“มีสองฉายาสำหรับโอดะคือ
เจ้างั่งแห่งโอวาริและจอมมาร”
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์
ที่ต้องตั้งใจอ่านแบบมีสติ
เพราะจะมีการอ่านประวัติศาสตร์
และย้อนประวัติศาสตร์ ก่อนจะย้อนกลับมาที่เดิม และมีเกร็ดประวัติของแต่ละคนให้รู้
ซึ่งหนังสือเล่มนี้สนุกมาก
และจะมีสรุปเรื่องราวทั้งหมด
ในภายหลังให้ดูอย่างเข้าใจอีกด้วย
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของชายผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่มีความฝันอยากรวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่ง และถึงแม้ว่าตัวเองจะทำไม่สำเร็จ แต่ลูกน้องของตัวเองอย่างฮิเดโยชิสามารถทำสำเร็จได้ก็ตาม
-1-
ก่อนเรืองอำนาจ
โอดะเกิดในตระกูลใหญ่ และแต่ละคนในตระกูลอยากเป็นใหญ่ โดยที่ตระกูลจะมีแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือ พ่ออยากให้โอดะเรืองอำนาจ ส่วนแม่อยากให้น้องชายเรืองอำนาจ
ดังนั้น โอดะเลยต้องแกล้งทำเป็นโง่ หยาบคาย ทำตัวแปลกๆ ไม่ทำตามธรรมเนียม เพื่อให้คนภายนอกไม่รู้ว่า จริงๆ ตัวเองเป็นคนฉลาดและตัวเองรู้เท่าทัน (ทำให้ศัตรูเผลอ) และการกระทำนี้เองที่ทำให้มีฉายาว่า “เจ้างั่งแห่งโอวาริ”
และไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นซามุไรผู้สืบทอดพิธีชงชาอีกด้วย โดยที่มีหลายต่อหลายคนรู้ถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของโอดะว่า หากใครได้ชิมสักครั้งหรือเข้าร่วมพิธีสักครั้งในชีวิต ถือว่า คุ้มค่ามากๆ
(สมัยก่อน ไดเมียวมีธรรมเนียมปฏิบัติต้องชงชา
เพื่อฝึกความเยือกเย็นและอดทน)
เมื่อพ่อของตัวเองเสียชีวิตลง ทำให้โอดะรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น โอดะคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จำเป็นต้องรักษาอำนาจของตัวเอง โดยการที่แสดงออกถึงความจริงของตัวเอง คือ เป็นคนที่เยือกเย็น และเงียบสงบ เพื่อดูว่า ศัตรูเป็นแบบใด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ น้องชายของตัวเองที่จะโค่นอำนาจ โดยที่โอดะตั้งใจกำจัดแบบไม่ได้ฆ่าเพราะตามคำแม่บอก แต่น้องชายยังวางแผนฆ่าอีก โอดะตัดสินใจฆ่าน้องชายตัวเองทิ้ง ซึ่งในแง่ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ดูโหดร้าย
หลังจากนั้น โอดะก็เริ่มเข้าสู่ในช่วงที่มีอำนาจอย่างแท้จริง และเริ่มที่จะทำตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริง คือ การรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว และไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นผู้ริเริ่มการทำเบนโตะเพื่อง่ายในการกินเวลาสู้สงครามด้วย
-2-
เรืองอำนาจ
โอดะได้วางแผนในการทำศึกสงครามอยู่หลายครั้ง และรู้จักใช้คน แถมคนที่อยู่รอบตัวหลายคนเป็นคนซื่อสัตย์ พร้อมที่จะช่วยเหลือให้โอดะประสบความสำเร็จ อย่างเช่น ฮิเดโยชิและอิเอยัตสึ รวมทั้งอีกหลายคน ซึ่งโอดะวางแผนการใช้คนและรวมทั้งตัวเองจะเป็นผู้นำที่ต่อสู้ร่วมกันทำให้ชนะศึกหลายครั้ง ดังนั้น อำนาจของโอดะมีมากขึ้นๆเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่า มีคราวหนึ่งที่โอดะเกือบจะแย่ แต่ก็มีฮิเดโยชิที่ช่วยเหลือจนตัวเองรอดมาได้ และหลังจากเหตุการณ์นั้น ทำให้โอดะไม่ได้อยู่ในความประมาท และวันหนึ่งโอดะเลยตัดสินใจที่จะกำจัดกลุ่มพระอิกโก-อิกกิที่เป็นพระในพระพุทธศาสนาทุศีลมาจับดาบเพื่อเป็นนักรบ
หลายคนมีการทัดทานในการกำจัดนักบวชกลุ่มนี้ แต่โอดะไม่สนใจ คิดที่จะกำจัดให้ได้ โอดะวางแผนโดยสุ่มเป็นกองโจร และตัดสินใจล้อมวัดเอาไว้ที่ภูเขา ก่อนจะเผาพระพร้อมประชาชนตายในทีเดียว ซึ่งทำให้พวกมิชชันนารี ที่โอดะแสดงท่าที่เป็นมิตรโดยอยากเรียนรู้ตะวันตกอย่างตั้งใจ เพราะจะได้เปิดโลกทัศน์ รู้สึกกลัวว่า โอดะจะเผาตัวเช่นเผาพระในศาสนาพุทธ เลยทำให้มิชชันนารีเหล่านั้น ไม่กล้าแสดงตนที่จะเป็นใหญ่หรือเอาญี่ปุ่นแต่ด้วยประการใด
ในไม่ช้า จักรพรรดิ์ส่งมาบอกกับทางโอดะให้สงบศึกต่อกันกับพระสังฆราชเพื่อจะได้ไม่ทำให้ประเทศหรือชาติตระกูลตัวเองเกิดความด่างพร้อย ซึ่งโอดะยินยอมที่จะสงบศึก แต่เพราะศึกครั้งนี้ ถูกตั้งฉายาว่า “จอมมาร”
-3-
ถูกกำจัด
หลังจากนั้น โอดะต่อสู้สงครามเพื่อขยายอำนาจตัวเองอีกมากมาย ถึงแม้ต้องมีการทั้งกำจัดพี่เขย กำจัดอีกหลายคน โอดะจำเป็นต้องทำ และโอดะมีความคิดในการวางแผนทำสงครามที่หลายต่อหลายครั้งดูโหดร้ายในหน้าประวัติศาสตร์ แต่บางคนก็เข้าใจว่า ต้องทำ
จนแม้กระทั่งว่า น้องสาวตัวเองไม่คุยด้วย เพราะโอดะทำให้สามีตัวเองถึงกับต้องฮาราคีรีท้อง เพื่อจากไป แต่โอดะยังต้องดำเนินต่อไป อย่างเงียบ ชาญฉลาด เพื่อทั้งความอยู่รอด และเพื่อความฝันของตัวเองที่จะเป็นจริงด้วย
ในไม่ช้า เมื่อมีคนรักและเคารพย่อมมีคนเกลียด เพราะโอดะถูกคนสนิทอย่างมิตสึฮิเดะที่เปรียบเหมือนกับกุนซือสำคัญของโอดะ ได้ตัดสินใจฆ่าโอดะทิ้ง โดยวางแผนเผาวัดฮอนโนจิเพื่อฆ่าโอดะ แต่โอดะยังไม่ตายในทีเดียว บางประวัติศาสตร์บอกว่าตายเลย แต่บางประวัติศาสตร์บอกว่ายังไม่ตาย แต่คว้านท้องตัวเองตาย เพราะรู้ว่าหนีไม่พ้นชะตากรรมตัวเองแล้ว
เพราะเนื่องจากว่า จริงๆแล้ว มิตสึฮิเดะไม่พอใจโอดะอยู่หลายครั้ง และมีความคิดว่า การก่อสงครามไม่ใช่เป็นการทำให้ญี่ปุ่นรวมเป็นหนึ่งได้อย่างแท้จริง เขาเป็นพวกรักความสงบ ไม่ได้ชอบทำศึกสงคราม และโอดะทำให้ครอบครัวเขาลำบากเพราะศึกสงครามอยู่หลายครั้ง แถมไม่ช่วยแม่ของเขาในสงครามอีก และยังฆ่าพระในพระพุทธศาสนา ทำให้เขาเก็บความเครียดและความแค้นชิงชังมาจนถึงเวลาที่ต้องกำจัดโอดะอย่างสิ้นซาก
ถึงแม้จะปิดตำนานโอดะไปอย่างไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะโอดะไม่สามารถรวมญี่ปุ่นสำเร็จ แต่ฮิเดโยชิที่เป็นลูกน้องของโอดะได้มากำจัดมิตสึฮิเดะเพื่อล้างแค้นให้นายก่อนจะรวมญี่ปุ่นสำเร็จ ฮิเดโยชิมีความเหมือนกับมิตสึฮิเดะอยู่อย่างตรงที่ว่า รักความสงบเหมือนกัน และไม่เห็นด้วยกับนายหลายอย่าง แต่ก็สามารถเข้าใจนายได้ อย่างเช่น ฮิเดโยชิไม่ชอบที่โอดะดูสนใจศาสนาคริสต์เพราะเขาเป็นคนนับถือศาสนาพุทธและเชื่อในพุทธ เป็นต้น
5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
1. การไว้ใจ
โอดะเป็นเจ้านายที่รู้จักคน ไว้ใจคน และใช้คนให้ไปทำงานในที่ๆเหมาะกับตัวเอง แถมยังมีการทัดทานคน อย่างเช่น ตอนฮิเดโยชิจะพาทหารไปจัดการศัตรูก็มีการทัดทาน แต่เมื่อฮิเดโยชิขอร้องว่าจะไป ก็ยอมไว้วางใจจนฮิเดโยชิสามารถนำชัยชนะมาให้ได้ และโอดะปูนบำเหน็จให้อย่างมากอีกด้วย
“ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสิ่งที่ดี”
2. การแกล้งโง่
เราจะพบว่า โอดะแกล้งโง่และเล่นทีเผลออยู่หลายครั้ง โดยที่แกล้งโง่ ไม่ทำตามธรรมเนียม เพื่อให้ศัตรูไม่รู้ว่า ตัวเองต้องการอะไร และศัตรูเผยทุกอย่างออกมาเอง หรือเล่นทีเผลออย่างตอนที่กำจัดกลุ่มพระอิกโก-อิกกิ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราสามารถนำสิ่งหนึ่งมาปรับในชีวิตประจำวันได้ คือ การแกล้งโง่ เพราะอย่าลืมว่า ไม่มีใครอยากเห็นเราฉลาดกว่าตัว เมื่อเราแกล้งโง่ เราอาจจะพบว่า เหลือเพียงใครบ้างที่ดูน่าไว้ใจในชีวิตของเรา
“แกล้งโง่ไม่ต่างจากซ่อนดาบในรอยยิ้ม
เพราะเพียงแค่ดูให้ลึกว่า คนอื่นเขามองเราเพียงใด”
3. ความตั้งใจ
โอดะมีความตั้งใจทำทุกอย่างเพียงเพื่อสิ่งเดียวในชีวิตของเขา คือ การรวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่ง เขาอยากประกาศให้โลกรู้ว่า ถึงญี่ปุ่นเล็กแต่เล็กพริกขี้หนู และสามารถอยู่เหนือนานาประเทศได้ อย่างเช่น ญี่ปุ่นชนะรัสเซีย (ไม่ได้เกิดในยุคนี้แต่ก็เกิดในไม่ช้า) เป็นต้น
“อย่าดูถูกสิ่งที่ดูเล็ก
เพราะจริงๆแล้วซ่อนความยิ่งใหญ่ไว้ก็ได้”
4. ความประมาท
โอดะมีความประมาทในช่วงท้ายชีวิตของเขาอีกครั้งหนึ่ง โดยที่เขามั่นใว่า อยู่ในเขตของตน คงไม่มีใครมาทำร้ายเขาได้ เขาเมามาย และถึงแก่ความตายโดยที่ทำความฝันยังไม่เป็นจริงเพราะเพียงความประมาทและน้ำเมาของตัวเองเท่านั้น
“หลายต่อหลายครั้งในชีวิตของเราประมาท
จนทำให้ชีวิตของเราพังลงได้”
5. สถานการณ์สร้างคน
โอดะได้สร้างสถานการณ์ให้กับตัวเองอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าศึกไหนก็จะฝากไว้ในประวัติศาสตร์ว่า “โอดะ โนบุนางะ” ผู้นี้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นแคว้นเล็กแต่สามารถชนะแคว้นใหญ่ๆและค่อยๆรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ และไม่เพียงเท่านั้น ยังสร้างสถานการณ์ให้พ่อตาเข้าใจผิดว่า ตัวเองไม่รู้ธรรมเนียม และพอถึงตอนแต่งงานก็สามารถแสดงออกถึงการรู้ธรรมเนียมได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำเพื่อปกป้องตัวเองและสร้างให้ตัวเองยิ่งใหญ่
หลากหลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา
และเราตัดสินใจกระทำกับสถานการณ์นั้นตรงหน้า
เทียบเท่ากับว่า เราสร้างตนด้วยมือตน
และย่อมหมายความว่า
เราทำลายตนด้วยมือตนเช่นกัน”
เราเรียนรู้เรื่องราวของคนๆหนึ่งที่มีทั้งคนรักและคนชัง แต่คนเราหนีไม่พ้นโลกธรรมแปดกันทั้งนั้น
“เราไม่สามารถตัดสินใจการกระทำของคนๆหนึ่ง
จากการกระทำของคนๆนั้น แต่เราต้องเข้าใจ
ในสถานการณ์ของเขาด้วย”
ถึงแม้คนจะมองว่าโหดร้าย
ทำตัวคล้ายสัตว์เหล่านี้
แต่หากแม้นเราไปอยู่ในวิถี
หามีทางหนีพ้นการกระทำ
การกระทำมีรักย่อมมีเกลียด
หากหนีไปเฉียดตายก็มีผล
คนทุกคนย่อมรู้การกระทำตน
ว่าทำผลนั้นออกมาเป็นสิ่งใด
“ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ เรามาใช้เวลาในการเรียนรู้แต่ละด้านของเขาเพื่อปรับปรุงแก้ไขส่วนของเราค่ะ”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in