การเเลกเปลี่ยนความทรงจำ
ผมนำอารมณ์อันปวดร้าวของผมในอดีตมาแลกเปลี่ยนกับสมุดโน้ตในปัจจุบัน โดยครั้งก่อน ผมเลือกมาเก็บความทรงจำ และครั้งนี้ ผมได้สมุดโน้ตพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งกลับบ้าน
ปริศนาคืออะไร
ณ ห้องแห่งปริศนา
ธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ย่อมไหลไปตามกระแสอารมณ์ ทั้งอารมณ์ดีและอารมณ์ร้าย ซึ่งคนสมัยก่อนรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อย่างดี โดยตัดสินใจวาดภาพปริศนาธรรมเพื่อชนรุ่นหลังจะได้มาศึกษาและเรียนรู้เจ้าของของตนอย่างถี่ถ้วนและละเอียดลึกซึ้ง และท่านพุทธทาสทำหน้าที่ในการอธิบายภาพเหล่านั้น อย่างแจ่มแจ้ง
[กระแสอารมณ์ เปรียบดั่ง
กระแสน้ำที่ไหลนิ่งและไหลเชี่ยว]
ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่า “อีกส่วนหนึ่งขอให้ทราบไว้ด้วยกันทุกคนว่า ผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ทุกท่าน ล้วนเเต่เป็นผู้มีส่วนช่วยเผยแพร่พระพุทธศาสนา”
ยกตัวอย่างบางตอนในหนังสือ
“ให้ชาติเกิดซากซ้ำ ฤซา
ตาย,แก่,เจ็บ เกิดมา ไม่รู้
สิ้นจบสร่างภพพา เพราะโง่
หลงยักษ์หลงอวิชชาอู้ อกโอ้อนิจจา”
จาก อวิชชา
[หลงในอวิชชา ภพ ชาติ ก็เกิดไม่มีที่สิ้นสุด]
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า “แสดงถึงความหลงในการมีตัวตน ยึดมั่นถือมั่นเลี้ยงไก่ชนของตนเพื่อเอาชนะ นี้เป็นเรื่องตัวกู หลงหล่อเลี้ยงตัวกู” หลงสมัครเป็นทาสของสิ่งที่ตนรัก ตนชอบ เพื่อตัวกู ของกู ยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง ความหลงเหล่านี้รวมกันเป็นยักษ์ใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องตัดให้ขาด คือฆ่าให้เสียด้วยปัญญา สรุปแล้วต้องกำจัดอวิชชา ความโง่หลงงงมงายให้หมดไป จึงจะพ้นทุกขภัยในวัฏฏสงสารอันเกิดจากความโง่ ความหลงได้
“นับน่าชมแบบสร้าง สมบูรณ์
เหตุปัจจัยเพิ่มพูน พรั่งพร้อม
วางว่างทุกสิ่งสูญ แสนสงบ
เสมือนภาพครั้งนบน้อม ท่านี้สีหไสยา”
จาก นิพพาน
[เลิกยึด เลิกถือ เลิกแบก
ก็ละทุกสิ่ง เพื่อนิพพาน]
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า “ภาพพระนอนครั้งนี้เป็นอุปมาของนิพพาน” ที่บรรลุเป็นมรรคผล เป็นพระอรหันต์ บัดนี้ไม่เกี่ยวกับการพบแก้ว ได้แก้วหรืออะไรทำนองนั้นอีกแล้ว เลิกยึดถือแก้วกันเสียที เอาแก้วไปทิ้งเสียที่ไหนก็ได้ เพราะไม่มีความยึดถือในสิ่งใดเลย
“ความหมายสองเรื่องเค้า คล้ายคลึง กันนอ
ที่กล่าวโจรไล่จับถึง ฝั่งน้ำ
ศพลอยอืดผ่านจึง โดดคร่อม ขี่นา
รีบเร่งเร็วพุ้ยจ้ำ จะจับข้ามไป”
จาก พ้นจากอุปาทาน
[เมื่อไร้ซึ่งอุปาทาน ขันธ์ทั้งห้าแล้ว
ก็ย่อมพบทางพ้นทุกข์]
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า “ถ้ายังมีอุปาทานไม่หลุดพ้น” ยังติดอยู่ในทุกข์ ในวัฏฏสงสาร ในกิเลส ก็เหมือนคนตกน้ำหรือจมน้ำ เขาต้องว่ายน้ำอ้อกแอ้ก อยู่ในคนดั่งภาพในมุมล่างซ้าย ถ้าเขาตัดอุปาทานได้ ชนะกิเลส เขาสบาย รำฟ้ออยู่ ดังภาพ พระโยควจร ทางมุมล่างขวา
“ความจริงของ สองสิ่ง คือกายจิต
ชีวิตสิ้น ทุกข์สุข คำนึงหมาย
อุปาทาน หายยึด ถือและว่าย
ไม่มีได้ ในใจ คนพ้นทุกข์”
หากแม้นเมื่อกายกับใจไร้ที่ยึดไว้แล้วอย่างถูกต้อง ก็พ้นทุกข์ได้ฉันใด และหากแม้นเมื่อกายกับใจไร้ที่ยึดไว้อย่างไม่ถูกต้องก็ย่อมทุกข์มากฉันนั้น
[อิสรภาพเกิดจากการวางซึ่งตัวตน]
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in