“ถึงแม้เราจะผิดพลาดเท่าไหร่
เราไม่เคยถือว่าเป็นความผิดพลาด"
เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสือ
“ทึ่งมากในความสามารถของเอดิสัน
เพราะเอดิสันเปรียบดั่งกับบุคคล
ผู้ไม่ย้อท้อต่อโชคชะตา”
อัลเป็นเด็กเจ้าหนูทำไม ชอบถามคำถามและทำการทดลองตั้งแต่เด็ก วันหนึ่ง อัล เข้าไปเรียนหนังสือ และโดนครูด่าว่า หัวขี้เลื้อย เลยทำให้แม่ต้องตัดสินใจเป็นครูสอนอัลเอง
วันหนึ่ง อัลเจอกับสตีเฟนสัน ที่เห็นความสำคัญของอัลเลยให้มาขายหนังสือพิมพ์ได้ และอัลขายให้ได้ดี วันหนึ่งขณะขายหนังสือพิมพ์อยู่ รถไฟออก ทำให้สตีเฟนสันช่วยเอดิสัน โดยดึงหูเพื่อช่วย ทำให้อัลหูมีปัญหาการได้ยินตั้งแต่นั้น
และอัลได้ไปช่วยลูกของเจ้าสถานี เขาเลยสอนอัลทำโทรเลข จนเก่งมากและได้เป็นถึงนักโทรเลขระดับ 2 และอัลหรือเอดิสันได้ใช้เงินไปกับการทดลอง และตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ สำหรับโทรเลข จนกระทั้งวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ขบวนรถไฟเกือบชนกัน เพราะการเผลอหลับ
เหตุการณ์นี้ เอดิสันเลยตัดสินใจไปที่อื่นและได้เจอเพื่อน แถมช่วยเพื่อนแก้ปัญหา จนได้ทำงาน และมีเงินสามารถมาซื้อของทำการประดิษฐ์ได้ แต่ในไม่ช้า บริษัทถูกคนอื่นซื้อไป
เอดิสันและเพื่อนชื่อโพ้บมาเปิดโรงงานตัวเอง และเขาเริ่มผลิตเครื่องบันทึกเสียง และมาจนถึงการผลิตหลอดไฟ เขาผลิตโดยใช้วัสดุถึง 10,000 ครั้งในการผลิตกว่า จะหาทุกอย่างที่ดีที่สุด ที่เป็นหลอดไฟในปัจจุบัน แต่สำหรับเขาไม่ถือว่า เป็นความล้มเหลว เขาถือแค่ว่า มันคือทางไม่รู้แค่นั้นเอง
วันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้น มีนักข่าว บอกว่า สิ่งที่คุณทำมาล้มเหลวหมด เขาบอกว่า ไม่ได้ล้มเหลว แค่เริ่มต้นใหม่เท่านั้นเอง เหตุการณ์นี้ ฟอร์ดผู้ผลิตรถรายใหญ่ ที่เป็นเพื่อนเขา ให้เขายืมเงินเพื่อเริ่มต้นใหม่ และเขาได้ผลิตอะไรอีกมากมายให้เราใช้จนถึงปัจจุบันนี้
เอดิสันเป็นคนมุ่งมั่น ตั้งใจและขยันทำงาน จนแทบไม่มีหยุดพัก เพื่อจะทำทุกอย่าง เพื่อคนภายหลังได้ปลอดภัยและอยู่อย่างมีความสะดวกสบาย ในไม่ช้า เอดิสันได้จากไปด้วยความสงบในวัย 84 ปี
วาทกรรมคำคมจากหนังสือ
“ข้าพเจ้าไม่ได้ล้มเหลว
ข้าพเจ้าแค่ค้นพบ 10,000 วิธีที่มันไม่ได้ผล”
แสดงให้เห็นถึงความมองโลกในแง่ดีของผู้พูด ถ้าหากใครเจอแบบนี้ก็คงต้องยกเลิกและล้มเหลว แต่คนที่มีความมุ่งมั่นอย่างเอดิสัน กลับไม่คิดแบบนั้น เขากลับมั่นใจว่า ต้องสำเร็จแต่ต้องบวกกับอดทนและขยันหมั่นเพียรเข้าไปด้วย
“ผมไม่เคยทำงานแม้สักวันในชีวิต
ทั้งหมดคือความสนุก”
การรักในการงานและการทำงานเพื่อส่วนรวมของเอดิสันมีอยู่มาก เลยทำให้เอดิสันคิดเสมอว่า เขารักที่จะทำเพื่อส่วนรวม ดังนั้น เขาก็สนุกกับการทำงานทุกวัน
“อัจฉริยะคือแรงบันดาลใจ 1%
แต่คือหยาดเหงื่อ 99%"
ทุกคนเป็นอัจฉริยะได้ ถ้าทุกคนมีแรงใจอุตสาหะหมั่นเพียรในการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จด้วยความตั้งใจอย่างเยี่ยมยอด
และยังมีอีกหลายคำพูดจากเอดิสันที่สร้างกำลังใจ
“To invent, you need a good imagination and a pile of junk.”
ในการประดิษฐ์คิดค้น คุณจะต้องมีจินตนาการที่ดีกับกองขยะสักกองหนึ่ง
“Good fortune is what happens when opportunity meets with planning.”
โชคดีเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อโอกาสมาพบกับการวางแผน
“The three great essentials to achieve anything worth while are, first, hard work; second, stick-to-itiveness; third, common sense.”
สามสิ่งที่สำคัญยิ่งในการทำสิ่งที่มีค่า ได้แก่ หนึ่ง ความขยันขันแข็ง สอง การยึดมั่นในความคิดริเริ่ม และสาม สามัญสำนึก
“I never failed once. It just happened to be a 2000-step process.”
ผมไม่เคยล้มเหลวสักครั้ง มันก็แค่หนึ่งในกระบวนการ 2,000 ขั้นตอน
“Nearly every man who develops an idea works it up to the point where it looks impossible, and then he gets discouraged. That's not the place to become discouraged.”
เกือบทุกคนพัฒนาไอเดียไปสู่จุดที่น่าจะเป็นไปได้ แต่แล้วพวกเขาก็หมดกำลังใจ ทั้ง ๆ ที่จุดนั้น ไม่ใช่ที่ซึ่งจะกลายเป็นความสิ้นหวังแท้ ๆ
ความรู้สึกส่วนตัว
เรื่องนี้เป็นเล่มการ์ตูนขนาดพอเหมาะที่มีเนื้อหาครบถ้วน เนื้อหานี้ให้เรารู้จักนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกอย่างเอดิสัน และทำให้เราเรียนรู้ ฝึกฝนความมุ่งมั่น อุตสาหะ และมีสามัญสำนึกต่อสิ่งที่เราทำทุกอย่าง เพราะสิ่งที่จะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับการทำของเราในทุกขณะ
ค้นหาชีวิตของตัวเองในเล่มนี้
“คนยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องประกาศ
โลกไม่ขาดคนดีศรีประดิษฐ์
ของๆเขาผลิตมาเป็นกรรมสิทธิ์
ของทุกผลิตเพื่อทุกคนตลอดไป"
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in