เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#514 พุทธทาสลิขิต (เล่มแรก)

  •      
         เราเคยได้ยินเพื่อนๆเราหลายคนที่เขียนพินัยกรรม ถึงแม้เพื่อนๆหลายคนจะอายุยังน้อยก็ยังทำ เพราะเพื่อนๆหลายคนบอกว่า ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต ดังนั้น ควรทำพินัยกรรมไว้ดีกว่า ดังนั้น หนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน แต่เป็นหนังสือพินัยกรรมที่ไม่ใช่เพื่อโลก แต่เพื่อธรรมและความอยู่รอดของคนที่อ่านทุกคน


         เปรียบท่านพุทธทาสเกิดปีงู

    ท่านได้รู้อะไรมากกว่าที่คิด

    อิสรภาพที่ไม่ถูกรอนริด

    นั้นคือจิตว่างจิตประภัสสร

    จิตเดิมเป็นจิตว่างดั่งแท้

    จิตเก่าแค่เป็นจิตสุขทุกข์ศร

    และจิตนำพาตามคำสอน

    หลุดพ้นย้อนศรมาปักตน


         พินัยกรรมที่ท่านเขียนในหนังสือเล่มนี้ โดยเป็นพินัยกรรมชีวิต แบ่งออกเป็นเรื่องราวหลักๆ อยู่ทั้งหมด ๕ ตอน ได้แก่

    ๑. พินัยกรรม

    ๒. ความลับสุดยอด

    ๓. ธรรมะโดยหลักพื้นฐาน

    ๔. ความคิดนึกชั่วขณะที่ต้องรีบบรรทึกไว้ก่อน : แต่จะลืมเสีย

    ๕. ปกิณกะ


         ท่านได้เริ่มต้นอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดนี้ไว้ตามนี้ และทำให้เราคนอ่านที่ตั้งใจ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆปฏิบัติตาม จนค่อยๆมีความเข้าใจและพบกับทางที่เป็นทางสว่างในใจ


    พินัยกรรม


    “เห็นก็เห็น ได้ยินก็ได้ยิน รู้สึกก็รู้สึก แต่อย่าให้มันเข้าไปอยู่ในใจของท่าน (ยึดมั่นถือมั่น) อย่างที่ตรัสว่า “พาหิยะ” เห็นสักว่าเห็น ได้ยินสักว่าได้ยิน รู้สึกก็สักว่ารู้สึก ความตาย (ทุกข์) จักไม่มีแก่ท่าน บัดนี้ อะไรๆมันก็แล่นเข้าไปอยู่ในใจเสียหมด ไม่ว่า ขี้ฝุ่น หรือเพชรพลอยนะโว้ย”


    เราเคยทำได้นะ อยู่หลายครั้ง เป็นหลายชั่วขณะ คือ จะเป็นอย่างที่ท่านบอกจริงๆ เพราะมันเป็นแค่สักแต่ว่า จริงๆอย่างที่ท่านบอก และในขณะนั้น เรารู้ว่า การหมดความยึดมั่นถือมั่นในชั่วขณะเป็นแบบไหน


    ความลับสุดยอด


    “ทุกข์ในความหมายใดก็ตาม จะเกิดอาการทุกข์ทรมานขึ้นมา ก็ต่อเมื่อมีอุปาทานเข้าไปยึดถือ จงรู้อุปาทานให้ดี”


    อุปาทานแห่งความยึดมั่นถือมั่น นั้นทำให้เป็นทุกข์อย่างมากเท่าที่สุดจะเป็นได้ ถ้าหากเรายังหนีไม่พ้นความยึดมั่นถือมั่นนั้น ก็จะไม่หลุดจากทุกข์ได้


    ธรรมะโดยหลักพื้นฐาน


    “อยู่ในสิ่งแวดล้อม (โลกปัจจุบัน) ที่ล้วนแต่ให้ได้เปรียบฝ่ายกิเลส”


    เพราะว่า สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งแวดล้อมแห่งวัตถุนิยม และทำให้คนทั้งหลายหลงใหลในวัตถุนิยม ดังนั้น คนทั้งหลายก็ถูกกิเลสโลภ โกรธ และหลงครอบงำ


    ความคิดนึกชั่วขณะที่ต้องรีบบรรทึกไว้ก่อน 

    : แต่จะลืมเสีย


    “เพราะ “ตัวตน” มิใช่ของมีอยู่จริง เป็นเพียงความรู้สึกที่หลงใหล โง่เขลาด้วยตัณหาอุปาทาน เป็นทั้ง Deluxive & Inusive จึงเป็นทุกข์ เพราะ ”


    ตัวตนไม่มีอยู่จริง เพราะเพียงแค่เป็นอุปาทานแห่งความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนนี้เท่านั้น ถ้าหากเราไม่ถูกอุปาทานหลอก เราจะพบถึงการไม่มีตัวตนในชั่วขณะ และถ้าเรายิ่งรู้ลึก ก็รู้ทุกขณะ จนกระทั่งอุปาทานหมดไปในที่สุด


    ปกิณกะ


    “จิตเดิมเป็นประภัสสร (เรืองแสง) มีลักษณะเหมือนเดิม มิใช่บริสุทธิ์แท้จริง บริสุทธิ์ชั่วเวลาที่ไม่มีอะไรที่มาปรุงแต่ง จึงเป็นประภัสสรชนิดชั่วคราว ครั้งนี้ถูกปรุงแต่ง ให้เป็นทุกข์นานพอสมควร ก็เริ่มฉลาด เบื่อหน่าย ต่อการทนทุกข์ จึงค่อยฉลาด ใช้ความรู้ที่ได้ผ่านมา ทำตัวเองให้กลับประภัสสรชนิดถาวร ถือเป็นพระอรหันต์ ไม่กลับเศร้าหมองได้อีกต่อไป - ประภัสสรถาวร”


    การที่ทุกคนได้พบกับจิตเดิมเป็นชั่วขณะ ก็ยังไม่ได้บรรลุ แต่หากจิตพบจิตเดิมที่ถาวร ก็นำพาหลุดพ้นไปจากมรรค ผล และนิพพาน


         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เป็นธรรมะลึกซึ้งและเป็นธรรมะที่เข้าใจยากบางอย่าง แต่หลายอย่างก็ค่อยๆอ่านก็จะเข้าใจ และสิ่งสำคัญสุดคือการปฏิบัติธรรมตามคำสอนของท่านก็จะยิ่งดี


    LOOK A BREATHE


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in