“ตะวันส่องแสงบนพื้นปฐพี
รักครั้งนี้มาเยือนที่หน้าประตู
ชีวิตรักทั้งสองบัญเอิญดู
ดุจดั่งบุปผชาติรอคอยบาน
ความรักเหมือนความสุข
ยามทุกๆวันเหมือนดั่งบุษบา
บานยามเช้ากลางวันเย็นหนา
ไม่ร้างลาความรักทั้งสองคน”
ความเป็นจริงของการรู้จัก “My Dear Kuma” เป็นความบังเอิญที่ไปอ่านเจอในเฟสบุ๊คของเพื่อนและเข้าไปติดตามเพจของจิมิโกะ พอติดตามไป ก็ดันพบว่า มีหนังสือ เลยตามมาจัดไว้หนึ่งเล่ม หนังสือเล่มนี้ก็เลยตามสภาพค่ะ เก่านิด แต่เนื้อหายังครบอยู่ เรายังตามมาตลอด แต่คุณจิมิโกะน่าจะไม่ได้ทำเพจแล้วค่ะ เพราะหายไปหลายปีแล้วเหมือนกัน ซึ่งทำให้อดเสียดายไม่ได้เหมือนกันค่ะ
เพื่อนจิมิโกะไม่ว่าง เลยบอกกับจิมิโกะให้พาคุมะซังไปทานอาหารกับเที่ยว และเมื่อก่อนที่จะลากัน คุมะซังขอเบอร์โทรศัพท์โดยแลกเบอร์กันไว้ และตั้งแต่นั้น ทั้งสองคน คุยกันตลอด เรียนรู้กันไป ยอมรับซึ่งกันและกัน จนกระทั้งวันหนึ่ง คุมะซังพาไปซื้อแหวน และขอแต่งงาน
เรื่องราวในเล่มนี้มีการสอดแทรกความน่ารักแบบกวนๆ ตลกขบขัน ระหว่างความรักของทั้งสอง ที่จะรวมความกวน ว่า คุมะซังชอบพูดเรื่องมารุโกะ และชอบพูดว่า เดี่ยวก็หย่ากันได้ ซึ่งก็แสดงออกถึงความไม่แน่นอนของชีวิตคู่ได้
หลายครั้งอ่าน ก็ขำไม่ออกกับมุกตลกเหมือนกัน เพราะบางที คิดว่า คุมะซัง ปากร้ายเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้ามองข้าม มันก็ตลกในความน่ารักของความรักของทั้งสองคนค่ะ
ความรักที่จิมิโกะเปรียบเหมือนกับฤดูกาลค่ะ ที่มีทั้งหมด ๔ ฤดู ไม่มีอะไรแน่นอน มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงตลอด รักของเราจะอยู่กันนานไหม แล้วในอนาคตรักเราจะเป็นอย่างไร แต่ขอเพียงแค่ปัจจุบันได้อยู่ด้วยกัน รักกัน เข้าใจกันก็เพียงพอแล้ว
ฤดูร้อน
เรื่องราวเริ่มต้นที่ว่า ทั้งสองคนคือใคร และเส้นทางความรักของทั้งสองคืออะไร ซึ่งในเรื่องราวนี้ มีตอนคุณแม่ของคุมะซังมาหาและถามจิมิโกะว่า รักลูกชายเพราะอะไร แถมความใจดีของคุณแม่หมีทำให้รู้ว่า คงไม่มีปัญหาแม่สามี ลูกสะใภ้แน่นอนค่ะ ถึงแม้ภาษาจะต่างแต่ใจสื่อถึงกันได้ค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง
เรื่องราวในตอนนี้เป็นตอนที่จิมิโกะไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยไปพักกับครอบครัวของคุมะซัง จิมิโกะจะได้ไปเที่ยวที่ Ghibli Museum แต่ตั๋วหมดค่ะ เลยไม่ได้ไป ในไม่ช้า ทั้งคู่ได้ไปกันทีหลัง และมีไปเที่ยวโตเกียว ก่อนที่จิมิโกะจะไม่สบาย และคุมะซังดูแลด้วยความรักและเป็นห่วง คุมะซังออกแนวผู้ชายปากแข็งแต่ใจรัก อะไรประมาณนี้ น่ารักสไตล์พระเอกญี่ปุ่น
ฤดูใบไม้ผลิ
เรื่องราวของทั้งสองคนยังดำเนินต่อไปนะ และจะดำเนินต่อไปในทิศทางใดก็หาที่ใครจะรู้ไหม นอกจากใจทั้งสองคนที่จะรู้ โดยเราชอบเรื่องรักของทั้งสองที่พยายามเรียนรู้กันและกัน จนแม้กระทั้งภาษาก็ไม่สามารถขวางกั้นความรักของทั้งสอง
ฤดูหนาว
เรื่องราวในตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่พูดคุยถึงกันว่า ทั้งสองรู้สึกที่อบอุ่นใจที่มีกันและกัน ทั้งสองยอมมองแต่ข้อดี และมองข้ามข้อเสียของกันและกัน และทั้งสองรู้สึกขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันและกัน
เรื่องราวในเล่มนี้จบลงตรงไม่รู้ว่า ชีวิตรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป เดินทางไปทางไหน ได้แต่งงานกันไหม ก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้ แต่ความรักของทั้งสอง ทำให้เราเรียนรู้ว่า ชีวิตเหมือนรัก ที่ต้องเข้าใจ ยอมรับ รับฟัง เชื่อใจกันและกัน
“ความรักคือสิ่งที่สวยงาม
และทำให้โลกนี้เบ่งบานด้วยเมตตาจิตต่อกัน”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in