สวัสดีค่ะ เรามีคำถามมีข้อสงสัยมาถามเพื่อนๆค่ะ
"วันนี้คือวันเดียวกับเมื่อวานนี้ไหม"
"วันนี้คือวันเดียวกับวันพรุ่งนี้ไหม"
"วันพรุ่งนี้คือวันเดียวกับเมื่อวานนี้ไหม"
"เมื่อวานนี้คือวันเดียวกับวันพรุ่งนี้ไหม"
"วันไหนคือวันของวันเดียวกัน"
สำหรับเราคิดว่า วันเดียวกันคือวันปัจจุบัน แบบเดียวกับวันนี้ ที่เราก็ยังมีคำถามมาถามเพื่อนทุกคนอีกว่า
"ความจริงของชีวิตคืออะไร"
เราเฝ้าถาม เฝ้าค้นหาว่า
"จริงๆแล้ว เราต้องการอะไรในชีวิต (เช่นเดียวกับคำถามข้างต้น)"
เราได้ยินคำตอบจากในใจว่า
"เราต้องการความสุขและความสงบในชีวิต"
เรามีคำถามในใจต่อว่า
"เราเคยทำตัวให้พบความสุขกับความสงบไหม"
เรามีคำตอบในใจว่า
"ไม่เคย"
เพราะอะไรเพื่อนๆรู้ไหม
"เพราะเราชอบแคร์ความรู้สึกคนอื่น เราชอบกังวลว่า คนอื่นจะเปลี่ยนไป คนอื่นจะหายไป เมื่อเราทำอะไรให้คนเหล่านั้นไม่พอใจ เราเลยทุกข์กับความคิดตัวเอง"
แล้วเราควรต้องแก้ไขอย่างไรดี เรากลับมาถามตัวเองว่า
"ความจริงของชีวิตคืออะไร"
เราลองถามตัวเองหลายรอบ จนได้คำตอบที่แน่ชัดว่า
"ความจริงของชีวิตคือความจริงของธรรมชาติ ความจริงที่เราต้องรู้จักเลิก รู้จักลดและรู้จักเพิ่มในคราวเดียวกัน"
เพื่อนๆคิดว่า เราควรเลิก ลด หรือเพิ่มอะไร เราตอบได้เลยว่า
"เราควรเลิกคิดมาก ควรเลิกเอาความคิดคนอื่นมาใส่ในความคิดเรามากเกินไป ลดการมองดู รับฟังและคิดตามว่าเขาพูดหมายถึงเรา และเพิ่มในการสร้างคุณค่าในชีวิตเราให้มากขึ้น โดยการหันมาเอาใจใส่ความคิดตัวเองให้มากขึ้น"
เมื่อเราได้ทำและได้เริ่มปฏิบัติหลายอย่างทั้งที่เราอ่านหนังสือมาและทั้งที่เราปฏิบัติตามหลวงพ่อสอน เราเริ่มพบว่า
"เมื่อใดที่ใจเรากระทบ เราระลึกรู้ เราจะเห็นว่า ทุกความคิดมันเพียงกระทบและหายไป เหลือผู้รู้ ผู้ดูอยู่ เมื่อดูไป มันก็หายไป หมดไป ไม่มีตัวตน แต่ใช่ว่า เราจะทำได้ตลอด รู้ตลอด หลายต่อหลายครั้งก็ทำไม่สำเร็จ เรารู้ว่า เมื่อทำได้ใจมันจะถูกปล่อยจากการพันธนาการทั้งปวง"
เราขอบคุณพระพุทธเจ้า หลวงปู่สังวาลย์ หลวงพ่อสำรวม หลวงพ่อมนู หลวงพ่อสนอง หลวงพ่อชา หลวงพ่อเลี่ยม หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่วัดป่าสายหลวงปู่มั่นทุกองค์ คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว คุณครู เพื่อน และทุกคนที่คอยให้คำชี้แนะ สั่งสอน ตักเตือน ให้เราเดินในทางที่ถูกที่ควร และตอบคำถามความจริงในชีวิตของเราได้
เพื่อนๆทุกคนล่ะค่ะ คิดว่า
"ความจริงของชีวิตคืออะไร"
"สำหรับเราความจริงในข้อนี้
คือชีวิตดีที่แสนสุขสันต์
ทำให้ฉันสดชื่นทุกคืนวัน
ลืมฉันท์ทุกข์เติมสุขเสมอใจ
ใจดวงนี้เปรียบเหมือนงูเห่า
ใจกระเส่าเมื่อเราจับหัวหางงูนั้น
หากจับมั่นไม่ปล่อยก็ทุกข์พลัน
เมื่อจับนั้นต้องเรียนรู้ความเป็นไป
ความเป็นไปของชีวิตอยู่ตรงนี้
ไม่ต้องมีเงินทองกองพะเนินหา
เพียงใช้ตาเท่านั้นที่มองมา
เห็นกับตากายใจอยู่ที่เรา
ปิดตาเนื้อเปิดตาในก็จะพบ
สุดประสบท่องพุทโธทันจิตหนา
ใจจะมาทันกายระลึกดูได้ฉันใด
หมดทุกข์ใจทุกข์กายในฉันนั้น
สุดท้ายแล้วนั้นก็แค่เวทนา
ที่นำพาความทุกข์มาในบางครั้ง
เมื่อเรานั่งก็จะเห็นความสุขพลัน
เพราะสุขนั้นอยู่ที่ใจเรารู้ทัน
ใจรู้ใจกายรู้กายก็หมดทุกข์
ใจนั่งสุขมองมันก็มลายหาย
สุขกายใจสุขนั้นมลายไป
กลายเป็นใจว่างจากสุขทุกข์เอย"
-- Look a Breathe --
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in