เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกชีวิตการฝึกงานในสวน Little TreeKarn Thunsuda
4. ค่ายจังหวะชีวิต
  •  ที่ Little Tree House of Learning นอกจากจะมีเวิร์คช็อปในวันเสาร์อาทิตย์แล้ว ในวันธรรมดาช่วงปิดเทอมของเด็ก ๆ ก็จะมีค่ายไปกลับ 5 วัน คือ ค่ายจังหวะชีวิตโดยจะรับสมัครเด็กตั้งแต่ 5-9 ขวบ มาร่วมทำกิจกรรมกันในค่าย โดยจะรับสมัครเด็กเพียง 15 คน 

                   แต่ครั้งแรกที่ฉันได้มาเป็นสต๊าฟในค่ายจังหวะชีวิตนั้น ครูปิ๋มวางตารางวันจัดค่ายผิด ไปจัดในช่วงวันเปิดเทอมของเด็ก ๆ เด็กที่มาค่ายจึงมีเพียงสามคน


                        ภาพจาก : https://www.facebook.com/pg/littletreelearning/photos/?ref=page_internal

                 ในค่ายนั้นเด็ก ๆ ก็ได้ช่วยกันทำอาหารและขนมกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนก็จะมีหน้าที่ของตัวเอง การดูแลก็จะไม่ยากเท่าไรเพราะมีกันไม่กี่คน แต่ในค่ายต่อมามีเด็ก ๆ 15 คน สภาพค่ายก็จะวุ่นวายมากขึ้นเพราะทุกคนชวนกันเล่นกันทั้งวัน ฉันกับเพื่อนที่เป็นสต๊าฟก็จะวิ่งวุ่นกระตุ้นเด็ก ๆ ให้มาช่วยกันทำอาหาร แต่เด็กกลุ่มนี้ก็น่ารักอยู่ที่ยังคอยฟังและทำตามกติกาในการอยู่ร่วมกันบ้าง


                                                     สองสาวพี่น้องจูงมือกันเดินไปบ้านขาว

                   ทุก ๆ เช้าเราจะนัดเด็ก ๆ ให้มาเจอกันที่ค่าเฟ่และเราจะเดินไปยังบ้านขาวด้วยกัน ซึ่งเป็นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ พวกเด็ก ๆ ก็จะได้เดินดูต้นไม้ดอกไม้ระหว่างทาง พวกเด็ก ๆ จะตื่นเต้นมากกับเมล็ดต้อยติ่งที่พอโดนน้ำก็จะแตก กระจายเมล็ดออกมา เด็ก ๆ จะเรียกเมล็ดต้อยติ่งว่าเมล็ดระเบิด บางคนถึงกับเก็บเมล็ดต้อยติ่งใส่ถุงไปปลูกที่บ้านเลย


                                                      เ           ด็กน้อยเก็บดอกต้อยติ่ง

                เมื่อเด็ก ๆ มาถึงบ้านขาวแล้วเราจะให้เด็ก ๆ จับมือกันเป็นวงกลมแล้วร้องเพลงก่อนเริ่มกิจกรรมต่างเพื่อเป็นการคลายอารมณ์ให้สงบลง เด็ก ๆ จะได้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำกันมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมหลักในแต่ละวันคือการทำอาหารเที่ยงเด็ก ๆ จะต้องช่วยกันเตรียมของที่จะทำอาหาร บางวันเราจึงต้องพาเด็ก ๆ ไปเก็บผักผลไม้กันในสวน ถ้าวันไหนโชคดีแม่เป็ดฝักไข่ออกมา เด็ก ๆ ก็จะได้ไปเก็บไข่เป็ดด้วย 


                                               ฝูงเป็ดในสวน Whispering Land


                                    ครูปิ๋มและเด็ก ๆ กำลังช่วยกันเก็บดอกโสนเพื่อไปทำไข่เจียว


    อาหารในค่ายที่เราทำจะเป็นอาหารง่าย ๆ เน้นผักและผลไม้ ทำให้เด็ก ๆ ที่ไม่ชอบกินผักก็ต้องยอมกินด้วย เมื่อเห็นเพื่อนๆ คนอื่นกินกันอย่างเอร็ดอร่อย                                                                                                 นอกจากนี้ในทุก ๆ ค่ายเด็ก ๆ จะต้องมาช่วยกันปอกและขูดมะพร้าวเพื่อทำแกงกะทิกัน บางคนก็ขูดไปกินไปสนุกสนานกันใหญ่ เด็กคนไหนที่พลังเยอะ ๆ ก็จะมาช่วยกันดึงกากมะพร้าวแทน 


                                                             หนุ่มน้อยช่วยพี่ ๆ ดึงกากมะพร้าว


                                                       ถึงค่ายเล็กแต่พวกเราก็ช่วยกันเตรียมอาหาร

    เมื่อถึงเวลาว่างเด็ก ๆ ก็จะชวนกันเล่นนู้นเล่นนี้ตามประสา ในค่ายแรกฉันชวนเด็กเล่นปลาเป็นปลาตายกันเพราะเด็กมีจำนวนน้อยน่าจะเล่นได้ครบทุกคน เด็ก ๆ ก็ติดใจชวนเล่นทุกวันไม่มีเบื่อเลย ค่ายต่อมาเราเล่นเสือกินวัว เด็ก ๆ ที่เป็นเสือกับวัวก็วิ่งไล่กันสนุกสนาน เด็กคนอื่นที่เป็นรั้วก็หัวเราะ ร้องเรียกวัวให้เข้าคอกกันใหญ่ 

    แต่บางวันอยู่ดี ๆ เด็ก ๆ ก็เอาน้ำมาลาดลงพื้นหน้าบ้าน บอกว่าจะช่วยกันล้างให้สะอาด ไม่รู้ว่าจะสะอาดหรือเละไปกว่าเดิม ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่มองหน้ากันและปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นล้างกันไป จนเมื่อเริ่มลามไปในบ้านถึงต้องห้ามเอาไว้ไม่งั้นคงได้ล้างบ้านใหม่กันจริง ๆ 


                                                          เหล่าซินเดอเรลลาที่มาช่วยกันขัดพื้นบ้าน


                                                 เด็ก ๆ กำลังเลือกดอกไม้ไปจัดแจกันแบบโคริงกะ

    ในบางค่ายก็จะมีกิจกรรมอื่นๆ เสริมมาอีกเช่น ย้อมผ้ามัดย้อม เรียนโยคะ จัดดอกไม้  ซึ่งเด็ก ๆ ก็ร่วมทำกิจกรรมกันเป็นอย่างดี 



    เด็กบางคนเคยมาค่ายแล้วติดใจกับการปีนคุณปู่ต้นไทรก็เลยมาค่ายอีกเพื่อจะได้กลับมาปีนต้นไม้ 



    บางคนกลับมาเพราะอยากจะเล่นกับคาปูดาวเด่นของค่ายที่โผล่มาเมื่อไรเด็ก ๆ ก็จะวิ่งกรูไปหาเพื่อลูบท้องเจ้าหมาตัวนี้

    วันสุดท้ายของค่ายเด็ก ๆ จะได้จัดตลาด Little Leaf  เพื่อขายขนมที่เด็ก ๆ ช่วยกันทำ เด็กๆ ก็จะได้มาขายขนมเล่นกัน ในตอนเช้าของวันเราจึงต้องพาเด็ก ๆ ไปเก็บใบไม้แบบต่าง ๆ เพื่อจะมาแยกเป็นเงิน ซึ่งเราต้องเก็บใบไม้มาห้าแบบเป็นเงิน 100 บาท 50 บาท 20 บาท เหรียญ 10 บาท และเหรีญ 5 บาท ต่อจากนั้นก็จะมาช่วยกันเขียนป้ายร้านค้า 

    ขนมที่ขายในตลาดก็จะมีพวกขนมไทยคุ้กกี้ และน้ำสมุนไพร เด็ก ๆ ก็จะต้องแบ่งงานกันว่าใครจะมาเป็นคนรับลูกค้าทอนเงิน และจัดอาหารใส่จาน 


                                                                     เด็ก ๆช่วยกันเขียนป้ายชื่อตลาด



                                                                        ร้านขนมไข่ปลาของเด็ก ๆ 



    ลูกค้าในคาเฟ่มาซื้อขนมของเด็ก ๆ 

    ลูกค้าที่มาตลาดก็จะเป็นคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองของเด็กๆ บางครั้งก็มีลูกค้าในร้านคาเฟ่มาร่วมกิจกรรมกับเด็ก ๆ ด้วย โดยเราจะให้ใบไม้กับลูกค้าคนละ200 บาท เพื่อให้เด็ก ๆ ฝึกคิดเลขทอนเงินกัน

    หลังขายหมดเด็ก ๆ ก็จะได้กลับบ้านไปกับคุณพ่อคุณแม่ที่ซื้อขนมของเด็ก ๆ กันไปเต็มมือ และฉันก็บอกลาเด็ก ๆ ที่อยู่ด้วยกันมา  5 วัน 


                                                                             พวกลิงที่ไม่ยอมเข้าบ้าน







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in