เพื่อนๆเคยเสียเวลาอะไรสักอย่างไหม ที่รู้สึกว่า เรามานั่งเสียเวลากับของหลายอย่างที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่มีประโยชน์นี้ไปเพื่ออะไร และไม่เพียงเท่านั้น ยังรู้สึกเบื่ออีกด้วย
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของการเสียเวลาโดยแท้ ว่า เมื่อไหร่ที่เราถูกลืม ความทรงจำที่สูญหาย เวลาที่เสียไป และของที่หล่นหาย ทุกอย่างจะไปรวมตัวกันที่หนึ่ง ที่เกาะแห่งนี้
“เราเคยคิดเรื่องเสียเวลาอยู่เหมือนกัน
แต่เมื่อเรามองย้อนกลับไป
เราพบว่า เพราะเสียเวลาในวันนั้น
ทำให้เราเรียนรู้ถูกในวันนี้
ไม่มีอะไรในชีวิตนี้ ที่น่าเสียเวลา
ถ้าเรายังลงมือทำอยู่”
เรื่องย่อ (จากเราเอง)
รูปภาพนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร
เด็กสองคนที่ชื่อจูเลียและอาเรียนาได้หลงทางในเหมืองแร่ในเวลาที่ต่างกัน แต่ทั้งคู่กลับพลัดหลงเข้ามาอยู่ในเกาะแห่งเวลาที่เสียไป ครั้งแรก พวกเขาทั้งสองเจอชายชราคนหนึ่ง และเด็กกลุ่มหนึ่ง ชายชราคนนั้นบ่นอยากกลับบ้าน ดังนั้น เด็กกลุ่มนั้นอุ้มชายชราลงไปยังร่องหิน และชายชราผู้นั้นก็กลับไปสู่โลกเดิม โลกที่จากมา
และเด็กกลุ่มนั้นก็เฉลยว่า ตอนนี้ เธออยู่ในเกาะแห่งเวลาที่เสียไป และพวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข ไม่มีคนร้าย ไม่มีใครขโมย ไม่มีผู้ใหญ่คอยบ่น มีแต่อิสรภาพ เสรีภาพ ความเสมอภาค อยากทำอะไรก็ได้ ระวังแต่มนุษย์กินคนเท่านั้น
จนกระทั่ง วันหนึ่ง ศาสตราจารย์และหลายคนรวมทั้งจูเลียพูดคุยกันว่า ทุกคนควรจะกลับไปทำภารกิจสำคัญ คือ การไปบอกคุณค่าของเวลา สิ่งของ ความทรงจำว่า มันสำคัญมากเพียงใด เพื่อให้คนในโลกได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า
เพราะฉะนั้น ถ้าใครจะกลับ ก็เตรียมพร้อมสักเพื่อจำเรื่องราวในเกาะนี้ และเดินทางกลับไป เพราะถ้าไม่สักไว้ เมื่อกลับไปยังโลกนั้น ทุกคนก็จะลืมเรื่องราวทั้งหมดของที่นี้ และไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จ
พร้อมกับความลับที่เปิดเผยหลายอย่างคือ ดาเรียลเยไม่คิดจะกลับไปเพราะเป็นเด็กในจินตนาการของเด็กคนหนึ่งและอาเรียนามีพ่อที่เป็นคนขายเนื้อ ถึงแม้ตัวเองจะเป็นมังสวิรัติ และนักเขียนที่หายตัวไปในตอนแรกที่เขียนจดหมายถึงจูเลีย คือ แมลงวัน ซึ่งเขียนหนังสือเล่มนี้ให้เราอ่าน และแถมสามารถเข้าๆออกๆเกาะนี้ประจำอีกด้วย
———————————————
เวลาหล่นหาย
หลายครั้งได้ปล่อยเวลาให้หล่นหายไปกับความเครียด ความกังวล ความคิดไม่ตก แต่เมื่อไหร่ที่เราปล่อยเวลาไปกับธรรมชาติ กับสิ่งที่ทำเพื่อตัวเอง รักตัวเองนั้น เวลาเหล่านั้นได้กลับคืนมา เช่น เด็กๆหลายคนทิ้งทุกอย่าง และอยู่ในเกาะนี้ไปทุกๆวันอย่างอิสระ (ดูเหมือนใช่ แต่จริงกลับไม่ใช่)
“เพราะทุกคนกำลังทำเวลาที่มีค่า
ในการสร้างสรรค์หล่นหายไประหว่างทาง”
———————————————
ชีวิตมลายไป
เมื่อเวลาที่หายไปเท่าไหร่ก็ไม่มากเท่ากับชีวิตและจิตวิญญาณของเราได้หายไปด้วย เราปล่อยทิ้งไปกับเรื่องที่เราไม่ลอง เรื่องที่เราคิดว่าทำไม่ได้ เรื่องที่เราคิดว่าเสียเวลา แต่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เสียเวลาสุดคือ เราใช้เวลาไปกับคำพูดของคนอื่นที่ว่าร้ายเรา ความทุกข์ที่คนอื่นใส่มาให้กับเรา
อย่างเช่น มนุษย์กินคนที่น่าเกลียดน่ากลัวนั้น คือ เปรียบได้สองนัยคือ เป็นมนุษย์ที่ชอบใช้เวลาไปกับการตำหนิติเตียนผู้อื่น ใช้เวลาไปกับฆ่าคนอื่นด้วยคำพูดและการกระทำ กับอีกนัยคือ มนุษย์พวกนี้ กินหรือกัดกร่อนใจตัวเองจากคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น ก็เลยอยากที่จะกลืนกินมนุษย์ด้วยกันเอง
“วิญญาณหลุดจากร่างยามเป็นอยู่นั้นไม่ต่างจากตายทั้งเป็น”
———————————————
สัมพันธ์คืนใคร
เมื่อเราใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ชีวิตของเรายังคงอยู่ในเวลาเท่าเดิม แต่ไฉไลกว่าเดิมคือ การใช้มันอย่างมีค่ากับคนและที่ๆเหมาะสม สิ่งเหล่านั้น ทำให้ ความสัมพันธ์หลายอย่างที่ทั้งตัวเราและคนอื่นก็จะดีขึ้นด้วย อย่างเช่น จูเลียรับฟังเรื่องราวของดาเรียลเยและอาเรียนาอย่างเข้าใจและให้อภัยที่ทั้งสองไม่ได้พูดความจริงแต่แรก และทั้งสามยังเป็นเพื่อนกันต่อไป
“ความสัมพันธ์กับคนอื่นสำคัญอยู่ที่เข้าใจและให้อภัย”
———————————————
ทรงจำได้คืน
เมื่อเวลาที่สูญเปล่าของเราได้กลับคืนมา ความทรงจำที่มีทั้งดีและไม่ดีก็กลับคืนมาด้วย ขอให้เราเพียงใช้ใจในการมองโลกในแง่ดี เลือกแต่ความทรงจำดีและละทิ้งความทรงจำร้ายออกไป เราก็จะจดจำได้ว่า เราหลงลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า อย่างเช่น คนๆหนึ่งก็หลงลืมเพื่อนเล่นในจินตนาการอย่างดาเรียลเยเเล้ว แต่สำหรับเขา เขาไม่เคยลืมว่า เขาคือใคร
“สิ่งสำคัญสุดคือ การไม่ลืมตนว่า เราคือใคร ทำอะไรอยู่”
———————————————
เมื่อเราศึกษาจะพบว่า หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ขอบอกว่า อย่าอ่านด้านหลัง เพราะจะรู้เรื่องราวทั้งหมดเลย แต่มีหลายเรื่องที่ต้องค้นหาเพื่ออ่านต่อในหนังสือเด็กเล่มนี้ แล้วจะพบว่า
“เวลาเป็นสิ่งมีค่าดั่งทองคำ”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in