองกว่าจะเป็นได้อย่างทุกวันนี้ก็ยังเคยต้องวิ่งตามความฝันมาก่อน ขอเพียงแค่ฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอและอย่าเลิกล้มกลางคัน
นอกจากนี้ ในเพลงเขายังใช้คำสอนของแม่เพื่อสื่อกับคนฟังว่าต้องมีทัศนคติแบบไหนถึงจะประสบความสำเร็จได้ อีกนัยหนึ่งคือ เขาอาจจะกำลังขอบคุณแม่ของเขาอยู่ก็ได้ว่าสอนให้มีความฝันและยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อจนสามารถมีผลงานที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ในที่สุด
สุดท้ายนี้ ลองนึกไปตามสิ่งที่เพลงสื่อในเรื่องการทำความฝันอย่างไม่ย่อท้อ เมื่อได้ฟังเพลงนี้ก็อยากให้นึกได้ว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คุณที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ไปถึงฝั่งฝัน เคยมีคนพยายามทำแบบคุณมาก่อน เขาไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ และเขาก็คว้าความฝันนั้นมาได้จริงๆ และยังมีคนอื่นอีกมากมายที่ฟังเพลงนี้ไปพร้อมกับคุณ ลุกขึ้นมาวิ่งตามความฝันเหมือนกับคุณ และในที่สุดเราอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนกันก็เป็นได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in