เทคนิคจำแบบไม่ต้องจำที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ
author: kabasawa shion
เป็นหนังสือที่เห็นปุ๊บคนความจำปลาทองอย่างเราต้องรีบคว้าทันที (ปลาทองจริงไม่ได้โม้ เคยเทสท์ในแล็บจิตวิทยาแล้วได้ค่ารั้งท้ายคลาส (T__T))
เนื้อหาก็ตามชื่อหนังสือ เน้นเทคนิคการจำบนพื้นฐานความเข้าใจการทำงานของสมอง คือความจำของมนุษย์มี 2 แบบ ได้แก่ความจำระยะสั้นกับความจำระยะยาว การจะจำให้แม่นก็ต้องทำให้สมองคิดว่าเรื่องที่เราจะจำนั้นเป็นความจำระยะยาว
ปัญหาคือทำยังไงให้สมองคิดแบบนั้น? ผู้เขียนจะแนะนำวิธีที่เวิร์คและวิธีที่ไม่เวิร์คพร้อมอธิบายว่าทำไมมันถึงเวิร์คหรือไม่เวิร์ค
สรุปประเด็นจากหนังสือเล่มนี้ตามความเข้าใจของเราเอง
- ทำความเข้าใจและจัดระเบียบข้อมูลให้ดีก่อนที่จะจำ ถ้าเป็นการจดก็ต้องมีโครงสร้างการจดที่ดี เป็นระเบียบ เน้นการมองภาพรวม
- อย่าจำด้วยความหมาย (หมายถึงการจำข้อเท็จจริงที่เราไม่ได้รีเลทกับข้อมูลนั้น เช่น จำข้อมูลทางภูมิศาสตร์ว่าโตเกียวเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น) พยายามสร้างประสบการณ์ร่วมกับสิ่งที่ต้องจำ เช่น แต่งเป็นเรื่อง จำด้วยเหตุผล สร้างบรรยากาศที่ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกอะไรบางอย่างกับเรื่องที่จำ การจำเมื่อมีความเครียดในระดับที่เหมาะสมก็ทำให้จำได้ดี
- สมองไม่สามารถรับข้อมูลเยอะๆ ได้ในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นอย่าคิดอะไรหลายอย่างพร้อมกัน อย่าตะบี้ตะบันอัดข้อมูลปริมาณมากเข้าไปในสมอง โดยเฉพาะการอ่านหนังสือแบบโต้รุ่ง เพราะสมองจะจัดระเบียบข้อมูลไม่ทันแถมทำให้เซลล์สมองตาย ให้แบ่งส่วนจำวันละนิดจะได้ผลดีกว่า อะไรที่ยังไม่สำคัญตอนนี้ให้จดไว้แล้วลืมมันไปก่อน
- ส่งออกข้อมูลที่ได้รับมาให้สมดุลกับข้อมูลที่รับเข้าไป จะด้วยการพูดหรือเขียนก็ได้ จะทำให้จำสิ่งต่างๆ แม่นขึ้นเพราะเป็นการทบทวนข้อมูล และยังเป็นการสร้างดรรชนีความจำที่ทำให้เรา recall ข้อมูลนั้นๆ ออกมาได้ง่ายขึ้นด้วย ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เขียนย้ำบ่อยมาก (มีหนังสืออีกเล่มของผู้เขียนคนเดียวกันเกี่ยวกับ output โดยเฉพาะ)
- การใช้ชีวิตที่เหมาะสมก็ช่วยไม่ให้สมองเสื่อม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบถ้วน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
จริงๆ ทฤษฎีที่นำเสนอในหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่จุดที่น่าสนใจคือวิธีปฏิบัติแบบจับต้องได้ ในเล่มจะมีรายละเอียดและเทคนิคภาคปฏิบัติแบบเป็นรูปธรรม อ่านแล้วเอาไปทำตามได้เลย เช่นที่ว่าจำด้วยประสบการณ์ต้องทำยังไง การสร้างความเครียดในระดับที่เหมาะสมหมายถึงสถานการณ์ไหนบ้าง การส่งออกข้อมูลที่แนะนำ การจัดการกับสมองเมื่อมีสิ่งที่ต้องทำเยอะเกินไป ฯลฯ
ถึงจะเป็นหนังสือฮาวทู แต่สำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองอยู่แล้ว อ่านแบบไม่คิดว่าเป็นหนังสือฮาวทูก็สนุกเหมือนกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in