เรื่องราวในเล่มนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง ได้แก่
วิวาหพระสมุท และ ท้าวแสนปม
ซึ่งเรื่องราวทั้งสองเรื่อง สมควรอ่าน
เพราะดีทั้งวรรณศิลป์และคุณธรรม
-1-
วิวาหพระสมุท
ประชาชนชาวเกาะอัลฟะเบตา ผู้มีความเชื่อว่า เมื่อครบทุกรอบ ๑๐๐ ปี จะต้องพาสาวพรหมจารีไปเป็นเจ้าสาวของพระสมุทร เพื่อเป็นการสักการะและให้ทุกคนพ้นภัยทางทะเล
ขณะนั้นท้าวมิดัสผู้ครองเกาะจึงจำใจส่งพระธิดาชื่อ อันโดรเมดาไปทำพิธีบูชายัญต่อพระสมุทร แต่เจ้าหญิงทรงรักอยู่กับเจ้าชายอันเดร
จึงมีการวางแผนส่งพระพี่เลี้ยงชาวอังกฤษชื่อ แมรี่ ไปขอความช่วยเหลือจากนายนาวาเอกเอ็ดเวอร์ด ไลออน ผู้บังคับเรือรบอังกฤษอ๊อกฟอร์ด มีการซ้อนแผนขึ้นในพิธีส่งตัวเจ้าสาวพระสมุทร
โดยนาวาเอกเอ็ดเวอร์ด ไลออน นำทหารเรืองอังกฤษในบังคับบัญชาถืออาวุธเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับการเรือราชนาวีอังกฤษ มีอำนาจเหนือท้องทะเล ถือเป็นผู้แทนพระสมุทรโดยชอบธรรม และอ้างว่า เจ้าชายอันเดรเป็นเชื้อพระวงศ์พระสมุทร สมควรจะแต่งงานกับเจ้าหญิงแทนพระสมุทร
ประชาชนชาวอัลฟะเบตาทั้งหลายต่างพลอยยินดีและมีความสุขกับเจ้าชายอันเดรและเจ้าหญิงอันโดรเมดาในพิธีแต่งงานครั้งนี้
(เรื่องย่อจากหนังสือ)
เรื่องนี้งดงามทั้งบทละคอน (สมัยก่อนสะกดแบบนี้คะ) และทั้งเรื่องราวที่สนุกสนาน เป็นบทละคอนสั้นๆที่อ่านจับใจความและไม่เพียงเท่านั้น
๑. เรียนรู้ความฉลาดของตัวละครแต่ละตัว
๒. รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากคนที่คิดว่าจะช่วยเหลือเราได้
๓. การที่จะบอกกล่าวว่าความจริงของพิธีกรรมนั้นไม่มีอยู่จริง
ทั้งหมดนี้เป็นอุบายที่ให้คนอ่านลุ้นอยู่ว่า ทั้งสองจะได้ครองรักกันอย่างมีความสุขไหม
และพอเราได้อ่านเรื่องนี้ เรารู้สึกได้ถึงการจินตนาการว่า กำลังดูคนเล่นละคอนเวทีอยู่ตรงหน้า สนุกสนานและน่ายินดียิ่งนักในตอนจบ ดุจดั่งคำกล่าวร้อยกรองในเล่มว่า
มิดัส - (แขกบรเทศ)
ขออำนวยอวยพรสุนทรสวัสดิ์
เพิ่มพิพัฒน์เพราะปลูกลูกทั้งสอง
จะประสงค์สิ่งใดให้สมปอง
อยู่ร่วมห้องเสน่หาอย่าจืดจาง
ทุกคน - (แขกบรเทศ)
เทวานุภาพนำผล
เกิดสรรพมงคลรอบข้าง
สรรพโศกโรคร้ายจงวายวาง
ทั้งพระแลนางจนอยู่เย็น
ร้องทั้งหมด (แขกบรเทศ)
จงชวนกันปรีย์เปรมเกษมสานต์
หมดรำคาญสิ้นเรื่องที่เคืองขุ่น
หมดเหตุวิวาทบาดสกุล
หมดว้าวุ่นเกษมสามัคคี
เทวานุภาพนำผล
เกิดสรรพมงคลเสริมศรี
เทพช่วยรักษาปรานี
ขอให้สุขสวัสดีทั่วกันฯ
-2-
ท้าวแสนปม
พระเจ้าไชยสิริมีพระธิดาสิริโฉมงดงาม และกิตติศัพท์เล่าลือไปไกล ทราบไปถึงพระเจ้านครศรีวิไชย จึงส่งฑูตให้ไปสู่ขอมาเป็นพระมเหสีของพระชินเสนที่เป็นบุตรชาย
แต่พระเจ้าไชยสิริไม่ยอม บอกให้พระเจ้านครศรีวิชัยยอมเป็นเมืองขึ้น เพื่อให้บุตรชายของท่านมาครองพระนครของตน ถึงจะยกบุตรีให้ จึงทำให้ทั้งสองไม่ลงลอยกัน
ส่วนด้านพระชัยเสนอยากพบกับพระธิดามากว่า หน้าตาสวยสมคำร่ำรือหรือเปล่า ก็เลยตัดสินใจปลอมตัวเป็นท้าวแสนปม ส่งผักไปให้ และเมื่อทั้งสองได้เจอกัน ฝ่ายหญิงมั่นใจว่าฝ่ายชายไม่ใช่คนธรรมดา ส่วนฝ่ายชายก็คิดว่าฝ่ายหญิงมีใจให้
ฝ่ายชายจึงทดลองด้วยการจารสาร
ผ่านมะเขือให้นาง โดยมีความว่า
“ในลักษณ์นั้นว่านิจจาเอ๋ย
กระไรเลยหัวอกหมกไหม้
อกผ่าวราวสุมรุมไฟ
ทำไฉนจะพ้นไฟราญ
เสียแรงเกิดมาเป็นนักรบ
เผ่าพงศ์ทรงภพมหาศาล
สู้กรำลำบากยากนาน
ยอมเป็นปมเป็นปานเปรอะไป
ได้เห็นแก้วประเสริฐเลิศชม
จะนิยมก้อนกรวดกระไรได้
เคยพบสาวฟ้าสุราลัย
หรือจะใฝ่ในชาวปัถพิน
โอ้แก้วแวววับช่างจับจิต
จะใคร่ปิดปลดมาดังถวิล
โอ้เอื้อมสุดหล้าดังฟ้าดิน
จะได้สมดังจินต์ฉันใด”
ส่วนฝ่ายหญิงตอบกลับว่า
“ในลักษณ์นั้นหนาน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา
ฤๅจะกล้าแต่เพียงวาที
เห็นแก้วแวววับที่จับจิต
ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี
อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ
ไม่ใช่ของตลาดที่อาจซื้อ
ฤๅแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง
คงชวดพวงบุปผชาติสะอาดหอม
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม
จึ่งได้ออมอบกลิ่นสุมาลี”
และหลังจากนั้น พระธิดาโปรดมะเขือเป็นพิเศษ และมีเหตุที่พระชินเสนต้องกลับเมือง เลยยังไม่ทันพาพระธิดาหนี พระธิดาตั้งครรภ์ก่อน ดังนั้นคนคิดว่า ตั้งครรภ์เพราะมะเขือ และมีโหรทำนายว่า พระโอรสของพระธิดาจะเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
ดังนั้น พระเจ้าไชยสิริส่งคนตามหาพ่อของเด็กและหากเด็กรับของใครแปลว่า คนนั้นเป็นพ่อเด็ก พระชัยเสนรู้เรื่องรีบมาโดยปลอมตัวเป็นท้าวแสนปม และเด็กรับเฉพาะก้อนข้าวเย็นจากท้าวแสนปมคนเดียว เพราะอุบายที่ถูกวางไว้ โดยรับสั่งให้แม่นมรับแต่ของมือจากท้าวแสนปมคนเดียว
พระเจ้าไชยสิริรู้สึกโกรธมากเลยขับไล่ทั้งสองคนและพระชินเสนที่วางทัพหลบซ่อนไว้แล้ว ก็ตีกลองจนกองทัพโห่ร้อง ทำให้พระเจ้าไชยสิริรู้ว่าเสียที่แล้ว จึงยอมให้พระชินเสนพาพระธิดาและหลานไป
แล้วหลังจากนั้น พระโอรสของพระชัยเสนคือ พระเจ้าอู่ทอง ที่เป็นปฐมกษัตริย์ของกรุงเทพมหานครบวรทวาราวดีศรีอยุธยา (กรุงศรีอยุธยา) และนี่คือเรื่องราวประวัติของพระราชบิดาและพระราชมารดาของพระเจ้าอู่ทอง
(เรื่องย่อจากตัวเอง)
เรื่องนี้งดงามทั้งบทละคอน ประวัติศาสตร์และทั้งเรื่องราวที่สนุกสนาน เป็นบทละคอนสั้นๆที่อ่านจับใจความและเรื่องราวที่ท่านได้ค้นหากันนั้นเป็นจากเรื่องจริงที่สมจริงสุดเพื่อให้ทุกคนได้อ่านกัน
๑. เรียนรู้การวางแผนที่แยบคายของพระชัยเสนไม่ว่าการปลอมตัวและการวางพลทัพ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีการรบกันเกิดขึ้น
๒. การไม่มั่นใจอะไรเกินเหตุ คือ พระชัยเสนคิดว่าพระธิดามีใจรักตนเช่นเดียวกับที่ตนรักนาง แต่ไม่กระโตกกระตาก แถมยังทดลองดูว่าเป็นจริงหรือไม่
๓. การที่จะบอกกล่าวว่า อย่าดูคนเพียงภายนอก แต่ให้ดูคนไปถึงภายใน
เรื่องราวทั้งหมดก็ลุ้นพอตัวเช่นเดียวกันว่า ทั้งสองจะรักกันและสามารถไปเริ่มต้นใหม่ได้อย่างไรและสุดท้ายก็เป็นดุจดั่งร้อยกรองที่ว่า
"ครั้นถึงซึ่งกองทวยหาญ
จึ่งเรียกศรีวิกากาญจน์ผ่องใส
ให้นางขึ้นทรงวอเอี่ยมอุไร
กับกุมารนั้นไซร้ไปด้วยกัน
ส่วนพระองค์ขึ้นทรงรถราช
แล้วสั่งให้ยาตร์พลขันธ์
รีบเดินผ่านป่าพนาวัน
สู่ขัณฑ์ศรีวิไชยธานี"
สมัยตอนวัยละอ่อน เราได้เรียนเรื่องนี้ แล้วคุณครูมีให้ไปดูละครเวทีเรื่อง ท้าวแสนปม โดยที่สามารถพาครอบครัวไปดูได้ เราไปดูกับแม่
เพราะตอนนั้น เรายังละอ่อนและศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยก็ไกลบ้าน แม่กับเราดูจนติดและสนุกมาก คือ ทุกคนเล่นดีมาก และสนุกสุดๆ
คนเล่นเป็นดาราที่ไม่มีชื่อเสียง แต่ทุกคนเล่นได้ดีกว่าดาราที่มีชื่อเสียงอีก แม่เอ่ยชมไม่ขาดสายว่า สนุกมากและได้ความรู้ด้วย
ส่วนเราก็คิดไม่ต่างกันว่าทั้งสนุกและทำเรื่องออกมาให้จำง่าย จำเรื่องราวเรื่องนี้ตลอดไปเลย ซึ่งเป็นละครเวทีสั้นแต่เรียกว่า จำได้ตลอดไปไม่รู้เดิม
5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
1. เรียนรู้ประวัติศาสตร์
เราเคยมีความสงสัยมานานว่า พระเจ้าอู่ทอง ท่านคือใคร จนกระทั่งได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านเรื่องราวของท่าน ถึงทำให้เรารู้ว่า ความรักของพ่อแม่ท่านนั้นหล่อเลี้ยงให้ท่านยิ่งใหญ่ถึงปัจจุบันนี้ และไม่เพียงเท่านั้นยังมีประวัติศาสตร์กรีกที่มีความเชื่อถึงเรื่องราวของการถวายสาวพรหมจารีให้เจ้าสมุทร ทั้งสองเรื่องมีการตีความประวัติศาสตร์ได้อย่างสนุกสนาน
“ประวัติศาสตร์นำให้เรียนรู้พฤติกรรม
ของคนในชนชั้นนั้น
และทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ
ในบรรพบุรุษของเราอย่างแท้จริง”
2. เรียนรู้วรรณศิลป์
วรรณศิลป์ทั้งสองเรื่องนี้สนุกมาก เพราะมีทั้งบทละคอน บทร้อยกรองและบทร้อยแก้วให้เราอ่านอย่างเรียนรู้ การเรียนรู้วรรณศิลป์นั้นจะช่วยให้เรารู้ศัพท์ภาษาไทยมากขึ้นและทำให้เราเข้าใจในภาษาไทยและภาคภูมิความเป็นไทยมากขึ้น
“วรรณศิลป์คือศิลปะที่ทุกชนชั้นเข้าถึง
เพียงแค่ใช้ใจที่ซื่อตรงก็เข้าถึงได้ทุกคน”
3. เรียนรู้อย่างสนุกสนาน
เมื่อเราอ่านวรรณคดีไทยหลายเรื่อง เราจะพบว่า ทุกเรื่องมีความสนุกสนานที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นสองเรื่องนี้ มีความสนุกสนานในเรื่องราวของความรักของทั้งสองที่มีอุปสรรคมากมาย และทั้งสองสามารถที่ผ่านอุปสรรคนี้ไปด้วยวิธีใด ซึ่งเรื่องราวทั้งสองจะมีการใช้ตำราพิชัยสงครามในการวางแผนด้วย เพื่อไม่ให้เสียเลือดเนื้อแต่ด้วยประการใด
“สนุกสนานอย่างมีความรู้ ช่วยให้เราสำคัญตัวถูกได้”
4. เรียนรู้อุบายฉลาดแยบคาย
เรื่องราวแรกที่นาวาเอกวางแผนในการอ้างว่าเจ้าชายเป็นตัวแทนของพระสมุทรเพื่อให้ทั้งสองได้ครองรักกันและไม่ต้องทำสงครามกัน โดยทำเป็นยกพลขึ้นบก เพื่อขู่อีกฝ่ายหนึ่งแต่การกระทำแบบนี้ ทำให้ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อแต่ด้วยประการใด
ส่วนเรื่องท้าวแสนปมนั้นแยบคายกว่ามาก เพราะมีการปลอมตัวเป็นท้าวแสนปม แถมเขียนสารส่งกันผ่านมะเขือ และยังมีการเตรียมกองทัพมาเพื่อสำหรับกันไว้ดีกว่าแก้ โดยเพียงแค่ขู่เท่านั้น และได้ผล จนสามารถพาภรรยาและบุตรกลับเมืองได้
ทั้งสองเรื่องนี้ใช้ความรอบคอบ อดทน คิดวางแผน เพื่อให้ทุกอย่างบรรลุเป้าหมายอย่างสำเร็จ
“ความรักที่เกิดจากการผ่านอุปสรรคและเข้าใจ
ได้เรียนรู้อุบายฉลาดแยบคายเพื่อความสำเร็จ”
5. เรียนรู้ความรักที่มั่นคง
ความรักทั้งสองคนนำไปสู่ความสำเร็จได้ โดยที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย เพื่อความรักที่แท้จริงเท่านั้น และเมื่อทั้งสองคนรักกันอย่างแท้จริง ส่งผลให้ความรักนั้นไปสู่ลูกด้วยเช่นกันที่ทำให้พระเจ้าอู่ทองท่านมีความเมตตาต่อปวงชนชาวไทยและทรงทศพิธราชธรรมอย่างแท้จริง
“ความรักแท้ที่มั่นคงเกิดจากความเข้าใจ
และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อย่างเมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา”
เราเรียนรู้ความฉลาดในอุบายทั้งหลายที่วางแผนไว้อย่างรอบคอบ หากคนเรามีความรักที่มั่นคงและมีความตั้งใจที่จะทำให้รักสำเร็จ ไม่ว่ารักหรือชีวิตก็สามารถสำเร็จลุล่วงหมายได้ดี
“ชีวิตที่รอบคอบ
ย่อมนำความสำเร็จสู่จุดมุ่งหมายมาให้”
ความรักที่มั่นคงในชีวิต
คือความคิดเข้าใจกันและกัน
พากันฝ่าฝันอุปสรรคทุกๆวัน
เรียนรู้ฉันรักเธอตลอดไป
ถึงแม้นไม่ได้รักต้องรัก
ไม่ได้ลักก็วางแผนอย่างรัดกุม
เพื่อเรียนรู้กันหลายมุม
สองคนกุมหัวใจกันและกัน
“ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ เรามาใช้เวลาในการเรียนรู้ชีวิตที่มั่นคง”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in