คำถาม: ธรรมดาของใครก็ตามที่บ้าอำนาจนั้นย่อมนำพาประเทศชาติสู่สิ่งใด
คำตอบ:
๑.สงคราม
๒.หายนะ
๓.คนแตกแยก
๔.ถูกทุกข้อ
คำตอบที่ฉันเลือก ๔.ถูกทุกข้อ
สถานีแห่งฝันสอบถามคุณครั้งสุดท้ายว่า “หากนี้คือคำตอบสุดท้าย ก็ย่อมคือคำตอบที่ถูกต้อง” เพราะข้างหน้าที่คุณจะเดินไป คือ คุณจะไปพบเห็นความจริงของสงคราม หายนะที่เป็นซากปรักหักพังข้างหน้า และสังคมแตกแยก คุณลองเดินเข้าไปดูในประตูนั้นดู คุณจะพบเห็นสิ่งที่คุณอยากลองพบดู
“จงเข้าสู่โหมดสงคราม”
ยะสึโกะ นะอิโต เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง และส่งไปให้ครูเรียง เพื่อให้ส่งไปยังคนที่พอจะช่วยพาเธอกลับประเทศญี่ปุ่นได้ และจดหมายฉบับนั้นเขียนว่า
๙ พฤษภาคม ๒๕๒๒
ฉันชื่อ ... ขณะนี้อยู่ที่ศรีโสภณ ลูกและสามีตายหมดแล้ว ต้องอยู่คนเดียวในประเทศที่ไม่ใช้บ้านเกิด ขอให้ผู้ที่โปรดได้รับจดหมายฉบับนี้โปรดช่วยให้ได้เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นด้วย ...
เพราะจดหมายฉบับนี้ จึงนำมาสู่การช่วยเหลือนำยาสึโกะกลับสู่ประเทศมาตุภูมิ อย่างประเทศญี่ปุ่น โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับเรื่องราวที่ถูกเปิดเผยต่อหน้าชาวโลกทุกคน ถึงความโหดร้ายเกี่ยวกับสงครามเขมร
และหลังจากนั้นอีกเพียงแค่ ๓ ปี หลังจากยาสึโกะแต่งงานใหม่และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เธอก็ได้เสียชีวิตในโรคมะเร็งด้วยวัยเพียง ๔๙ ปี แต่เรื่องราวของเธอกลับยังไม่จบ เพราะบันทึกที่เธอนำมาเปิดเผย
“นรกที่แท้จริงอยู่ตรงหน้า
ไฟแดงฉาน ไฟแห่งการเผา ฆ่าคน
ไฟแห่งโทสะ โลภะ และโมหะ
ที่ทำให้หน้าฉากตอนนี้
เหลือเพียงแค่ซากปรักหังพังกับศพคนจำนวนมาก
เมื่อฉันเห็นก็อดหดหู่ไม่ได้ แต่ฉันก็ต้องเดินต่อไป”
ยาสึโกะเกิดในตระกูลซามุไร และได้แต่งงานไปกับโศ นักการฑูต ตระกูลผู้ดีของเขมร และชีวิตของเธอกับเขาก็มีความสุข เพราะโศดูแลเธออย่างดี และทั้งสองก็มีลูกชายด้วยกันถึง ๒ คน และลูกติดจากภรรยาคนเก่าของโศ อีก ๓ คน แต่แล้ว ความสุขก็จบลง เมื่อสงครามเกิดขึ้น
ลูกชายทั้งสองที่เป็นลูกติดของภรรยาเก่าถูกนำไปเกณฑ์เป็นทหาร และไม่เคยติดต่อข่าวกลับมาอีกเลย คราวนี้เลย เหลือครอบครัวอยู่เพียง ๕ คน คือ โศ ยาสึโกะ ลูกชายทั้งสอง และลูกสาวที่เป็นลูกติดจากภรรยาเก่า ทุกคนต้องตัดสินใจหนีไฟสงคราม
“ฉันพบเห็นความน่ากลัวที่อยู่ภายหน้า
ความอดยาก ความแห้งแล้ง
ประเทศทั้งหมด กลายเป็นไฟ และคนเข่นฆ่ากัน”
ในขณะที่หนีไฟสงครามนั้นไปยังที่ต่างๆ และความลำบาก ความอดยากก็เกิดขึ้น เเละเริ่มต้นที่ลูกชายทั้งสองของยาสึโกะเสียชีวิตเพราะโรคภัยและขาดสารอาหาร คนถัดไปก็คือ ลูกสาวลูกติดจากภรรยาเก่าก็มาตาย และคนสุดท้ายก็คือ โศ สามีของเธอที่ตายในที่สุด
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๑๘ (ลูกชายคนโต)
ลูกชายคนโตของฉันเสียชีวิตบนเสื่อ ใต้ต้นมะม่วง ตอนบ่าย ๓โมง ...
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ (ลูกชายคนเล็ก)
... เห็นโทนี่มีเลือดไหลออกมาจากปาก เมื่อเข้าไปเขย่าตัวดู ก็ปรากฎตัวเขาแข็งทื่อเสียแล้ว สิ่งที่เห็นว่าเป็นเลือดในตอนแรก ที่แท้คือฝูงมดไต่จากบริเวณคอเข้าไปในปาก ...
๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๘ (ลูกติดจากภรรยาเก่า)
... ตีนี่จากไปเงียบๆ เราฝังเธอไว้ข้างหลุมศพของโทนี่ ...
๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๘ (สามี)
... เวลาหนึ่งทุ่ม สามีของฉันหมดลมหายใจ ...
ในระหว่างทางที่ยาสึโกะหนีไฟสงครามอยู่นั้น ยาสึโกะต้องลำบากทำงานหลายอย่าง บางคนก็ถูกนำไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยม และหลายครั้งที่ ยาสึโกะรู้สึกว่า “สามีมาช่วยเธอ” เพราะสามีเธอบอกว่า “อย่าหนีไปทิศใต้” เป็นต้น หรือบางครั้ง เธอก็พบกับเจ้าแม่กวมอิมที่มาให้กำลังใจในความฝัน
๑๕ มกราคม ๒๕๒๒
... คืนนั้น ฉันฝันว่า นั่งรถยนต์ซึ่งสามีเป็นคนขับ ฉันนั่งอยู่ข้างๆเขา สามีบอกฉันว่า ‘อย่าไปทางทิศใต้เลย’ ...
“นี่คือภาพที่ฉันเคยอยากลองเห็นสักครั้ง
แต่เมื่อฉันได้เห็นภาพเหล่านี้
ฉันพบว่า ฉันหดหู่มากที่สุด
ไม่เหลือใครเลย ไม่เหลือกซากอะไรเลย
เหลือแต่เพียงแค่ตัวเองเท่านั้น
ฉันตัดสินใจเดินออกจากประตูออกไป”
เมื่อฉันเปิดประตูออกไปแล้ว ฉันถึงกับอ้วกออกมาทันที ฉันพบว่า “สงครามนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก และเป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความเจ็บปวด รวดร้าว ปวดร้าว และไม่เหลืออะไร นอกจากความแตกแยกที่ไม่เหลือแม้กระทั่งสิ่งที่เรียกว่า “ชาติ”ได้”
“เมื่อมีชาติตอนนี้อยู่ตรงหน้า
เราควรค่าควรรักษาชาติไว้
ทุกคนควรร่วมมือสามัคคีได้
ชาติคงไว้ซึ่งประชาตลอดไป
หากแม้นไร้ชาติศาสนาไว้
และไร้ซึ่งพระมหากษัตริย์นั้น
ทุกอย่างคงพังแทบไม่เหลือพลัน
ชีวิตประชานั้นคงไม่เหลือแม้ที่ยืน”
ฉันภาคภูมิใจยิ่งที่ฉันเกิดในประเทศไทยที่ไม่เคยมีสงครามกันเลยแม้แต่น้อย เราไม่เคยเสียเลือดเนื้อเพื่อเป็นเมืองขึ้นของใคร หรือเราไม่เคยฆ่ากันเพราะประกาศเลิกทาส เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนเกิดขึ้นจาก “สามัคคีธรรมของคนไทยบรรพบุรุษเรานั้นเอง” เพื่อธำรงไว้ซึ่งคนไทย ชนรุ่นหลัง ให้อยู่อย่างผาสุก และฉันขอบคุณสถานีแห่งฝันที่ทำให้ฉันเห็นภาพความโหดร้ายของสงครม
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in