“คุณค่าของหนังสือ คือ การอ่าน การเรียนรู้

และการเปิดโลกกว้างในความเป็นตัวเอง” 

         ตอนเราเปิดหนังสือเล่มนี้อ่านครั้งแรก เรารู้สึกว่า ทำไม เราถึงมารู้จักกันช้าเกินไป แต่ เราเสียดายอยู่อย่างเดียว ว่า ทางร้านหนังสือที่เราซื้อมา น่าจะเอาใจใส่กับหนังสือ เพราะ ดันเอาเล่มที่ขาดมาให้เรา ซึ่งเสียดายมาก เพราะเป็นหนังสือที่ดี ก็อยากจะให้มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 

          เมื่อตอนเราอ่านเล่มนี้จบ ทำให้เราเปลี่ยนความคิดว่า บางทีหนังสือมีรอยขาดที่ทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ แต่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ทิ้งคุณค่าในเนื้อหาหนังสือเลย

           หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของร้านหนังสือที่ทรงคุณค่าในใจของนักอ่านอย่างเรา 15 แห่ง ถึงแม้ว่า เราไม่เคยได้ไป แต่เหมือนกับเราได้เข้าไปเที่ยวในสถานที่เหล่านั้นจริงๆ

Lutyens & Rubinstein

  เราประทับใจในเรื่องราวของเจ้าของร้านมาก ที่เปิดร้านหนังสือ เพื่อให้ทุกคนได้ค้นหาว่า ตัวเองชอบหนังสืออะไร โดยที่สามารถค้นหาหนังสือจากการพูดคุย แลกเปลี่ยน และเรียนรู้ว่า แต่ละคนชอบอ่านแบบไหน

Books for Cooks

  เป็นร้านหนังสือที่ขายพวกหนังสือทำอาหารและในร้านมี Test Kitchen ซึ่งนำตำราอาหารมาทดลองสูตรให้ลูกค้ากิน นักเขียนไปลองทาน คือ หิวมาก เลยทานอาหารกับขนมหวานจนหมด และราคาถูกมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา ขอบอกว่า ร้านนี้ทำให้เรามั่นใจจริงๆว่า หนังสือเกี่ยวกับสูตรอาหารของเขาทำได้จริงๆ โดยอาศัยหนังสือในร้าน 

Hurlingham Books

  เป็นร้านหนังสือที่เป็นขุมสมบัติหนังสือเก่า โดยที่คนเขียนใช้เงินทุกบาทไปค้นหาหนังสือเก่าเข้ามาในคลัง เขาบอกว่า เขาไม่เคยสนใจเลยเรื่องรวยล้นฟ้า เขาสนใจเรื่องคนเข้ามาค้นเจอกนังสือเก่าของเขา และนักเขียนถามว่า ถ้าเขาเป็นเศรษฐีจะเอาเงินไปทำอะไร เขาเอาไปซื้อหนังสือ

Daunt Books

  เป็นร้านหนังสือที่รวยมาก เพราะความคิดของเขา เขาบอกว่า เขาไม่เคยกลัวอะเมซอน ไม่เคยกลัวคนอ่านอีบุ๊ค เพราะคือ การอ่านเหมือนกัน แต่เขากลัวโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้คนไม่อ่านหนังสือ เราชอบความคิดเขามาก ไม่มีใครทำร้ายระบบหนังสือได้ นอกจากคนไม่อ่านหนังสือแล้วต่างหาก ที่ทำร้ายระบบหนังสือทุกอย่าง

The Atlantis Bookshop

  เป็นร้านที่เจ้าของเป็นแม่มด และมีหนังสือขายเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ มีไม้กายสิทธิ์ คนขายบอกว่า เขาเป็นแม่มด ทุกคนสามารถเป็นแม่มดได้ โดยมีความตั้งใจ ซึ่งอ่านแล้ว ทึ่งมาก สนุกมาก ว่า เราอยากลองไปสักครั้งหนึ่ง

Wellcome Shop

  เป็นร้านหนังสือที่อยู่กับพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยในพิพิธภัณฑ์มีฉายเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์อย่างไม่เบื่อ และมีหนังสือที่เกี่ยวกับแพทย์และจิตวิทยา โดยคนขายจะชวนคุยและหาสิ่งที่เราชอบจนเจอ และนักเขียนได้หนังสืออย่างดีกลับบ้าน

IWM Bookshop

  ร้านหนังสือเกี่ยวกับสงคราม แต่หนังสือเหล่านั้นสอนมุมมองเราว่า แต่ละคนในสมัยนั้น มีมุมมองความคิดอย่างไร ในช่วงนั้น การได้อ่านหนังสือเหล่านี้ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า สิ่งสำคัญของการยุติสงครามคือต้องยุติสงครามในใจเราก่อน เจ้าของร้านพูดดีมาก ถ้าเมื่อไหร่ที่เรายุติสงครามในใจได้ เราทุกคนพบสันติภาพอย่างแท้จริง

Gay's the word

  เป็นร้านหนังสือที่รวมกลุ่มของรักเพศเดียวกันที่เหลือร้านเดียวในอังกฤษ ซึ่งคือเป็นร้านที่ยอมรับทุกความแตกต่าง เมื่อไหร่ที่เราเจ็บปวดจากโลกภายนอกที่ไม่ยอมรับตัวตนเรา แต่ที่นี้ จะเป็นที่เดียวที่ยอมรับตัวตนของเขาผ่านเจ้าของ เพื่อนและหนังสือเหล่านั้น

Travelling Through

  เป็นร้านที่จัดให้เหมือนเราหลุดมาในโลกของท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยหนังสือไกด์บุ๊คส์ของแต่ละประเทศ มีนาฬิกาบอกแต่ละประเทศ เมื่อไรที่เราเดินเข้ามาในร้านนี้ เวลาจะไม่มีหยุดเดิน และไม่เพียงเท่านั้น ยังเหมือนกับเราท่องเที่ยวทุกที่ผ่านหนังสือได้ด้วย

Gosh Comic

  โลกแห่งการ์ตูนไม่มีทางหายไป เพราะเมื่อไหร่ที่การ์ตูนเป็นสื่อทั้งภาพและงานเขียนให้คนเข้าใจในวัฒนธรรมนั้นอย่างแท้จริง นี่เป็นร้านหนังสือที่มีการ์ตูนมากที่สุดในลอนดอน จะรวบรวมการ์ตูนจากทุกประเทศทั้งของใหม่และของเก่า ทำให้เราเดินเข้าไปอย่างกับอีกโลกหนึ่ง เมื่อก่อนตอนเดินออกมา ก็เจอเด็กบอกพ่อว่า อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน

Marchpane

  หนังสือคลาสสิกหายากสุดๆทั้งหลาย เราสามารถค้นพบได้ในที่นี้ คนเราทุกคนเคยอ่านหนังสือคลาสสิกด้วยกันสักครั้งหนึ่งในชีวิต เรามั่นใจว่า หลายคน ต้องคิดว่า อะไร มันจะสนุก น่าตื่นเต้น และบรรเจิดไอเดียได้ขนาดนี้ ซึ่งร้านนี้ตอบโจทย์การค้นหาวัยเด็กเมื่อวันวานของเราอีกครั้ง

Housmans Bookshop

  เป็นร้านหนังสือที่เกี่ยวกับการเมือง โดยที่เน้นความเข้าใจเกี่ยวกับผู้คนและการเมืองอย่างมากมาย โดยเฉพาะ การเมืองย่อมเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน และทุกการเมืองย่อมมีเรื่องเคล้าเศร้าน้ำตา เพราะคนหลากหลายร้องเรียกแต่อิสรภาพ และพูดเสมอว่า ธรรมชาติยังแข่งขันกัน แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อมองลึกๆและรอบด้านจะพบว่า ธรรมชาติสอนให้รู้ว่า จริงๆแล้ว ถ้าทุกคนช่วยเหลือกันก็จะอยู่รอด เหมือนการเมือง หากรับฟังและช่วยเหลือกันอย่างแท้จริง จะพาทุกคนรอดไม่ว่า อยู่ในสถานการณ์ไหน

Word on the water

  เป็นร้านหนังสือน่าสนใจมากและอยากลองไปสักครั้งหนึ่ง เพราะขายหนังสือในเรือ ดูดีมาก แค่คิดก็โรแมนติกแล้ว อากาศเย็นๆของลอนดอน พร้อมฝนโปรยปราย และนั่งเลือกหนังสือหรืออ่านหนังสือบนเรือก็ตื่นเต้นแล้ว แต่เราก็แอบอดกังวลใจไม่ได้ว่า ถ้าหนังสือเปียกจะเป็นอย่างไรดีนะ แต่ถึงเปียกก็อาจจะไม่เท่าคุณค่าของจิตใจแน่นอน

Bookartbookshop

  เป็นร้านหนังสือผสมผสานศิลปะ โดยคอนเซปต์เกี่ยวกับการตกหลุมรัก หมายความว่า เราจะตกหลุมรักตัวเราเอง คุณค่าตัวเองและคุณค่าคนอื่นเมื่อได้เรียนรู้ในโลกกว้างนี้ และไม่เพียงเท่านั้น การที่เราเรียนรู้คุณค่าของหนังสือก็ย่อมเปิดโลกทัศน์กว้างเช่นกัน

Libreria Bookshop

  เป็นการจัดร้านแบบแปลกแหวกแนวที่สุดตั้งแต่ที่เคยเห็นมา คือ ไม่เรียงตามตัวอักษรหรือตามหมวดหมู่ แต่เรียงแบบสะเปะสะปะ เพื่อให้คนหาหนังสือมาอ่านสักเล่ม ต้องเปิดโลกกว้าง ว่า เราอาจจะอยากอ่านอย่างอื่นด้วย เราชอบอ่านแบบนี้ไหม และมีมุมให้อ่านโดยสามารถมองผ่านกระจกเห็นโลกกว้างอีกด้วย ซึ่ง สุดชิคและน่าสน

ความรู้สึกส่วนตัวหลังอ่าน

    เป็นหนังสืออีกเล่มที่พาไปท่องเที่ยวแบบสนุกมากๆ เพราะเราไม่คิดว่า จะมีหนังสือท่องเที่ยวที่เสนอมุมมองแปลกใหม่ให้อ่านและยังมีเรื่องราวทำให้น่าสนใจ พร้อมกับเราก็คิดว่า เราเดินทางไปกับเรา ไปอ่านหนังสือที่แนะนำได้อย่างสนุกสนาน น่าติดตาม อ่านจนจบอย่างเร็ว ไม่ง่วง ไม่เบื่อได้มากมายถึงขนาดนี้ คงไม่มีอะไรบรรยายได้ว่า หนังสือเล่มนี้ คืนความเป็นเด็กและสร้างความปิติในใจอย่างแท้จริง

จบหนังสือท่องเที่ยวค่ะ แต่ยังไม่จบการเดินทางครั้งใหม่

“ฉันแหงนหน้ามองดูดาว

เห็นคร่าวๆนั้นพระจันทร์

ท้องฟ้าช่างงามขัน

เหมือนใจฉันเต็มด้วยสุข

ชีวิตผ่านไปแล้ว

คงไม่แคล้วแก้ไม่ได้

ชีวิตอยู่ต่อไป

ทำไว้ให้ดีเถิด”

                    Look a Breathe