นี่เป็นครั้งแรกที่เราอ่านหนังสือของนักเขียนท่านนี้ คือ เราชอบชื่อเรื่องและหน้าปกนี้มากว่า ทำให้เรารู้สึกถึงความฮึกเหิมในใจบางอย่าง
หลังจากที่เราอ่าน เราพบว่า เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้มีหลายๆมุมทำให้เราได้คิดและหลายๆครั้ง เราเป็นดั่งที่เขาพูดอยู่หรือเปล่า ซึ่งถ้าเรารู้จุดอ่อนของเราแล้ว เราสามารถแก้ไขปัญหาตัวเราได้
“ชีวิตของเรา มีแค่ตัวเรา
ที่สามารถแก้ไข ปรับปรุงได้”
รูปภาพนี้ ตัวของคุณเองคือตัวเอง
ทุกคนเคยรู้สึกเหนื่อยล้า เบื่อ หมดแรงและไม่อยากทำอะไรไหม แค่อยากนั่งอยู่เฉยๆ เพราะว่า หลายครั้ง เราคิดว่า ทำไมชีวิตเราถึงไม่ดีกว่าคนนี้นะ ทำไมเราถึงไม่เป็นเหมือนคนนี้นะ ทำไมและทำไม
“เพราะว่าทำไมทุกคนชอบเปรียบเทียบ
ชีวิตของเรากับคนอื่นตลอดเวลา”
เปรียบดั่ง
“ความสนใจของคนอื่นมีมากนัก
ชีวิตสักหันมองมาตามคำนี้
ไม่ว่าคนพูดอะไรถึงเราดีไม่ดี
เรามีเครียดเสมอต้นเสมอปลาย”
รูปภาพนี้ สิ่งที่ตัวเองควรทำ
ไม่ว่าเราจะล้มเพียงใด สิ่งสำคัญคือเราจะลุกได้เมื่อไหร่ และการที่เราจะลุกได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสองสิ่งนี้ ซึ่งรวมกันก็คือ ความเมตตาต่อตนเองในยามเราทุกข์และสุขด้วยสติและสัมปชัญญะ เฉกเช่นเดียวกับหลายครั้ง ที่เวลาคนอื่นล้ม เรามีความเมตตาต่อคนเหล่านั้นทันที แต่เมื่อเป็นตัวของเราเอง หลายครั้ง เราก็ยอมรับไม่ได้
ในปัจจุบันนี้ ปัจจุบันที่ชีวิตทุกอย่างต้องเร่งรีบ เรามีทั้งแข่งขันกับคนอื่นและเวลา เพื่อให้เราได้เป็นหนึ่ง และดูดี ดังนั้น เมื่อเรายิ่งมุ่งไปข้างหน้า โดยคาดหวังสิ่งที่ยิ่งมากเหล่านี้ สุดท้ายบ่าที่แบกของหนักก็จะทรุดสักวัน และเมื่อถึงวันที่พ่ายแพ้ เราก็เกินจะรับไว้และลืมเมตตาตัวเอง ทำให้คนในปัจจุบันนี้มีการป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น
รูปภาพนี้ สิ่งที่อยู่กับตัวเอง
ไม่มีใครเหมือนเรา ไม่มีใครเป็นแบบเราได้ และเราไม่มีทางเป็นแบบใครได้เหมือนกัน ทุกคนมีความต่างที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มขาดความมั่นใจ หรือ เราเริ่มเครียดเพราะสิ่งที่ไม่เป็นดั่งหวังแล้ว ก็คงถึงเวลา ที่เราควรให้กำลังใจตัวเองและเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง บางครั้ง เราต้องหันมาชมตัวเองบ้าง ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อย่าลืมว่า ตอนเราลงมือทำสิ่งที่ดี ก็ถือว่ายิ่งใหญ่แล้ว
รูปภาพนี้ สิ่งที่ตัวเองควรเป็น
เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนที่มีต่อเรา ต่อตัวเขาเองหรือต่อคนอื่นได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิดของเราที่มีต่อคนอื่นได้ คือ เราสามารถปรับตัวเราเข้ากับคนอื่นได้ โดยที่ไม่ต้องทำให้เราเสียความเป็นตัวของตัวเอง ก็คือ เราต้องรู้จักที่จะกล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่มีทั้งทุกข์และสุข เพราะความทุกข์ไม่นั้น ก็ผ่านไปแล้ว ส่วนความสุขก็เข้ามาแทนที่ และมันก็เวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
เมื่อไรที่เราทุกข์อย่างหนัก เรากำลังมองไม่เห็นหนทางใดเลย ขอให้รู้ไว้ว่า เพียงแค่เราพัก เราหยุดคิดที่จะทำอะไรบ้าง บางที ทางออกของชีวิตอาจอยู่แค่เอื้อม
“ชีวิตของตัวเราเองก็ให้เรา
เป็นคนพิสูจน์ทุกอย่างด้วยตัวของเราเอง
จงเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็นและเราคือ
จะพบว่า ตัวเราอยู่ตรงนั้น”
Look A Breathe
(LAB)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in