“ใครเปิดใบเสี่ยงทายนี้ได้
ถือว่าโชคดี มีความสุข”
รูปภาพนี้ เมื่อเราจับเซียมซีได้เบอร์ที่ ๖
“ช่างต่อโลง มีสุข เมื่อไร้ทุกข์
ชีวิตลุก ตื่นขึ้น เกือบจะจุก
เมื่อได้ลุก เจอเด็ก และนกสุข
เปลี่ยนความทุกข์ เป็นจริง ให้แน่ไป”
รูปภาพนี้ หนังสือจากเล่มอื่นของนักเขียนท่านนี้
เราเสียดายมากเลยที่กองหนังสือเล่มนี้ไว้ในบ้านอยู่ตั้งนาน และเพิ่งมาตัดสินใจอ่าน คือ นักเขียนท่านนี้สามารถผูกเรื่องราวให้เข้าใจความหมายของชีวิต และเข้าใจว่า คนเป็นนั้นน่ากลัวกว่าคนที่ตายไปแล้ว
รูปภาพนี้ เราขอเคารพนักเขียนที่ชื่อคุณมาทิลด้า วูดส์ จากใจจริง
เราอยากลองอ่านหนังสือเล่มอื่นของนักเขียนท่านนี้เหมือนกัน แต่เราหาซื้อไม่ได้นะ อย่างมากเป็นภาษาอังกฤษก็อยากอ่าน ดังนั้น ก็ได้แต่ดูหนังสือเล่มนี้วนไปวนมา
“คนตายไม่น่ากลัวเท่าคนเป็นหรอก
เพราะคนตายพูดไม่ได้”
อัลเบอร์โตมีครอบครัวที่อบอุ่นและอาศัยอยู่ในเมืองอัลลอรา แต่กลายเป็นว่า วันหนึ่งโรคระบาดได้พรากคนในครอบครัวเขาตายไปหมด ยกเว้นเขา ซึ่งสุดท้าย เขาทำหน้าที่เป็นช่างต่อโลง ให้กับคนมั่งมียันยาจก
รูปภาพนี้ หนังสือของสำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
“เมืองอัลลอราเต็มไปด้วยปลาที่บินขึ้นมาจากผืนทะเล”
นายกเทศมนตรีมาขอร้องให้อัลเบอร์โตทำโลงศพของตัวเองให้สวยงาม หรูหรา และทำโลงให้ลอยน้ำได้ ดังนั้น อัลเบอร์โตเสนอนายกเทศมนตรีให้ใช้ไม้โอ้คทอง ซึ่งทางนายกเทศมนตรียินดีจ่าย
วันหนึ่ง อัลเบอร์โตต้องมาทำศพไร้ญาติอย่างมิสโบนิโต ซึ่งทำให้อัลเบอร์โตรู้สึกสงสารและเข้าใจมิสโบนิโตอย่างมากว่า "ไม่มีใคร" และอยู่ดีๆ อัลเบอร์โตก็พบว่า มีเด็กผู้ชายกับนกเข้ามามาขโมยอาหารของเขา
รูปภาพนี้ THE BOY, THE BIRD & THE COFFIN MAKER
อัลเบอร์โตสงสัยว่า เด็กปริศนาที่มาขโมยอาหารมีนามว่า ติโตที่มาพร้อมกับนกวิเศษที่นามว่า ฟีอา นั้นคือใคร และตอนหลัง อัลเบอร์โตบอกติโตว่า ไม่ต้องขโมยนะ เขาจะแบ่งอาหารให้
หลังจากนั้น ทั้งคู่สองคนและนกหนึ่งตัวก็อยู่ด้วยกัน โดยที่ติโตมาเป็นลูกมือช่วยต่อโลงให้กับอัลเบอร์โต และเมื่อถึงตอนกลางคืน ติโตก็ขอกลับไป โดยไม่ยอมอยู่กับเขา และเมื่อถึงตอนเช้า ติโตก็ไม่กลับมาอีกเลย
รูปภาพนี้ ปลาบินได้
เพราะว่าวันนั้นหิมะตกหนักมาก ฟีอาได้บินมาขอให้อัลเบอร์โตไปช่วย และอัลเบอร์โตตัดสินใจช่วยโดยหาของหวานให้ติโตทานจนรอดชีวิต และอัลเบอร์โตก็ชวนติโตมาอยู่ด้วยกัน
ติโตเล่าให้อัลเบอร์โตฟังว่า ตัวเขากับแม่คือนางโบนิโตหนีพ่อที่โหดร้าย ทารุณ ชอบทำร้ายร่างกายมาที่เมืองนี้ และติโตกลัวว่า เดี๋ยวพ่อจะพาตัวเองไปอีก ดังนั้น ติโตขอร้องให้อัลเบอร์โตรับปากว่า เขาจะช่วยเหลือติโตไม่ให้พ่อจับได้
รูปภาพนี้ ความจริงในเรื่องนี้
“อัลเบอร์โตให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะให้ความช่วยเหลืออย่างแท้จริง ดังนั้น อัลเบอร์โตเลยช่วยสอนติโตให้เรียนหนังสือและยังเล่านิทานถึงเมืองในตำนาน อย่างเกาะวิเศษแห่งอิโซล่า
วันหนึ่ง พ่อโหดร้ายของติโตก็มาและก็พยายามที่จะมาหาลูกชายตัวเองในบ้านของอัลเบอร์โต แต่หาไม่เจอ เพราะเพื่อนบ้านของอัลเบอร์โตช่วยไว้ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อผู้หญิงที่ช่างนินทาเห็นเด็กชายอยู่กับอัลเบอร์โต เธอทำหน้าที่เป็นโทรโข่งไปบอกกับนายกเทศมนตรีให้มาจับเด็ก
และวันที่ทะเลสงบ ปลาหยุดบิน นกฟีอาไปทำหน้าที่จับปลามาให้ทาน แต่วันหนึ่ง นกฟีอาหายไป และก็กลับมาพร้อมกับดอกทิวลิปในตำนาน ทำให้ทั้งสองรู้ว่า นกฟีอาไปเจอเกาะอิโซล่า”
รูปภาพนี้ ก้าวกันต่อไป
“เราต้องก้าวไปข้างหน้าตลอด
และต้องใช้สติในการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง”
ในวันที่พ่อของติโตจะมาจับติโต ทั้งอัลเบอร์โตและติโตก็ตัดสินใจใช้โลงศพของนายกเทศมนตรีแทนเรือพาหนีไปพร้อมกับนกฟีอา และอยู่ดีๆทั้งคู่ก็เหมือนเห็นแสงสว่างแห่งความหวังของเกาะอิโซล่าที่อยู่ข้างหน้า
เมื่อเราอ่านจบ เราจะพบว่า คนเป็นๆนี้มีทั้งคนที่ใช้ชีวิตไปกับวันๆที่นินทาคนไปเรื่อยๆ เป็นการใช้ชีวิตเปล่าประโยชน์ ส่วนบางคนก็ใช้ชีวิตอย่างมีน้ำใจช่วยเหลือคน เป็นการใช้ชีวิตที่มีประโยชน์ แต่บางคนก็ใช้ชีวิตไปกับเรื่องราวที่โหดร้าย ทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง และเรื่องราวทั้งหมดนี้สอนให้รู้ว่า
“เมื่อคนเรายังมีลมหายใจอยู่
คนเราควรทำตัวให้ใช้ชีวิตอย่างมีประโยชน์
ไม่ใช่ใช้ชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ในการจับผิดคนไปทั่ว
แทนที่ใช้เวลาในการจับผิดคน
ควรนำเวลามาปรับปรุงและเเก้ไขตัวเองให้ดีดีกว่า”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in