เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#497 กวีนิพนธ์แห่งรักยี่สิบบท และบทเพลงความสิ้นหวังหนึ่งบท
  • เปรียบราศีกันย์ - หญิงสาว

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ ที่ค่อนข้างอ่านได้และเข้าใจยากนิดนึงเหมือนกัน เพราะเเบบว่า จะเป็นหนังสือเล่มที่ผู้ชายกล่าวตัดพ้อผู้หญิงคนหนึ่ง และบอกรักผู้หญิงคนหนึ่งด้วย ดังนั้น เราเปรียบหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของผู้ชายที่กล่าวถึงผู้หญิงอันเป็นที่รักได้อย่างไพเราะ

         ก่อนที่เริ่มต้นเขียนถึงบทกวีนั้น เรื่องนี้จะมีการบรรยายถึงเรื่องราว ชีวประวัติของนักเขียนคนนี้ก่อน โดยที่ชีวิตของนักเขียนคนนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนมาก จึงทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไม นักเขียนคนนี้ถึงเขียนบทกวีนิพนธ์ออกมาได้ถึงขนาดนี้ เพราะว่า เราเข้าใจเลยว่า “นักเขียนคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมามาก และซื่อตรงกับความคิด” จนบรรยายภาพออกมาได้ขนาดนี้ล่ะค่ะ

    “เรือนกายแห่งหญิงสาว เนินนุชผ่องสกาว มัดเนื้อขาวนวล

    เธอปานภพหล้าคราพร้อมภิรมย์

    กายแห่งชาวไร่ใจเถื่อนของฉันดั้นขุดกายเธอ

    และก่อเกิดบุตรน้อยขึ้นโดยพลันจากเบื้องลึกแห่งปฐพี”

    (ความหมายกล่าวถึงหญิงกับชายที่มีอะไรกัน                 หญิงจึงคลอดลูกออกมา)

         และยังมีการกล่าวถึงความรักในหลากหลายรูปแบบ ที่ทำให้เราเห็นถึงความไม่เที่ยงของความรู้สึกของคำว่า “รัก” เพื่อนๆลองคิดดูว่า เวลาเพื่อนรักคนๆหนึ่ง เรารักคนๆนั้นตลอดเวลาหรือเปล่า มันจะมีในบางครั้งที่เราไม่รักเขา และมีบางครั้งที่เรารักเขามาก ดุจดั่งกวีท่านนี้ที่จะมีการบรรยายถึงทั้งรักและไม่รักไปในทิศเดียวกัน

    “หัวใจอันนับมิได้ของสายลม

    เต้นอยู่เหนือความเงียบงันในห้วงรักแห่งเรา

    ส่งเสียงก้องดังท่ามกลางหมู่ไม้

    ดุจเสียงอุปรากร ไพเราะดุจสวรรค์

    ดั่งถ้อยภาษาแห่งสงครามและบทเพลง”

    (หัวใจที่เต้นตามจังหวะรักอยู่เหนือความเงียบเเห่งสุนทรีย์ส่งเสียงบอกว่ารัก อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของรัก และไพเราะ ดั่งถ้อยคำของภาษาแห่งสงคราม                         และบทเพลงของจิตในรัก)

         อย่างที่บอกกับเพื่อนๆค่ะ คือ เรื่องราวที่เป็นบทกวีที่ตัดพ้อความรู้สึกที่ผู้หญิงทำให้เขาทุกข์จนหมดใจ บรรยายถึงทรวดทรงของผู้หญิงคนนั้น บรรยายถึงผู้หญิงคนนั้นกระทำอะไรกับเขามาบ้าง เพ้อถึงหญิงอันเป็นที่รักอย่งยิ่ง และกวีนิพนธ์เรื่องนี้เป็นคำพูดที่สละสลวยมาก เพราะจะมีการบรรยายให้เราเห็นถึงทั้งความสมหวังและผิดหวังในคำว่า “รัก” แต่อย่างไรก็ถามถามว่า “เราชอบหนังสือเล่มนี้ไหม” เราขอตอบตามตรงว่า “แอบผิดหวังเล็กน้อย”

    “เพื่อให้เธอได้ยิน

    ถ้อยคำของฉัน

    เบาบางรางเลือนลง ในบางคราว

    ดุจร่องรอยแห่งฝูงนางนวลบนหาดทราย”

    (เพื่อให้หญิงผู้เป็นที่รักได้ยินถ้อยคำของเขา                      ถึงแม้บางครั้งจะเลือนหายไปคล้ายกับนกนางนวลบินไป)

    ยกตัวอย่างบางบทที่ชอบ เช่น

    “ฉันคือผู้สิ้นหวัง ถ้อยคำสิ้นเสียงสะท้อน

    ผู้สุดสิ้นสลายแล้วทุกสิ่ง                 

    และผู้เคยครอบครองทุกอย่าง”

    (หมายความว่า ตัวของผู้เขียนเคยทั้งพบเจอกับกับสมหวังมาก่อน แต่บัดนี้ ตัวผู้เขียนก็พบเจอกับผิดหวัง สิ้นหวังอย่างมาก ดุจดั่งเช่น ชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีความผิดหวังและความสมหวังเป็นธรรมดา)

         หนังสือเล่มนี้ออกแนว ๑๘+ แบบต้องแปล เพราะผู้เขียนเป็นผู้ชายเนอะ ก็บรรยายถึงเรือนร่างของผู้หญิงออกมาได้อย่างที่ผู้ชายอธิบายนั้นล่ะ แต่เป็นการเขียนแบบอธิบายออกมาได้ดูเพราะนะ 

         แต่ความเป็นจริงของเราคืออีกแล้วครับท่าน เราไม่ค่อยจะเข้าใจถึงการบ่นของนักเขียนเท่าไหร่ เพราะเรื่องความรักมันก็แล้วไปแล้ว แต่เขาก็ทำเหมือนกับว่า เขาหมดหวัง อาลัย ตายอยากกับเรื่องรักมาก เขากลายเป็นคนหมดหวังและสิ้นหวังอย่างรุนแรง จนทำให้เราที่เป็นคนอ่านนั้นขอบอกว่า ปวดหัวมากค่ะ เพราะเราเคยผ่านรักที่ไม่สมหวัง ก็ไม่ได้ทุกข์ขนาดนี้ 

         และเวลาที่นักเขียนตีความถึงรักที่สมหวัง ก็ดุจอยู่ในทุ่งลาเวนเลอร์ทีเดียว เพราะว่า ความรักของคุณเขาก็แทบทำให้สำลักรักออกมาทีเดียว มันแบบหลายความรู้สึก ทั้งสนุก ขำ สมหวัง ผิดหวัง หลายอย่าง เป็นต้น 

         หรือว่าฉันตีความผิดก็ไม่รู้ ถ้าใครอ่านและตีความคนละอย่างกัน ช่วยกันมาบอกให้เราฉลาดขึ้นมาด้วยเถอะค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะตอนนี้คงต้องขอไปทำใจแปล๊บ ดังนั้นขอยกกลอนของในหลวงรัชกาลที่ ๖ มากล่าวถึงรักนี้ล่ะกัน

         อันพี่สาวกล่าวปลอบขอบใจนัก

    แต่โรครักนี้แรงหาน้อยไม่

    ร้ายยิ่งกว่าโรคาอย่างใดๆ

    ยิ่งกว่าไข้จับหนาวร้าวราญครัน

    แม้มิได้ชื่นชมให้สมจิต

    เหมือนเพลิงพิษเผาอุราแทบอาสัญ

    ไม่เห็นหน้าคู่รักเพียงสักวัน

    จิตก็พลันร้อนผ่าวราวอัคคี

    (จากพระราชนิพนธ์เรื่อง ศกุนตลา                           ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)


         รักหรือรัดคือสิ่งเดียวกันนี้

    รักรัดดีชีวิตดีกว่าใครไหน

    รักรัดร้ายชีวิตแย่กว่าใครๆ

    รักรัดให้ชีวิตตามเป็นไป

    เมื่อรักแล้วย่อมพบทั้งสุขทุกข์

    รักสมสุขคือสมหวังไม่เสมอไป

    รักผิดหวังคือทุกข์อยู่ร่ำไร

    รักอยู่ได้ไม่สมประสงค์เอย

    LOOK A BREATHE

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in