เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
POPROCK ON FILMPOPROCK
キツツキと雨 The Woodsman and The Rain | ช่างไม้, สายฝน
  • repost
    07.08.2013






    เช้านั้นกรมอุตุฯบอกว่า ฟ้าจะสว่างสดใส

    แต่กลายเป็นว่าตกบ่ายฝนดันตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว

    คัทซึฮิโกะเลยต้องหยุดมือ

    แล้วเข้าไปนั่งกินเบนโตะที่ทำมาเองกับเพื่อนร่วมงานแทน

     

    ฝนตกน่ะ เราออกไปตัดไม้ไม่ได้หรอกนะ

     

    รถกองถ่ายหนังคันหนึ่งดันมาเสียในหมู่บ้าน

    คัทซึรับพวกเขา 2 คนขึ้นรถและอาสาจะไปส่งยังจุดหมาย

    ตาแว่น 1คน เด็กหนุ่ม 1 คน ช่างไม้ 1 คนนั่งแออัดกันที่เบาะหน้า

     

    แต่กลายเป็นว่าคัทซึต้องพาพวกเขาไปดูโลเคชั่นถ่ายทำแทน

    คัทซึแนะนำไปหลายที่แต่คนพวกนั้นดันบอกไปไม่เป็น

    เขาเลยต้องพาไปตามประสา คนบ้านนอกใจดี

     

    ตาคนใส่แว่นบอกว่า"ขอรบกวนเป็นครั้งสุดท้าย"

    ให้นำทางทีมงานไปยังโลเคชั่นที่เลือกไว้

    คัทซึไม่มีธุระรีบด่วนอะไรเลยยอมพาพวกเขาไป

     

    หมอนั่นโกหก

    เรื่องที่บอกว่า ..รบกวนเป็นครั้งสุดท้าย

    เพราะ รู้ตัวอีกทีเขาก็กลายเป็นตัวประกอบใน "หนังซอมบี้" ของพวกเขาไปเสียแล้ว

     

    อ่า .. เขาได้เล่นหนัง ..ครั้งแรกในชีวิต และ .. แสดงเป็นซอมบี้

     

     

    วันต่อมา

    ตาหนวดมาชวนเขาไปดูการฉายหนังส่วนที่ถ่ายไปแล้ว

    ทีมงานจะเปิดฉายดูในโรงแรม

    คัทซึ ไม่ได้สนใจนัก

    แต่รู้ตัวอีกทีเขาก็นั่งอยู่ท่ามกลางเหล่าทีมงานที่เตรียมเปิดฉายหนังเรียบร้อยแล้ว

     

    คัทซึกลับไปแช่ออนเซนในหมู่บ้านพร้อมรอยยิ้ม

    เขาได้เห็นตัวเองบนจอทีวีครั้งแรกแถมยังเป็นส่วนหนึ่งในหนังเสียด้วย

    แล้ว ..

    ไอ้หนุ่มคนนั้น คนที่มาพร้อมตาหนวดก็เดินเข้ามา

    คัทซึแปลกใจที่เขาไม่ได้พักที่โรงแรมของทีมงานเพราะออนเซนที่นี่ไกลจากโรงแรมมาก

    พวกเขาสนทนากันเล็กน้่อย

    คัทซึอาสาไปส่งเด็กหนุ่้มที่สถานีเขาบอกว่าจะกลับโตเกียว

    ระหว่างทางคัทซึถามถึงหนังที่เขาได้เล่นเป็นซอมบี้

     

    "มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร"

    "ก็...ซอมบี้ไงครับ"

    "ฉันหมายถึง เรื่องราวมันเป็นยังไง เนื้อเรื่องน่ะ"

    "คุณสนใจจริงๆเหรอครับ"

    "ฉันสนสิ นายเล่าเถอะน่า"

    "ก็... เรื่องมันเกิดขึ้นในอนาคต ....... "

     

    เด็กหนุ่มเล่าเรื่องพร้อมกับถามคัทซึว่า "แน่ใจนะว่าอยากฟัง" อยู่เรื่อยๆ คัทซึก็ตอบเขาว่า

    มันน่าสนใจมาก เป็นพลอตเรื่องที่น่าสนใจ

    พอถึงสถานีรถไฟเด็กหนุ่มยื่นบทหนังให้เขา แล้วจากไป

    คัทซึรับมันมา

    เขาอ่านมันในรถ จนกระทั่งถึงตอนจบ ..คัทซึหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตาตัวเอง

     

     

    ขณะเดียวกับที่เด็กหนุ่มกำลังคู้ตัวอยู่ที่ชานชาลาสถานี

    "ผมขอโทษ ผมเสียใจ" เขาพึมพำซ้ำๆอยู่เช่นนั้น

    พร้อมกับ ตาหนวดที่คอยยืนบ่นเขาอยู่

    ชายอีกคนที่มาด้วยกันพยายามห้ามปรามตาหนวดไม่ให้บ่นเด็กหนุ่มไปมากกว่านี้

    "ให้เวลาผู้กำกับเขาหน่อยเถอะ"

     

    ..

    .

    .

     

     

    เด็กหนุ่มท่าทางหวาดกลัว และ ไม่มั่นใจคนนั้น คือ "ผู้กำกับ" นั่นเอง ...





     



    ||||||||||||||||||||||||

    ||||||||||||||||||||||||

    ||||||||||||||||||||||||

    ||||||||||||||||||||||||

    ||||||||||||||||||||||||

     

     

     

    บางคนก็บอกว่านี่เป็นหนังญี่ปุ่นที่ดีที่สุดของปี 2011

    มันออกจะญี่ปุ่นไปสัีกหน่อย ..อันที่จริงมันก็ญี่ปุ่นมากๆเลยล่ะ

    บรรยากาศหนังสุดเงียบเชียบบทสนทนาชวนมึนงง ตัวละครและพลอตเรื่องไม่มีที่มาที่ไป

    กว่าจะได้รู้ความกันก็ปาเข้าไปกลางเรื่องแล้ว ว่า พวกเขามาทำอะไร มาทำไม ใครเป็นใึคร

    แต่นี่ก็เป็นหนังญี่ปุ่นที่น่ารักมากๆเรื่องหนึ่ง

     

    เป็นความสัมพันธ์แบบผู้ชายๆเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีแบบผู้ชายๆ เป็นเรื่องของชีวิตแบบผู้ชายๆ

     

    คัทซึเป็นช่างไม้ที่เป็นพ่อหม้ายเลี้ยงลูกชายวัยรุ่นเพียงคนเดียว เขาทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่ให้กับลูกชาย

    เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่นๆนักจนกระทั่งกองถ่ายหนังเข้ามาในหมู่บ้าน

    และการที่เขาได้รู้จักกับ โคอิจิผู้กำกับหนุ่มที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ในบางแง่มุมของชีวิตเด็กหนุ่มอายุ 25

    ได้สอนให้ผู้ใหญ่อายุ 60 แบบเขาได้พยายามมองโลกอีกครั้งจากที่ไม่ได้สนใจมันเลย

     

    โคอิจิ ไม่ชอบหนังของตัวเองเขาไม่มั่นใจ และ เกลียดมันเกลียดบทหนังที่ตัวเองเขียนเกลียดหนังที่ตัวเองกำกับเขาไม่มีความมั่นใจในการทำงานนี้เลยบางครั้งมันทำให้เขาอยากอ้วก

    จนกระทั่ง .. จนกระทั่งคัทซึบอกว่ามันน่าสนใจ คัทซึบอกว่าเขาร้องไห้ตอนอ่านบท

    โคอิจิกลับมาพยายามอีกครั้ง

     

    หลังจากฝนตกหนัก คือ ฟ้าอันสว่างสดใส

    นั่นคือเรื่องราวของทั้งคู่ ...

     



     

     

    มันไม่เชิงว่าเป็นหนัง Feel Good อะไรนักแม้จะค่อนข้างอืดอาดในการเล่าเรื่อง

    แต่พลอตเรื่องค่อนข้างมีไดนามิคมีจุดพลิกผัน เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว

    มีมุกขำๆแทรกอยู่ตลอดเวลามีความน่ารักตามวิถีชีวิตคนญี่ปุ่น

     

    สิ่งที่ชอบมากคือ บทของโคอิจิที่เป็นผู้กำกับ (ชุน โองุริ)

    ที่แม้จะรักงานของตัวเองแค่ไหนแต่เค้าไม่มีความมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองทำเลย

    เขาหวาดกลัวความผิดพลาดและความเป็นมือใหม่ของตัวเอง

     

    เราได้เห็นพัฒนาการการกำกับหนังที่ดีขึ้น

    พร้อมๆกับความมั่นใจที่มากขึ้นหลังจากโคอิจิได้พบ คัทซึ (โคจิ ยาคุโช)

    ประโยคเดียวของ โคอิจิทำให้ชีวิตของคัทซึเปลี่ยนไป

    ขณะที่ประโยคเดียวของ คัทซึก็ทำให้ชีวิตของ โคอิจิ เปลี่ยนไปเช่นกัน

     

    การผ่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันโดยบังเอิญ

    ได้เปลี่ยนแปลงพวกเขาไปตลอดกาล

    โดยที่พวกเขาแทบไม่รู้ตัว

     

     

    นั่นคือ

    เรื่องราวของ "มิตรภาพ"นั่นเอง


    ปล. มีเคนโกะ โคระมาเล่นนักแสดงสมทบด้วย บทโคตรน่ารัก ฮ่าๆ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in