สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องมาชวนปัดฝุ่นค่ะ

   พอเราเริ่มเขียนบทความเรื่อง 

   "ในโลกใบนี้มีแต่หนังสือ"

   ทำให้เรานึกถึงคำพูดเพื่อนได้ว่า 

   "หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ เราจินตนาการไม่ออกเลย"

   เรารู้สึกคุ้นๆว่า บ้านเรามีหนังสือชื่อคล้ายๆนี้ เราไปดูตู้หนังสือของเราจนพบหนังสือเล่มนี้

"หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ"

   หนังสือเล่มนี้เป็นของนักเขียน จิมมี่ เลี่ยว ซึ่งเราขอ กระซิบว่า ภาพของนักเขียนท่านนี้ขึ้นชื่อว่า สวย ดูละเอียด อ่านง่ายเข้าใจง่าย และทึ่งในความสามารถของเขาที่สามารถอธิบายได้อย่างละเอียดผ่านรูปภาพและคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่จี้ถึงใจค่ะ 

   เรื่องนี้เริ่มต้น 

   "เมื่อร้านหนังสือของพ่อเด็กจะปิดตัวลง เพราะคนอ่านหนังสือน้อยลง แต่คนเล่นเกมมากขึ้น"

   ทำให้มีการเปิดประชุมกันว่า 

   "แต่ละคนมีความเห็นเกี่ยวกับหนังสืออย่างไร"

   และเมื่อทุกคนได้แบ่งปันเรื่องราวกันแล้ว

   "ทุกคนลงความเห็นกันว่า หนังสือยังมีประโยชน์อยู่มาก"

   ร้านหนังสือไม่ต้องปิด

   "เรื่องราวดูสั้นๆค่ะ แต่คำพูดในหนังสือพร้อมภาพถ่ายมันดูยิ่งใหญ่ค่ะ มันทำให้เรารู้สึกถึงการรักการอ่านมากขึ้น

  เราชอบคำพูดนึงนะ ที่เด็กบอกว่า 

   "ผู้ใหญ่ชอบบังคับให้อ่านหนังสือเรียน ทำให้เด็กรู้สึกไม่สนุกและไม่อยากอ่านหนังสือ เลยทำให้ไม่รักการอ่าน"

   เราเข้าใจนะ ตอนสมัยเด็กๆ พ่อแม่จะเป็นคนให้เราอ่านอะไรก็ได้ โดยเฉพาะพี่สาวที่ซื้อหนังสือให้อ่านตลอด แม่ไม่เคยว่า พ่อไม่เคยบ่น พี่สาวก็สนับสนุน พ่อแม่มีแต่ถามสักนิดว่า ได้ประโยชน์อะไรจากการอ่านพวกนี้ พออธิบายให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ก็เข้าใจ ไม่เคยหาว่า ที่ทำหรืออ่านอยู่เป็นเรื่องไร้สาระ ทำให้มีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่นั้นที่รู้จากเพื่อนและรู้จักตนเองมากขึ้น

  เมื่อไหร่ที่ผู้ใหญ่อ่านหนังสือเล่มนี้จบ อาจต้องเปลี่ยนไอเดียใหม่เกี่ยวกับเด็กและหนังสือ

ยกตัวอย่างคำพูดในหนังสือ

   "เพียงวูบเดียวในหนังสือ

คุณก็อาจได้ยินเสียงของใครอีกคน

อาจเป็นใครสักคนที่ตายไปเมื่อพันปีที่แล้วก็ได้

การอ่านคือการเดินทางข้ามเวลา"

   "เราไม่ควรสอนเรื่องหนังสือดีๆ

แต่ควรสอนให้คนรักที่จะอ่าน

ความรู้ในวรรณกรรมไม่กี่เล่ม

เป็นความสำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความรู้สึกที่อยากจะอ่านไปเรื่อยๆต่างหาก

คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่"

   "เพื่อนที่ดีก็เหมือนหนังสือที่ดี

และหนังสือที่ดีก็เป็นเพื่อนที่ดีเช่นกัน

ทว่าเมื่อเราเติบโต

เพื่อนต้องแยกย้ายจากกันไป

แต่หนังสือเราจะติดตามไปชั่วชีวิต"

ความชอบหนังสือเกิดจากเราเริ่มต้นอ่านหนังสือเล่มที่ชอบก่อนและค่อยๆเพิ่มพูนการอ่านอีกมากมาย

"รักหนังสือเท่ากับเคารพตัวเองนั้น

ทำให้ฉันรักตัวเองนั้นมากขึ้น

ใจก็ชื่นเบิกบานกายสบาย

หลากหลายคิดในทางที่ดี

เมื่อมีทุกข์ย่อมเจอกับความสุข

เมื่อล้มลุกย่อมเจอกับหนทาง

เมื่อเดินตามทางไปทุกๆทาง

ย่อมเห็นลางนั้นคือหนังสือเอย

บางทีเราอาจเดินหลงทาง

เดินตามรางรถไฟนั้น

เห็นฉันกับหนังสือคอยอยู่

ทำให้รู้มีเพื่อนเคียงข้างกัน"

                                          -- Look a Breathe --