“วันนี้ คุณออมเงินแล้วหรือยังค่ะ”

    หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือแนวขบขันแบบมีสาระ และการ์ตูนดูน่ารัก อ่านเข้าใจง่าย เมื่อทำตาม ก็ได้ผลดีกว่าที่คิด

     ทุกคน เคยใช้จ่ายไปแบบไม่รู้ตัวไหม พอมารู้ตัวอีกทีก็เหลือเงินไม่กี่บาทในกระเป๋าแต่กลับต้องใช้อีกหลายวันกว่าจะถึงสิ้นเดือน พอพยายามคิดเท่าไหร่ นั่ง ยืน นอน ก็คิดไม่ออก ว่า ใช้ไปกับอะไรบ้าง 

และหลายครั้ง เมื่อมาถึงสิ้นเดือน เงินเหลือ ๐ บาท แบบไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไรเลย นี่เป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้ เพราะคุณเคียวโกะไม่ต่างจากเราและอีกหลายคนที่ไม่เหลือเงินเก็บเลย และต้องจัดการเงินตราตัวเองอย่างไรให้มีเงินเก็บ

     หลังจาก เราอ่านหนังสือเล่มนี้ และปรึกษากับพี่สาว เราสามารถจัดการระบบเงินของเราได้คร่าวๆตามภาพข้างล่างนี้เลยค่ะ

     ๑. เงินออม โดยจะคิดเป็น ๕๐% ของเงินเดือนที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายต่อเดือนแล้ว โดยแบ่งเข้าสหกรณ์ เงินฝากระยะยาว ออมทรัพย์มีแต่ได้ และ สลากออมทรัพย์

     ๒. เงินให้ครอบครัว โดยแบ่งเป็น พ่อ แม่

     ๓. เงินทำบุญ โดยแบ่งเป็น ศาสนา มูลนิธิ คนตกยากลำบาก และ โรงพยาบาล รวมทั้งอื่นๆ

     ๔. เงินแบ่งเบาภาระที่บ้าน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต และค่าอื่นๆ

     ๕. เงินสงเคราะห์ญาติ

     ๖. เงินเย็น สำหรับช่วงลำบาก เช่น ตกงาน เป็นต้น

     ๗. เงินใช้ส่วนตัว โดยแบ่งตามหนังสือเล่มนี้ คือ แบ่งเดือนละ ๑๐ วัน เป็น ๓ ครั้ง และครั้งละ กี่บาท เราจะใช้ในแต่ละวันตามนี้

     และเล่มนี้ แบ่งออกเป็นแบบสรุปใจความได้ถึง ๕ วิธีหลักๆ ในการมีเงินเก็บอยู่ในกระเป๋า

-1-

เริ่มเก็บสะสมเหรียญ

     การที่เราเริ่มต้นทำสิ่งเล็กน้อย โดยการสะสมเหรียญใส่ในบัญชีสุขใจ (คือบัญชีของธนาคารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่รับฝากเหรียญเข้าไปในบัญชี) ซึ่งการสะสมเหรียญทำให้เราใช้แบงค์น้อยลง เพราะส่วนใหญ่ เราไม่กล้าเอาเหรียญไปจ่ายร้านค้าอยู่แล้ว ไม่งั้นจะมีหน้าบอกบุญไม่รับของเหล่าคนขายพร้อมคำสาปแช่งแบบประชดประชันไล่หลังเราชัวร์

-2-

รู้ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง

     ก่อนทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เราต้องแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่

     และเริ่มตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป หลังจากนั้น เราเริ่มทำบัญชีรายรับและรายจ่ายอย่างต่อเนื่องทุกวัน ว่า แต่ละวันเราใช้อะไรไปบ้าง

-3-

กำหนดจำนวนเงินที่จะใช้

     การกำหนดเงินที่จะเก็บได้แน่นอนในแต่ละเดือนเป็นสิ่งสำคัญมาก และเราควรมีวินัยว่าต้องเก็บเงินให้ได้อย่างจริงจัง 

-4-

ซ่อนเงินที่ไม่ได้ใช้ตอนนี้

     วิธีของคุณเคียวโกะ คือ การเอาเงินเข้าบัญชีเงินฝาก เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เงิน และนำบัญชีเงินฝากไปซ่อนในที่ๆเรามองไม่เห็น เพื่อจะได้ไม่ไปเบิกมาใช้ แต่สำหรับเราเก็บไว้กับตัว และเตือนตัวเองตลอดว่า ห้ามใช้ เพราะเป็นเงินเก็บ เราจะได้ภาคภูมิใจว่า ฉันเก็บเงินไว้อยู่และหลายที่ ไม่เพียงเท่านั้น ฉันมีเงินเก็บกับตัว

-5-

บริหารเงินต่อไปให้ได้

     วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมาก เพราะเราทำตามคุณเคียวโกะ โดยการแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนและแบ่งเป็นระบบ โดยเฉพาะเงินใช้ส่วนตัวในแต่ละเดือน จะแบ่งเป็นดังนี้ ซึ่งเราทดลองแล้ว ใช้ได้เยี่ยมมาก

     หนังสือเล่มนี้จบลงที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงและมีเงินเก็บชัวร์ โดยเราค่อยนำพาตัวเองออกจากความยากจนได้ในที่สุด

5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้

1. ทำได้จริงและมีเงินเก็บจริง

     เราเคยทดลองกับหลายเล่มและคิดว่า ยุ่งยากมาก คนเขียนทำได้จริงหรอ เพราะมันยากและเครียดสุดๆ แต่สำหรับของคุณเคียวโกะ ทำได้อย่างง่ายๆและจริง

“พอเราทำตามคำแนะนำอย่างจริงจัง เรามีเงินเก็บ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องทำแบบไม่เครียดเกินไป 

ทำแบบพอดี และตั้งใจทำจริงจัง

ทำทุกเดือน จนสุดท้ายมีเงินเก็บอย่างจริงจัง

เรานำพาชีวิตออกจากโชคชะตาที่ว่า ไม่มีเงินเก็บซักที”

2. อ่านไม่เครียด อ่านได้เรื่อยๆ

     หนังสือทุกเล่มของคุณเคียวโกะเน้นความขบขันและอ่านคลายเครียดพร้อมทำได้จริง พอทำได้แล้ว ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี

“หลายครั้งที่เราไม่ต่างจากคุณเคียวโกะ 

เราไม่รู้ว่าเงินเราหายไปไหน

เราจำไม่ได้ว่าใช้อะไรไปบ้าง 

และชอบซื้อของน่ารัก อย่างเช่น

ปากกาสี ปากกา สมุด หรือ ของลดราคาทั้งหลาย 

จะมีเราไปต่อคิวแรกๆเพื่อให้ได้

เป็นเจ้าของๆไร้สาระเหล่านั้นมา

ซึ่งพออ่านไป ก็อดขำในพฤติกรรมเก่าๆของเราไม่ได้”

3. ฝึกความอดทน อดกลั้น กับมารผจญ

     มารผจญ คือ ความอยากได้ อยากมี ไม่ว่าอยากได้ของเล็กของน้อย ซื้อของนู่นนี้เก็บไว้ ใช้สมุดไม่เคยหมด และอีกหลายอย่าง ที่เราต้องอดทนและใช้อย่างประหยัด

“ความประหยัด ถ้าใครมีแล้ว

 ชีวิตจะพบสุข คือ มีเงินเก็บ 

และมีเงินใช้ยามจำเป็น ซึ่งสำคัญมาก 

เพราะชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน

แต่ถ้ามีเงินเก็บที่แน่นอน 

สามารถช่วยให้เรารอดพ้นความทุกข์ไปมาก”

4. เรียนรู้การใช้จ่ายอย่างถูกวิธี

     การใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น ย่อมเป็นสิ่งสำคัญกว่า การใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะสิ่งไม่จำเป็นเหล่านั้นมีอยู่ในบ้าน ดังนั้น ถ้าเราใช้หมด แล้วเราค่อยไปซื้อ มันจะช่วยประหยัดเงิน และสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ และเหลือเงินเก็บในกระเป๋าอีกด้วย

“หลายครั้งที่เราตัดค่าใช้จ่าย

ที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต แล้วชีวิตเราดีขึ้น

 โดยที่เรามีเงินเก็บในแต่ละเดือนมากขึ้น 

มีเงินเย็น สำหรับตอนที่ชีวิตไม่แน่นอนมากขึ้น

 และทำให้เราไม่ประมาทในชีวิตอีกด้วย”

5. เก็บเงินเป็นระบบ

     การเเบ่งเงินเก็บออมเป็นอย่างระบบ ว่า เราควรแบ่งเงินเป็นหมวดหมู่อะไรบ้าง และเราเอาเงินเดือนทั้งหลายเหล่านี้ใส่เข้าไปในเงินที่เราแบ่งเป็นระบบ ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมาก

“การที่เราทำชีวิตให้เป็นระบบ ระเบียบมากขึ้น

โดยที่เหมือนกับเราจัดการเงินตัวเอง 

เหมือนกับการจัดห้องเราให้เป็นระเบียบ

ชีวิตเราจะดีขึ้นเป็นลำดับ”

เราเรียนรู้ความประหยัดจากหนังสือเล่มนี้และเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้มีเงินเก็บมากขึ้น

“ตัดค่าใช้จ่ายสิ่งไม่จำเป็นออกจากชีวิต

เหมือนตัดสิ่งไม่สำคัญออกไป” 

"เงินทองหาด้วยความลำบาก

เมื่อมีมากต้องเก็บไว้เข้าที่

เมื่อมีน้อยต้องหมั่นเก็บให้พอดี

เพื่อชีวีข้างหน้าไม่แน่นอน

คนเราทุกข์แน่ถ้าไม่มีเงินใช้

เมื่อได้เงินมาควรประหยัดไว้

ในทุกยามเอาออกมาใส่

เข้าไปในกระปุกอนาคต"

“ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ ความประหยัดกับเงินจะมีอยู่มากในมือของเราค่ะ”

Look a Breathe