ถึง คุณที่ไม่มี อดีต อนาคต และปัจจุบัน
สวัสดีค่ะ นี่คงเป็นจดหมายฉบับเเรกที่เริ่มต้นทักทายด้วยคำนี้ค่ะ เพราะว่า คำนี้เป็นคำง่ายๆที่มีความหมาย ในการรู้จักใครสักคนในครั้งแรกค่ะ ซึ่งคงเหมือนกับหนังสือเล่มที่ฉันแนะนำให้คุณไม่มีอ่านค่ะ
ทุกคนในโลกนี้ไม่มีทางหนีพ้น ๓ สิ่งนี้หรอกค่ะ คือ “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” เพราะสามสิ่งนี้จะอยู่กับเราตลอดไป ถึงแม้ว่า “บางคนบอกว่า ไม่อยากมีอนาคต ก็ต้องมีค่ะ” หรือ “บางคนบอกว่า อยากลืมอดีต ก็ลืมไม่ได้ค่ะ” ดุจดั่ง เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้ที่อยู่ในมือของคุณไม่มีค่ะ
หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นด้วยเด็กจำนวน ๔ คน คือ คังมิน ซอนมี อีซู และจายอง กับบ้านสุดแสนวิเศษที่จะให้โอกาสในการที่เราจะก้าวไปสู่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ โดยปฏิบัติตามกฎ ๓ ข้อ เท่านั้นเอง และ คนที่ถูกบ้านข้ามเวลาเลือก คนเหล่านั้นจะต้องสวมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวที่ทางบ้านเป็นผู้จัด ดังนั้น คุณไม่มี พร้อมแล้วหรือยัง ที่จะมาพบกับเรื่องราวสุดเเสนอัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มิตรภาพ การตัดสินใจ การเดินทางที่ถูกต้องและความหวัง
ซอนมีได้รับรองเท้าผ้าใบสีขาวเเสนบริสุทธิ์คู่หนึ่ง เมื่อเธอสวมใส่ เธอกลับพบกับความสบายเท้าอย่างที่สุด และเธอเดินทางไปโรงเรียน เธอบังเอิญไปพบคุณยายคนหนึ่ง มาชวนเข้าบ้านหลังหนึ่ง เธอรู้สึกกลัว เธอจึงตัดสินใจหนีไป และเรื่องราวก็ตัดเข้ามาภายในบ้านหลังนั้นว่า ในบ้านนี้มีจายองกับคังมินรออยู่ในบ้านหลังนี้อยู่ก่อนแล้ว วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งวันหนึ่ง ซอนมีตัดสินใจมาบ้านหลังนี้เพราะเหตุการณ์เกี่ยวกับแม่เธอ และพบกับอีก ๒ คน พร้อมกับอีก ๑ คนที่ตามมาที่หลังเหมือนกัน ซึ่งก็คือ “อีซู”
“เคยรักตัวเองมากกว่าคนอื่นบ้างไหม
เคยทำเพื่อตัวเองมากกว่าทำเพื่อคนอื่นบ้างไหม
เคยเห็นใจตัวเองมากกว่าเห็นใจคนอื่นบ้างไหม”
คังมินผู้คุ้นเคยกับที่นี้เป็นพิเศษ และเป็นคนที่ชอบชวนคุย ช่วยเหลือคน ชีวิตสุดแสนจะดี และไร้ทุกข์ทุกอย่าง ซอนมีผู้มีแม่ที่เป็นมะเร็งกำลังจะตาย อีซูผู้ต่อต้านสังคมและจายองผู้ถูกสังคมกลั่นแกล้ง “ทั้งสี่คนเป็นคนที่ถูกบ้านข้ามเวลาเลือกให้มาอยู่ในบ้านหลังนี้” โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องเลือกประตูที่ไป อดีต (ก่อน ๕ ปี) ปัจจุบัน และ อนาคต (หลัง ๕ ปี) นี้ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ของสิ้นปีนี้
เมื่อทั้งสี่คนได้มาอยู่ด้วยกัน ก็เกิดมิตรภาพและการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่โดย จายองเริ่มมั่นใจว่า ในโลกนี้ ยังมีคนนี้ที่ใจดีและจิตใจดี พร้อมโอบอ้อมอารีย์ จะช่วยเหลือตน เข้าใจตนเป็นอย่างดี
จายองคือตัวเดินเรื่องหลัก และคนอื่นก็เดินเรื่องถัดมา โดยจายองกับอีซูอยู่โรงเรียนใกล้กัน จายองถูกเพื่อนที่เคยสนิทกันกลั่นแกล้ง และอีซูรู้เรื่องราวพวกนี้จากกลุ่มแชท ซอนมีพยายามให้ความช่วยเหลือจายอง โดยให้คำแนะนำที่ดี ส่วนคังมินพยายามปลอบประโลมจายอง และสุดท้าย จายองตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน และขอมาหลบอยู่ในบ้านข้ามเวลานี้แทน
เรื่องราวก็ดำเนินว่า คังมินเขียนจดหมายหาบ้านข้ามเวลาว่า “เขาคือใครและเขาคุ้นเคยที่นี้มาก” “ซอนมีก็เขียนจดหมายให้เลื่อนวันเข้ามาเพื่อช่วยแม่ของเธอ โดยที่สุดท้าย ความตายก็พรากแม่เธอไป แต่เธอก็ไม่เสียใจ เพราะได้ทำทุกอย่างเพื่อแม่”
และเรื่องก็เดินทางมาถึงจายองถูกเพื่อสนิทหลอกไปพบ แต่จริงๆหลอกไปให้ถูกทำร้าย ดังนั้น จายองขอให้อีซูมาช่วย และอีซูก็เผลอไปแทงโดนคนที่จะทำร้ายจายอง จนเกือบจะตาย ซึ่งอีซูตัดสินใจหนี และเพื่อนๆคิดว่า เรื่องราวจะดำเนินต่อไปจนจบอย่างไร ก็ลองเปิดใจอ่านเล่มนี้ดูค่ะ
(ขอบอกใบ้ค่ะว่า ตอนจบ จบดี มีคนๆหนึ่งที่ไม่ได้เลือกประตู แต่มีคนๆหนึ่งที่ตัดสินเลือกประตูเพื่อปัจจุบันที่ดีแถมไม่ได้คืนรองเท้าผ้าใบ และมีอีกสองคนที่ตัดสินใจเลือกประตูเพื่ออนาคตที่ดี และทุกคนจะได้กลับมาพบกันไหม ขอให้เปิดอ่านด่วนค่ะ)
“อ่านเพียงครึ่งชั่วโมง ก็เปลี่ยนจิตใจเราได้ทันทีค่ะ
เปลี่ยนความรู้สึกและเปลี่ยนการมองโลกอีกด้วย”
ฉันรู้ค่ะว่า คุณไม่มีเข้าใจว่า หนังสือในมือของคุณไม่มีเป็นเหมือนเรื่องราวของ “หมาป่าโดดเดี่ยว ปราสาทเดียวดาย ในกระจก” แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณไม่มีอ่านจนจบ จะพบว่า แค่คล้ายกันเรื่องปราสาทกับบ้านเท่านั้นเอง แต่จริงๆ เนื้อหาต่างกันมากค่ะ และเรื่องราวในเล่มนี้กระชับ และเนื้อหาตื่นเต้นจนวินาทีสุดท้ายเลยค่ะ
“จงหมุนทุกข์ ให้เปลี่ยนกลาย เป็นสุขี
ชีวิตดี อยู่ที่เรา ทำขึ้นมา
มีสองมือ สองเท้าเดิน และเวลา
สองเท้าหน้า พาตัวเปลี่ยน ชีวิตดี”
ป.ล. ฉันเชื่อมั่นว่า เมื่อคุณไม่มีอ่านถึงตอนจบจะมองว่า “อดีตคือเครื่องเตือนใจ” “ปัจจุบัน คือ สิ่งที่ควรทำให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันเป็นสิ่งสวยงาม” และ “อนาคตคือสิ่งที่อย่าไปฝืน เพราะมันจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับอดีตและปัจจุบัน”
จาก คนที่รู้จักปัจจุบัน
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in