ช่วงเวลาที่เปลี่ยนผัน ฤดูกาลย่อมเปลี่ยนตามจากฤดูหนึ่งไปสู่อีกฤดูหนึ่ง จากสิ่งหนึ่งแปรผันไปอีกสิ่งหนึ่งดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่หยุดนิ่งและคงที่ตลอดเวลาทุกสิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงแม้กระทั่งสิ่งที่ไม่มีชีวิตเองก็ตามเมื่อย่างก้าวช่วงเวลาของฝน สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบคือกลิ่นอายของฝน ช่วงแรก ๆ ของเม็ดฝนที่เทลงมาสู่พื้นดินซึ่งต่างแห้งเหือดมานานจากฤดูร้อน หยดน้ำฝนที่ตกลงมา ทำให้เกิดเป็นกลิ่นเฉพาะตัวฉันชอบนะ แต่ในขณะเดียวกันฉันไม่ชอบฝนเอาเสียเลย มันเปียก ส่วนตัวเป็นคนป่วยง่ายโดนฝนนิดหน่อยก็เป็นอันว่าไข้ถามหา ฉันชอบอะไรหลายๆอย่างในฤดูฝนแต่ก็ไม่ชอบอะไรบางอย่างในฤดูนี้เช่นกัน ดูเหมือนว่ามีความย้อนแย้งภายในตัวเองมีทั้งชอบและไม่ชอบ ในฤดูฝนฉันว่ามีอะไรที่น่าทำตั้งเยอะ เช่น การนอนเหมาะแก่การนอนพักผ่อน ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดด้วยนี้อยากนอนคลุมยาวๆแบบไม่ต้องตื่นมาทำกิจกรรมใดๆเลยพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากช่วงหลายๆวัน อ่านหนังสืออ่านนิยาย ท่องไปในโลกของตัวอักษรอย่างสนุกสนาน หรือแม้กระทั่งการได้เข้าครัวละทำอาหารร้อนๆทาน เพื่อเป็นการเพิ่มอุณหภูมิแก่ร่างกายตัวเองคลายหนาวบ้างในยามที่ต้องอยู่คนเดียว ปิ้งขนมปังทาเนยทาแยมจิ้มกับนมข้นหวานหรือน้ำตาลก็เป็นอีกเมนูที่น่าลงมือทำและคงไม่ใช่เมนูที่เบื่อด้วยสำหรับฉันเพราะนานๆครั้งทำที หรือจะเป็นอีกเมนูคือขนมปังชุบไข่ทอดก็คงอร่อยไม่ต่างหากอีกเมนูคือ บะหมี่ร้อนๆ ซดน้ำเข้มข้นรสนั้น ๆด้วยแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงอร่อยจนหนังตาคล้อยต่ำ พร้อมที่จะนอน อีกครั้งอ่านไปนี้คงจินตนาการไปด้วยเป็นอะไรที่แบบอยากกลับไปทำแล้วจริงๆ หากแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกกันอย่างนี้ ว่ากันว่าฤดูฝนคือฤดูที่(ฉัน)เหงามองอีกมุมคือความจริงนั่นแหละ ฉันเห็นด้วยนะเพราะถ้าฝนตกแล้วผู้คนต่างก็คร้านจะขยับตัว ไม่รู้เพราะว่าเสียงฝน หรือ น้ำฝนหรือบรรยากาศรอบๆตัวกันแน่ที่อำนวยเผลอๆ อาจจะทั้งหมดนั่นแหละที่มีอิทธิพลเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่มีใครอยากออกไปทำกิจจกรรมกลางแจ้งกันเท่าไหร่หรอกเว้นแต่จำเป็นหรือสำคัญจริงๆด้วยเท่านั้น เมื่อทุกคนต่างอยู่ ไม่มีใครมาพบปะนัดเจอต่างคนก็ต่างเหงา ต่างคนก็ต่างเบื่อ ต่างคนก็ต่างว่างคนมีคู่ก็ใช้เวลากับคู่ของตัวเอง ส่วนคนที่ยังโดดเดี่ยว ก็คงต้องปล่าวเปลี่ยวอ้างว้างข้างๆต่อไปทั้งข้างกายและภายในใจ เมื่อความเหงามาเยือนคงไม่พ้นกับความทรงจำที่ผ่านมาหรือแม้แต่ความคิดถึงที่กำลังทำงาน บางคนอาจกระทำด้วยการฟังเพลงเศร้าๆ พร้อมกับความทรงจำในอดีตที่มีทั้งความทุกข์และความสุขในเวลาเดียวกันบางคนเพียงแค่นั่งนึก ปล่อยให้สมองจินตนาการไปเรื่อย ๆสร้างความสุขในความเพ้อฝันคงเพียงพอแล้วสำหรับความสาหัสที่ผ่านมา บางคนอาจจะนั่งร้องไห้เพียงเพราะกลัวสิ่งที่มาพร้อมกับสายฝนนั่นคือลมแรงๆทั้งฟ้าผ่าและฟ้าร้องบางคนอาจจะกำลังมีความสุขทั้งยิ้มและหัวเราะร่า เห็นไหมว่า เวลาฤดูกาลเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนตามอย่างเห็นได้ชัดด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าผู้คนเหล่าจะอยู่ในโหมดอารมณ์ไหน จะอยู่ในเหตุการณ์ใดเพียงไม่นานก็จะผ่านพ้นไปอยู่ดี อย่างที่เขาบอกกันว่าความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นาน ความทุกข์เป็นอะไรที่ต้องใช้เวลา จริงๆแล้วไม่ว่าจะเศร้าหรือสุข ฉันว่าระยะเวลามันคงเท่ากันนั้นแหละ จะต่างกันก็ตรงที่ ใจใจที่รับรู้ว่าสุข ใจที่รับรู้ว่าทุกข์ ไม่มีมนุษย์คนไหนที่ชอบความทุกข์หรอกแต่นั่นแหละ หากประสบแล้วแค่ต้องการเวลาในการเยียวมากกว่าเลยก่อให้เกิดความรู้สึกที่ว่า ทำไมความทุกข์จึงมักยาวนานกว่าความสุขและแล้วฤดูฝนของฉันก็ยังอยากจบด้วยการนอนพักทั้งร่างกายและจิตใจแค่นั้นเองที่ต้องการ
ไม่ว่าฤดูฝนจะเป็นเช่นไรผู้คนต่างก็ใช้มันในความรู้สึกที่ต่างกันฉันมิอาจตัดสินและกำหนดให้ทุกอย่างเป็นไปดั่งที่ใจต้องการได้ในบางครั้งบางครายังคงต้องทำใจยอมรับเสียด้วยซ้ำ นั่นแหละคืออีกหนึ่งฤดูที่สอนให้ยอมรับในความไม่สมหวังบ้างฟ้ายังมีน้ำตา ที่ในบางครั้งอาจจะเรียกว่าคือความหวังในยามที่แห้งแล้งหรือในบางครั้งก็เป็นการลงโทษของธรรมชาติในวันที่ประสบภัยธรรมชาติ ฉะนั้นแล้วชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องยึดติดในความสมบูรณ์แบบมากเกินไปก็ได้เพราะหากว่าวันใดวันหนึ่งเกิดไม่เป็นดั่งหวังแล้ว คงเสียใจน่าดู
สิ่งที่ฤดูฝนสอน คือ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in