เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#457 กระต่ายในพระจันทร์


  • คำถาม: ฉันอยากจะบิน บินไปถึงดวงจันทร์ สายตามองจันทร์ ฉันเห็นกระต่ายหลายตัว ฉันอยากจะขอ ขอเอาไว้ในครัว เจ้าอย่าหมองมัว เลยนะ กระต่ายหมายจันทร์เราร้องเพลงนี้เนื่องใน 

    คำตอบ:

    ๑.ไหว้พระจันทร์

    ๒.กีฬาสี

    ๓.สงกรานต์

    ๔.ลอยกระทง


    คำตอบที่ถูกต้อง .กีฬาสี


          ถูกต้อง และสถานีแห่งฝันขอเชิญคุณเข้าไปช่วงสมัยวัยเด็กที่คุณอยากแก้ไขตัวเองอีกครั้งในช่วงชีวิตกีฬาสีของคุณก่อนจะไปใช้ชีวิตในมหาลัย คุณพร้อมแล้วหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว จงก้าวออกไป


    “จงเข้าสู่โหมดสีสันชีวิต”


         ชีวิตของสุดาที่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ดูประสบความสำเร็จทุกอย่างทั้งการงานและทุกเรื่อง มีเงินใช้ ชีวิตมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็ผันแปรเปลี่ยนไป เพราะสุดาไม่เคยหันมามองดูตัวเองเลย สุดาทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นหมดทุกอย่าง จนเมื่อวันหนึ่งที่ทุกคนเปลี่ยนไป สุดาก็แทบล้มทั้งยืน


         สุดาตัดสินใจกลับมาบ้านของปู่ย่าตัวเองที่สมุย กลับมาเลียแผลใจตัวเอง เพราะตัวเองแทบไม่มีที่ไป ไม่มีจุดยืน และไม่รู้จะทำอะไรต่อไปแล้ว ทั้งหมดแรง ทั้งเหนื่อย ทั้งหมดหวัง และเหมือนกับไม่ใช่ตัวเองเลย ดังนั้น สุดาคิดอยู่อย่างเดียวว่า “สุดาจะกลับบ้าน กลับไปยังสถานที่เป็นที่พักพิงยามไม่เหลืออะไร”


    “ผมเดินทางเข้าไปในประตูทันที 

    ผมเจอเพื่อนที่ผมรู้สึกผิด

    ตอนกีฬาสี ผมแอบโกงเพื่อน 

    เพื่อชัยชนะ และวันนี้ผมได้ย้อนกลับ

    ผมรีบไปเอาตะปูออกจากรองเท้าของเพื่อนคนนั้น

    และผมก็รู้ว่า 

    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตของผมที่ได้ถ้วยรางวัล

    แต่ผมก็ดีใจที่ผมทำลงไป 

    เพราะความรู้สึกผิดอยู่กับผมมาตลอด”


         และเมื่อสุดามาถึงบ้านที่สมุยก็ทำให้สุดาย้อนถึงวัยเด็กที่มีปู่กับย่าอยู่ด้วยกัน ปู่เปิดร้านปั่นไฟ และในไม่ช้า การไฟฟ้ามาขอร่วมเปิดด้วย และขอร้องให้ปู่ทำงานในการไฟฟ้า ส่วนย่าเปิดร้านขายของจิปาถะ จนทั้งสองตั้งตัวกันได้และทำให้ลูกหลานมีความสุข เพราะการใช้ชีวิตที่ประหยัด รู้คุณค่าของเงิน และรู้คุณค่าของชีวิต


    “ผมเข้าไปคุยกับตัวเองในอดีตและบอกว่า 

    “จงภูมิในในสิ่งที่ตัวเองได้มาด้วยความซื่อสัตย์”

    ผมบอกกับตัวเองตอนนั้นอีกครั้งว่า “ผมจะไร้ทุกข์”

    ผมในอดีตยิ้มให้ผม และเพื่อนคนนั้นยิ้มให้ผม”


         สุดานึกถึงเรื่องราวสมัยก่อน และดีใจที่กลับมาหลบในสถานที่ปลอดภัย สถานที่เดิมๆที่เจอคนเดิมที่ไม่ทำให้เธอเจ็บปวด ไม่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะเธอสามารถเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องแคร์สายตาคนมากเกินไป เหมือนตอนครั้งเก่า ที่เธอเจ็บเพราะผูกตัวเองกับคำพูด ความคิดและการกระทำของคนอื่น


    “ผมเดินต่อไป ผมเข้าไปยังในอดีตตอนที่ผมทำงาน

    ผมแอบขโมยงานของบริษัทไปขายอีกบริษัทหนึ่ง

    ผมตัดสินใจนำงานนั้นไปเก็บซ่อนไว้อีกที่หนึ่ง

    และผมก็คุยกับตัวผมในอดีตตอนนั้นว่า

    “ถ้าทำแบบนั้น แล้วผมจะไม่ได้อะไร

    นอกจากการหักหลังจากฝั่งตรงข้าม”

    ผมอธิบายให้ผมในอดีตฟัง 

    และผมในอดีตยอมฟังผม

    ผมเห็นผมในอดีตพัฒนางานนั้นต่อไป”


         ดังนั้น พอเธอกลับมา เธอนึกถึงหมาที่ชื่อลาเต้ที่เป็นเพื่อนสนิทกับหมามาดี และวันหนึ่งที่มาดีไปหาหมอ ลาเต้เข้าใจว่า มาดีหายไป มันจึงตั้งใจออกไปตามหาและหายไปสาปสูญ ส่วนมาดีก็ยังไม่ลืมเพื่อนเก่าอย่างลาเต้ถึงจะมีเพื่อนคู่หูใหม่แล้วก็ตาม” ทำให้เธอนึกถึงชีวิตที่ผ่านมาว่า “ทำไม เธอไม่เลือกที่จะก้าวออกไปจากที่ผูกขาไว้กับคนอื่นบ้าง ถึงแม้จะเจ็บ ก็เจ็บครั้งเดียว ไม่ใช่เจ็บหลายครั้งแบบนี้”


         และวันนี้ สุดาตั้งใจที่จะมาดูพระจันทร์เพื่อนเก่า ที่มีกระต่ายอยู่บนพระจันทร์ ทั้งแสงสว่างจากพระจันทร์และรอยยิ้มจากกระต่ายกำลังบอกกับเพื่อนเก่าอย่างสุดาว่า “ไม่ต้องร้องนะ เพราะยังมีพวกเราอยู่เคียงข้าง” สิ่งใดที่ไม่ใช่ของเรานั้นก็ย่อมไม่ใช่ของเราอยู่วันยังค่ำ


    “และผมพบว่า 

    “ผมไม่ตกงาน แถมผมยังได้โปรโมตอีก”

    ประตูที่อยู่ข้างหน้าเปิดทางออกปัจจุบันของผม

    ผมได้ยินเสียงสถานีแห่งฝันบอกผมว่า

    “อย่าประมาทในชีวิต จงอยู่อย่างระมัดระวัง”

    ผมยิ้มให้กับคำพูดนั้น 

    และผมรู้แล้วว่าผมควรทำอะไรต่อจากนี้”



         ผมไม่มีทางย้อนกลับไปทำในสิ่งที่ชั่วอีก ผมตัดสินใจระวังการกระทำของผมมากขึ้น นับตั้งแต่ตอนนั้นที่ผมได้กลับมาในปัจจุบัน ผมมีทุกอย่าง แต่ผมก็ไม่ประมาท เพราะยิ่งผมอยู่สูงเท่าไหร่ ผมควรต้องระวังมากขึ้น และใช้ชีวิตไม่ประมาท เพราะสักวันหนึ่ง ตำแหน่งที่ผมครองอยู่ก็มีหวังที่จะหลุดไปสักวันหนึ่ง ผมจะไม่ประมาทอีกแล้ว


    “ชีวิตของเราเหมือนดั่งน้ำ

    ทั้งน้ำคำที่เปลี่ยนไปดั่งสายน้ำ

    ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากการกระทำ

    และทุกอย่างนำพาล้วนไม่เที่ยง”


         ผมได้ยินเสียงเตือนของสถานีแห่งฝันตลอดตั้งแต่นั้น เวลาผมทำอะไร ผมก็พยายามไม่ประมาทในชีวิต เสียงอ่อนโยนและอบอุ่นของสถานีแห่งฝันเป็นเสียงที่เยียวยาจิตใจขอผมในตอนที่ผมกำลังทุกข์อย่างมหันต์และผมก็กลับมาเป็นผมคนใหม่ ผมอยากบอกทุกคนว่า “ถ้าใครเจอสถานีแห่งฝัน ถือว่าโชคดี”


    LOOK A BREATHE

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in