คำถาม: ทำไมคนเราถึงชอบโกหก
คำตอบ: ๑.กลัวคนอื่นไม่พอใจ
๒.ช่วยเยียวยาจิตใจคนอื่น
๓.ช่วยปิดบังความรู้สึกผิด
๔.ถูกทุกข้อ
คำตอบที่ฉันเลือก ขอใช้ตัวช่วย
คุณสามารถใช้ตัวช่วยได้เพียงแค่ครั้งเดียว คือ คำใบ้ที่เปิดออกมาและพบว่า “มองความจริง” และเมื่อคำใบ้เปิด คุณยังมีสิทธิ์ตอบผิดได้ถึงสองครั้ง คุณควรคิดคำตอบดีๆก่อนที่จะตอบทุกครั้ง
คำตอบที่ถูกต้อง ๔.ถูกทุกข้อ
ใช่ คนเราหลายครั้งก็เลือกโกหกเพื่อคนอื่นและเพื่อตัวเอง โดยที่จริงๆแล้วหลายครั้ง คนเราก็ทุกข์จากการโกหก และอยากพูดความจริง แต่บางทีความจริงก็ไม่ตอบโจทย์หลายคนที่ยอมรับไม่ได้ แต่เมื่อไรที่ยอมรับความจริงแล้ว ก็อย่าโกหกเลย
“จงเข้าสู่โหมดพูดจริง”
ณ สถานที่คาเฟ่แห้งหนึ่ง สถานที่ที่มีโต๊ะที่สามารถพาตัวคนย้อนอดีตไปได้ โดยการดื่มกาแฟชั่วเวลายังอุ่น ก็จะสามารถย้อนอดีตไปได้ ถึงแม้ว่า จะมีกฎยุ่งยาก แต่ก็มีหลายคนที่อยากย้อนอดีตเพื่อแก่ไขความรู้สึกบางอย่างในปัจจุบันที่ข้ามไปไม่ได้
โคทาโร่ตัดสินใจเลี้ยงฮารุกะ หลังจากที่ชูอิจิ เพื่อนสนิทและภรรยาของชูอิจิคือ โยโกะ ตายเพราะอุบัติเหตุ และวันนี้ วันที่ฮารุกะจะแต่งงาน และโคทาโร่ไม่กล้าบอกความจริงกับฮารุกะว่า “เขาไม่ใช่พ่อ” ดังนั้น เขาขอร้องที่จะย้อนอดีต และเขาได้ย้อนอดีต ไปขอให้ชูอิจิพูดอวยพรลูกในวันแต่งงาน และชูอิจิทำตามก่อนจะบอกให้ฮารุกะเคารพโคทาโร่เหมือนพ่ออีกคน
“ฉันเป็นคนที่ไม่เคยพูดโกหกเลย แต่วันนั้น
ฉันตัดสินใจโกหกครอบครัวของฉัน
เพราะฉันกลัวว่า
ครอบครัวของฉันจะรับฉันไม่ได้”
ยูกิโอะไปไม่ทันงานศพแม่ตัวเอง เพราะตัวเขาติดหนี้สินและไม่มีเงินนั่งรถไฟจากเกียวโตกลับมาที่โตเกียว และเขาได้รับการย้อนอดีตไปพบแม่อีกครั้ง ก่อนที่แม่จะตาย เขาคุยกับแม่ และเขาตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย โดยการกินกาแฟตอนเย็นลง เพื่อจะได้ตาย แต่แม่เขาขอไว้ ขอให้ใช้ชีวิตแทนตัวแม่และแทนตัวเอง จงอยู่อย่างมีความสุขและความหวังที่จะมีชีวิตอยู่
“ฉันได้ย้อนอดีตกลับไปในช่วงนั้น และฉันดีใจ
ฉันเจอตัวฉันเองในอดีต ฉันรีบบอกว่า
“หยุดก่อน อย่าโกหก ไม่งั้นจะเสียใจ”
และคนในอดีตของฉันก็ ... มีหมอกขึ้นมา”
คุราตะกำลังจะตาย และเขาอยากย้อนไปยังอนาคตไปหาแฟนเก่าที่ชื่อ อาซามิ ว่า อาซามิแต่งงานแล้วหรือยัง เพราะสำหรับ คุราตะ ถึงแม้เขาตาย เขาอยากให้อาซามิมีความสุขและแต่งงานกับคนที่ทำให้อาซามิมีความสุข ซึ่งเมื่อคุราตะย้อนไปก็ดีใจอย่างยิ่ง และได้บอกความในใจกับอาซามิ พร้อมบอกว่า “อยากให้อาซามีมีความสุข และขอให้มีเขาอยู่ในความทรงจำก็พอ”
“ตัวฉันในอดีตก็ยังพูดโกหกอีก
ฉันได้เดินและย้อนกลับมาเจอฉันในอดีตในเหตุการณ์เดิมอีก
ฉันบอกกับคนในอดีตอีกครั้งว่า “อย่าพูดโกหก”
และคนในอดีตถามฉันว่า “ควรพูดยังไง”
ฉันตอบว่า “พูดความจริง”
หมอกหนามาก จนฉันเดินไปอย่างสะเปะสะปะ
และฉันก็พบว่า คนในอดีตพูดความจริง”
ส่วนคิโยชิไม่เคยให้ของอะไรกับภรรยาเลยสักกะอย่าง จนกระทั่งทุกอย่างก็ดูสายไป และเขาก็ย้อนอดีตกลับไปแก้ไข โดยเขาพบกับภรรยาของเขา “คิมิโกะ” และเขาก็บอกกับภรรยาวาา “เขาเป็นตัวเเทนของตัวเอง นำของขวัญมาให้” ซึ่งภรรยาก็ดูจะเข้าใจเรื่องจริงว่า คืออะไร และเขากับภรรยาก็คุยกันถึงความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ปัจจุบันกลับมาพอใจ
“ฉันในอดีตมองครอบครัวข้างหน้าฉันอย่างยิ้ม
ฉันพบว่า เรื่องร้ายๆเริ่มผ่านไปแล้ว
เรื่องในปัจจุบันกำลังจะดีขึ้น
และฉันไม่โกหกอีกต่อไปแล้ว
ฉันก้าวออกไปยังทางออก
และพบเห็นครอบครัวฉันอยู่ข้างหน้า
เราทุกคนทั้งยิ้มและกอดกัน”
ฉันเล่าให้คนในครอบครัวฟังถึงสถานีแห่งฝันว่า เพราะสถานีแห่งฝัน แห่งนี้ที่ทำให้ทุกคนกลับมาเป็นดั่งปัจจุบันนี้ และพ่อของฉันบอกว่า “พ่อก็เคยเหมือนกันที่พบกับสถานีแห่งฝัน” ฉันคิดว่า “ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ลงตัวจริงๆ”
“เพียงชั่วกาแฟยังอุ่น
ชีวิตครุ่นคิดตามใจ
ตามแต่ความคิดไหน
ว่ามีไหมที่เยียวยาจิตใจ”
แต่เมื่อฉันมาคิดจริงๆ ฉันเริ่มคิดความคิดใหม่ว่า “คงไม่มีเรื่องบังเอิญ” แต่สถานีแห่งฝันคงตั้งใจที่จะช่วยฉันจริงๆ เพราะ “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความลวงเป็นสิ่งนำพาทุกข์มาให้ต่างหาก” ฉันขอบคุณสถานีแห่งฝันในใจ
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in