“ใครเสี่ยงทายได้ใบนี้
จะเจอกับรักแท้ในไม่ช้า”
รูปภาพนี้ เมื่อเราจับเซียมซีได้เบอร์ที่ ๑๔
“ความรักเหมือน ในบท ละครไหม
ความรักได้ ปรากฎ นอกบทไหน
เมื่อใจได้ รู้จัก รักให้ไป
ชีวิตได้ พบเจอ รักแท้จริง”
รูปภาพนี้ หนังสือเล่มแรกที่สร้างชื่อเสียง
คือเรื่อง あらしのよるに (ในคืนพายุกระหน่ำ)
(ขอเล่าคร่าวๆค่ะ เราเคยอ่านหนังสือญี่ปุ่นเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้วค่ะ)
หมาป่ากับแพะเป็นเพื่อนรักกัน โดยที่ทั้งสองสายพันธุ์เป็นศัตรูกัน ดังนั้น
ทั้งสองสายพันธุ์เรียกให้หมาป่ากับแพะมาหลอกกัน
แต่ทั้งคู่ทำไม่ได้ ก็เลยหนีกันไป หมาป่าช่วยแพะ
และตัวหมาป่าเองดันถูกโคลนทับ จนจำไม่ได้
และเกือบทำร้ายเพื่อนรักอย่างแพะ และแพะอุทานว่า
“พวกเราไม่น่าพบกันในคืนพายุกระหน่ำ”
ซึ่งเมื่อหมาป่าได้ยิน ก็จำความเป็นเพื่อนกันได้ และยังเป็นเพื่อนกันต่อไป
เรารู้จักนักเขียนท่านนี้จากหนังสือเรื่อง “ในคืนพายุฝนกระหน่ำ ( あらしのよるに)” และเราประทับใจมาก ตอนนั้นอ่านในช่วงฝึกภาษาญี่ปุ่น และเราตื้นตันระหว่างมิตรภาพของสัตว์ต่างสายพันธุ์
รูปภาพนี้ ขอขอบคุณที่คุณคิมุระ ยูอิจิ
เขียนหนังสือรักได้พลิกรักเหนือความคาดหมาย
เมื่อเรารู้ว่า คุณนักเขียนมาเขียนหนังสือแนวรักโรแมนติก เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ว่า แปลกใจจัง คุณนักเขียนเปลี่ยนเขียนหนังสือเด็กมาเขียนหนังสือรักแล้วหรอ
“♪ ทั้งที่ฉันเห็นแก่ตัว นิสัยแย่ และโกหก
แต่เธอก็ยังเป็นเธอ ที่คอยให้อภัยเสมอ
ฉันรู้ดีว่า ต่อให้ทำเป็นเข้มแข็งแค่ไหน
แต่ก็ไม่อาจอยู่ได้ ถ้าขาดเธอ ♪
เพลงช่วงหนึ่งของเรื่อง “นะมิโฮะโฮะ”
- หน้า 169 -
และเราไม่ผิดหวังกับหนังสือเล่มนี้ เพราะเป็นความรักที่เหนือคาดหมาย ความรักที่เริ่มต้นจากการหลอกลวง (จริงหรือเปล่า) แต่ก็จบลงอย่างสวยงาม (ตอนจบนี้ล่ะ ที่เรารู้สึกนิดนึงว่า จบกระฉับไปหน่อย แต่เราเข้าใจโคโตมินะ)
รูปภาพนี้ หนังสือภาคญี่ปุ่น
“สำหรับใครก็ตามที่กำลังถือหนังสือเล่มนี้
ไม่สำคัญว่าคุณจะเคยพูดโกหกหรือไม่
ขอเพียงแต่คุณเคยรักใครอย่างจริงใจสักครั้ง
รับรองว่าเรื่องโกหกในหนังสือนี้
จะทำให้คุณมีความสุขอย่างแน่นอน”
คำนำผู้แปล
นาโอกิเป็นนักเขียนบทชื่อดังในวัยยังหนุ่ม และเขาทำงานหนักขึ้นเพื่อความฝันของตัวเอง แต่อยู่ดีๆวันหนึ่ง เขาไม่สามารถเขียนบทอะไรได้อีก ดังนั้น เขาเลยตัดสินใจหนีไป หนีไปให้ไกลที่สุด และเขาปลอมตัวเป็นบาเทนเดอร์ชื่อ ฮิซาโนริ
วันหนึ่งมีฝรั่งคนหนึ่งมาที่เมืองเล็กๆนี้ และเกือบทำร้ายโคโตมิ หญิงสาวร้านราเมง นิสัยดี ร่าเริง จึงทำให้ฮิซาโนริต้องตัดสินใจช่วยโคโตมิ ถึงแม้ว่า เขาไม่อยากเปิดเผยตัวเองหรือทำความรู้จักกับคนที่นี้ และเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้โคโตมิตกหลุมรักฮิซาโนริ
รูปภาพนี้ หนังสือเรื่องรักนอกบท (ภาคญี่ปุ่น)
มีอยู่วันหนึ่ง โคโตมิเห็นใบหน้าที่แท้จริงของฮิซาโนริในวันฝนตก เธอรู้สึกว่า เขาดูเจ็บปวดและเศร้า โคโตมิคิดว่า ตัวเธอจะต้องเข้าไปอยู่ในใจของฮิซาโนริให้ได้ ดังนั้น โคโตมิเลยพาฮิซาโนริไปบ้าน และทำความรู้จักกัน
ครั้งแรก อาเคมิที่เป็นสาวประเภทสองพยายามที่จะเป็นก้างขวางคอของทั้งสอง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป อาเคมิก็ตัดสินใจสนับสนุน และมีวันหนึ่งที่ทั้งสองไปเที่ยวกัน นาโอกิหรือฮิซาโนริตัดสินใจจูบกับโคโตมิ และโคโตมิยินดี ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากที่เขาสนิทกับโคโตมิ ทำให้ทุกคนในเมืองแสดงมิตรภาพของเขาอย่างมาก
รูปภาพนี้ ร้านราเมงเล็กๆร้านหนึ่งที่โคโตมิทำด้วยความรัก
เมื่อนาโอกิมั่นใจว่าตัวเองรักโคโตมิ เขาเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น ไม่ว่าไปล่องเรือและโคโตมิจะพูดแต่เรื่องราวของตัวเองให้นาโอกิฟัง ซึ่งทำให้นาโอกิรู้จักโคโตมิและรักมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น นาโอกินำเรื่องราวความรักของเขา พร้อมกับมิตรภาพที่ดีจากเมืองนี้ไปเขียนงานเขียนของเขา
เเละเขาส่งงานเขียนไปให้คามาตะ คามาตะมั่นใจมากว่า นี่คือผลงานของนาโอกิ ดังนั้น เขานำเรื่องราวไปทำงานเขียนเรื่อง “นะมิโฮะโฮะ” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดจนกลายเป็นยอดนิยมและนำไปสู่ทำซีรีย์เรื่องยาวในที่สุด
รูปภาพนี้ มิตรภาพระหว่างหมาป่ากับแพะในเล่มแรกของนักเขียน
“นาโอกิหรือฮิซาโนริเป็นผู้ชายที่เย็นชา แบบว่า รักล่ะ ดูออกแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาก แถมเป็นคนที่ขี้ขลาด สำหรับเรา คือ จะต้องวางแผนอะไรสักอย่างให้รอบคอบ ถึงแม้ว่าจะมีอะไรกับโคโตมิแล้ว ก็ยังไม่ยอมบอกความจริง เรื่องนี้ ถือว่า เป็นพระเอกสายซึน น่ารักก็น่ารักนะ แต่ไม่บอก ก็เศร้าเหมือนกันนะ
ส่วนโคโตมิเป็นผู้หญิงสายรุก แบบใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามาก เพราะเมื่อรู้ว่าตัวเองรักนาโอกิ ก็ไม่เคยสนใจว่า นาโอกิเป็นใคร มีเพียงใจที่เชื่อถือและยึดมั่นในความรักโดยมอบให้นาโอกิเท่านั้น แต่พอตอนที่เธอรู้ว่า นาโอกิเป็นนักเขียนบทชื่อดังก็ยังพยายามให้อภัยนะ แต่พอเธอเห็นภาพข่าวหลุด เกี่ยวกับ ความรักระหว่างอาโอมายะกับนาโอกิ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด แต่เธอมีสิ่งดีอย่างหนึ่งนะ คือ เธอไม่คิดจะฆ่าตัวตายและพยายามเริ่มต้นใหม่
และอาโอมายะเป็นนางเอกโด่งดังที่แอบรักนาโอกิล่ะ แต่พอเธอรู้ว่า นาโอกิไม่ได้รัก เธอก็ยอมถอยนะ เพราะเข้าใจว่า รักที่แท้จริงคือ การมองคนที่เรารักมีความสุข ส่วนเคนทาโร่เป็นผู้ชายที่แนวเห็นแก่ตัวที่รักตัวเองมากที่สุด เพราะว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะไปดูไบกับเขาก็เลยมาขอโคโตมิแต่งงานเพื่อจะหาคนไปด้วยกัน แต่สุดท้ายโคโตมิไม่ไปกับเคนทาโร่”
รูปภาพนี้ แต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของละครชีวิต
“เราไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับกำแพงก็ได้
คนเรามีเรื่องที่ทำได้กับทำไม่ได้
แทนที่จะล้มเหลวกับสิ่งที่ทำไม่ได้
สู้ทุ่มเทเต็มกำลังเพื่อให้สิ่งที่ทำได้
ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ดีกว่า
แม้ผลลัพธ์อาจไม่เต็มร้อย แต่เราก็ไม่มีทางเลือก
หากจะก้าวข้ามกำแพง เราต้องใช้เวลาฝึกฝนเตรียมตัว
ต้องขยายขอบเขตสิ่งที่เราทำได้ออกไป”
นาโอกิบอกกับอาโอมายะ
นาโอกิรู้ความจริงจากอาเคมิว่า โคโตมิหายไป เขาพยายามไปค้นหาในสถานที่ๆเขาคิดว่า โคโตมิจะไป แต่เมื่อไปถึงก็กลายเป็นว่า โคโตมิไปโตเกียวแล้ว เมื่อนาโอกิไปตามก็หาไม่พบ จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ฝนตกหนัก โคโตมิไปหลบฝนที่ร้านราเมง นาโอกิเห็นและตามเข้าไป พร้อมโทรศัพท์ไปหาโคโตมิ และบอกรักเธอ ซึ่งโคโตมิหันไปมองก็ยินดีให้อภัย และทั้งสองแต่งงานกันในที่สุด
อย่างที่เราบอกว่า ตอนจบมันค่อนข้างรวบรัดไปหน่อย เพราะเราอยากให้คุณคิมุระเขียนให้ตัวละครนาโอกิเจ็บปวดมากไปกว่านี้ คือ สำหรับเรา นาโอกิทำให้เราคนอ่านเจ็บปวดบาดลึกไปถึงใจมากที่ทำร้ายโคโตมิขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้อย่างนาโอกิประหยัดคำพูดมาก (พูดน้อย) และแสดงออกน้อยมากที่แบบรู้สึกผิดต่อโคโตมิ แต่กลับกลายเป็นว่า โคโตมิให้อภัยเร็วมาก (เร็วเกิน) ซึ่งเราเข้าใจว่า โคโตมิไม่ได้โกรธนาโอกิอย่างจริงจัง แต่อีกเรื่องที่ลืมพูดไม่ได้ คือ ความสามัคคี ปรองดอง และมิตรภาพของคนที่เมืองฮากาตะที่ดูน่ารักและอบอุ่น ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้สอนให้รู้ว่า
“การโกหกไม่ใช่เรื่องดี
ผลจากการโกหกจึงไม่เคยทำให้คนโกหก
หรือคนที่ถูกโกหกมีความสุข
แม้สุดท้ายจะรู้ว่าไม่มีใครหนีความจริงพ้น
และไม่มีใครสามารถโกหกไปได้ตลอดชีวิต”
คำนำผู้แปล
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in