หลังจากได้ไอเดียต่าง ๆ นา ๆ มาประกอบกันในหัวจึงเริ่มสร้างโครงเรื่อง ฉาก ตัวละครขึ้นมา แน่นอนว่าเด็กที่เติบโตมากับละครช่อง 35 7 ไม่มีทางพลาดที่จะหยิบประสบการณ์วัยเด็กมาประกอบในงานเขียน ทั้งคฤหาสน์การแต่งกาย ชื่อ สรรพนามต่าง ๆ ทำให้มักเจอความคิดเห็นที่ว่า ‘เหมือนละครมาก’ อยู่บ่อย ๆ แต่หารู้ไม่ว่าความคิดเห็นนี้แหละที่ทำให้ดีใจทุกครั้ง เพราะตรงตามเป้าประสงค์ที่เราตั้งใจให้วรรณกรรมของเราเป็น
พวกโครงเรื่องกับฉากไม่อยากเท่าไหร่ อย่างโครงเรื่องก็มาจากภาพในหัวเป็นหลัก ส่วนฉากก็อาศัยทำ Mood board ในโปรแกรม Canva ให้เห็นภาพแล้วอธิบายเป็นภาษาเขียนเท่านั้น ทว่าตัวละครนี่แหละที่เป็นปัญหา เพราะเราต้องสร้างตัวละครที่มีบุคลิก นิสัยลักษณะแตกต่างกัน ไหนจะภูมิหลังของแต่ละตัวที่เสมือนเป็นพื้นฐานของสิ่งที่กล่าวไปข้างต้น จึงเลือกที่จะหยิบ MBTI หรือแบบทดสอบประเภทบุคลิกภาพตามทฤษฎีทางจิตวิทยาซึ่งเหล่าวัยรุ่นกำลังฮิตกันอยู่ โดยเราจะเปิดเฉลยของแต่ละไทป์แล้วนำมาใส่ในตัวละครแต่ละตัวว่าอยากให้มีบุคลิกภาพเป็นอย่างไรการแสดงออก ลักษณะนิสัย วิธีคิด แล้วเชื่อมโยงเข้ากับภูมิหลัง รวมไปถึงปมต่าง ๆ ในเรื่องก็จะรวบรวมทั้งหมดใส่ไว้ในแอปฯ Notion
พอปิดเนื้อหาในเรื่องได้ ต่อไปคือส่วนปกที่ดูต้องคิดหนักที่สุด เพราะทักษะทางศิลปะของเราก็ใช่ว่าจะดี จึงเลื่อนหาแรงบันดาลใจในแอปฯ Pinterest เป็นสัปดาห์กว่าภาพในหัวจะออกมาลงตัว โดยเลือกทำปกสไตล์ย้อนยุคนิดหน่อยให้มีกลิ่นอายของความโกธิค จีน ผสมกับความเป็นสื่อสำหรับเยาวชน ออกแบบในแอปฯ Procreate สลับกับ ibis Paint X ซึ่งเราเลือกหยิบจุดเด่นในเรื่องมาเล่นกับหน้าปกเช่น หน้าต่างโค้ง ดอกกุหลาบ พระจันทร์กับดาวที่บ่งบอกเวลากลางคืน และใช้สีปกเป็นสีไทยโทนเพิ่มลูกเล่นความเป็นไทยเข้าไปอีกจนออกมาเป็นปกรอยฝันในวารีแบบที่ชอบ แอบเสียดายนิดหน่อยที่ตัวไทโปชื่อเรื่องน่าปกไม่ค่อยเด่นออกมาเพราะตัวเราที่ดื้อจะเอาสีเงิน ทั้ง ๆ ที่คนรอบข้างต่างเชียร์ให้เป็นสีทองจะได้ดูคล้ายหนังสือเก่ายิ่งขึ้น
ต่อมาเป็นส่วนที่เราตบตีกับมันมากที่สุดของที่สุดนั่นก็คือการจัดรูปเล่มในโปรแกรม Adobe InDesign
สุดท้าย ‘การส่งโรงพิมพ์’ เป็นขั้นตอนที่ตื่นเต้นที่สุด เพราะอยากจับเล่มจริงใจจะขาด โดยโรงพิมพ์ที่เราเลือกเป็นโรงพิมพ์ที่เคยใช้บริการเมื่อตอนเรียนวิชาวารสาร ซึ่งค่าพิมพ์ถูกมากจนนึกว่าทำเอาสังคม เราจึงเบาใจเรื่องงบประมาณที่พิมพ์เล่มทำได้ นับวันรอจนถึงวันรับเล่ม พอได้จับเล่มจริงน้ำตาแทบไหลออกมาเพราะไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะทำวรรณกรรมออกมาได้จริง ๆ คืนนั้นจึงเอาใส่ใต้หมอนแล้วนอนทับหลับปุ๋ยฝันดีไปเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in