ถึงจอห์นที่รัก
ถึงจอห์น
สิบปีนี่นานมากไหมครับ ตอนที่ผมพูดว่า “เรามาเขียนจดหมายส่งหากันและกันในสิบปีข้างหน้าดีกว่า” ผมยังจำสีหน้าของคุณได้ดี สีหน้าที่ทำอย่างกับว่าผมโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปล้างสมองและกลับมาเป็นคนอีกคน คุณจะทำตาโต อ้าปากค้างจนเห็นฟันกระต่าย ในใจคงคิดว่าตัวเองน่ารักน่าดู นั่นมักทำให้ผมรู้สึกยินดีและผิดหวังไปพร้อมๆ กัน — ยินดีที่ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของใครสักคนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และผิดหวังที่คนคนนั้นไม่เชื่อว่าผมเป็นมากกว่าตัวผมที่เขารู้จักได้ เวลาผ่านไปขนาดนี้แล้ว ผมจะยังทำให้คุณประหลาดใจได้แบบนั้นหรือเปล่า ตอนนั้นคุณจะรู้จักผมดีกว่าตัวผมเองไหมนะ ถึงจะเคยบอกว่ารำคาญ แต่ตอนนี้ผมกลับนึกถึงสีหน้าตื่นตกใจยาวนานหกวินาทีของคุณขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
การเขียนเป็นยาขมของผมเสมอ ผมเคยขอพรให้ตัวเองเขียนเก่งกว่านี้สักหน่อย มีความคิดและความรู้สึกมากมายกำลังหาทางออกมาจากอก ไม่แน่ว่าคนเราอาจปวดใจไปเองเพราะแบบนี้ก็ได้ ผมนึกหาถ้อยคำลึกซึ้งกินใจหรืออุปมาอุปไมยแสนฉลาดไม่ได้ดั่งใจแบบคุณ มีอยู่หลายครั้งที่ไม่รู้ว่าจะตอบรับข้อความอะไรต่อมิอะไรที่คุณเขียนมาให้อย่างไรดี และหลายครั้งทีเดียวที่คุณตีความความเงียบงันของผมผิดไปเป็นอย่างอื่น จอห์นครับ เช่นเดียวกับเวลาคุณพรรณนาถึงท้องฟ้าสีสตรอว์เบอร์รี่หรือแม้แต่นมปั่นรสกล้วยเพื่อบอกว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันวิเศษแค่ไหน คำว่า “พอเถอะครับ” ของผมก็มีความหมายไปคนละเรื่องเหมือนกัน พอเถอะครับ อีกนิดเดียวหัวใจผมคงเต้นแรงจนไม่ปลอดภัย อีกนิดหูของผมของแดงจนใครๆ เขารู้ว่าผมเขินแค่ไหนแล้ว เพราะว่าเป็นเรื่องยากขนาดนั้น ผมถึงได้ใช้เวลาถึงสามเดือนกว่าจะเขียนได้ถึงตรงนี้ จนฤดูกาลเปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่คุณไม่อยู่ที่นี่ เมื่อเช้าพยากรณ์อากาศทำนายว่าอากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบหลายสิบปี ถ้าผมลองเขียนว่า “เรากล่าวอำลากัน จากนั้นโลกก็เผชิญความเหน็บหนาวมากที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมา” แบบนั้นฟังดูเข้าท่าและเป็นภาษาเดียวกับคุณหรือยัง ผมจะพยายามดูอีกสักครั้ง ถึงต้องใช้เวลาเป็นสิบปี ผมก็หวังว่าเราจะไม่เป็นไร
ฟังดูมองโลกในแง่ดีไหมครับ บอกตามตรง ทีแรกผมไม่สะทกสะท้านที่เราต้องจากกันสักเท่าไร ตกใจเสียด้วยที่เห็นคุณร้องไห้ออกมาแบบนั้น รู้สึกว่าแค่แตะไหล่คุณเบาๆ ผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นอาจกลายเป็นกองน้ำตาไปเลยก็ได้ ตอนนั้นอยากจะเขย่าตัวคุณแรงๆ เพื่อบอกว่าเชื่อใจกันหน่อย เราต้องได้พบกันอีกสิ บางทีวันนั้นอาจมาถึงเร็วจนเราลืมว่ามีจดหมายฉบับนี้นอนรออยู่ในลิ้นชักของคุณลุงที่ไปรษณีย์ก็ได้ แต่เกรงว่าถ้าบอกไป คุณจะสะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่า อย่าเข้าใจผมผิดไปนะครับ ผมรักอารมณ์ความรู้สึกของคุณยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะเวลาคุณหลั่งน้ำตาหรือฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กน้อยและลูกหมาตัวเล็กมาให้ ตอนนั้นเองที่ผมได้อ่านบทกวีที่ไพเราะที่สุดในโลก ก็แค่ว่าผมภูมิใจกับความมั่นใจของตัวเองนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ — ตอนนี้ใครจะไปรู้ว่าการจากลานั้นยากกว่าที่คิด ทำไมคนที่ไม่เคยเสียน้ำตาถึงอยากร้องไห้ทุกครั้งที่ลิ้มรสขมปร่าของอเมริกาโน ทำไมถึงไม่อยากมองออกไปนอกระเบียงอีกแล้วในวันที่ฝนตก ทำไมถึงรู้สึกว่างเปล่าเวลาหันไปทางซ้ายแล้วไม่เจอใคร ผมเคยคิดว่าเราโตเกินกว่าจะอ่อนไหวกับเรื่องพรรค์นั้นแล้ว แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง โลกนี้จะมีนิยายชวนใจสลายมากมายไปทำไม คุณเคยอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้คุณไม่อยู่แล้ว ความเคยชินนี่ร้ายกาจจริงๆ
แต่พอคิดว่าอีกเดี๋ยวก็คงชินกับการไม่มีคุณ ผมกลับกลัวขึ้นมาจับใจ คุณเข้ามาทำให้จังหวะชีวิตแสนธรรมดาและมีระเบียบของผมแปรปรวน เข้ามาเป็นครั้งแรก เข้ามาเป็นคนเดียว เหมือนที่คุณเคยบอกว่าการเขียนคือการทำให้ก้อนหินก้อนหนึ่งให้ความรู้สึกเหมือนก้อนหิน การมองโลกผ่านสายตาของคุณเปิดประตูบางบานที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่ เหมือนวันหนึ่งที่คุณยื่นสมุดบันทึกให้อ่าน บรรทัดแรกเขียนไว้ว่า “แด่จูเลียต” คุณบอกว่าเขียนมันให้ผม และนั่นก็ทำให้ผมกลายเป็นจูเลียตของคุณอยู่นานทีเดียว เป็นตัวละครลึกลับให้นักอ่านของคุณคาดเดาไปต่างๆ นานา เป็นเทพีแห่งแรงดลใจที่ไม่มีใครล่วงรู้ เช่นเดียวกับวันที่ผมยื่นหูฟังข้างหนึ่งให้คุณฟังเพลงที่เพิ่งค้นพบโดยบังเอิญ คุณอมยิ้มเสียจนแก้มแทบระเบิด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็กลายเป็นดอนน่าของคุณ ผมรักช่วงเวลาที่เงยหน้าขึ้นมาเจอนัยน์ตาสีเปลือกไม้และน้ำผึ้งของคุณเป็นประกายวิบวับ ก่อนที่คุณจะรีบก้มหน้าก้มตาขีดเขียนอย่างกับจะฉกฉวยบางอย่างไว้ให้ทัน แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ชิงชัง “ดอนน่าที่รัก” ของคุณเหลือเกิน บางครั้งบางคราวผมก็สงสัยว่าคุณตกหลุมรักเธอคนนั้นเพราะโลกบนปลายปากกาของคุณเรียบง่ายกว่านี้หรือเปล่า การรักดอนน่าเป็นไปได้และง่ายดายกว่าการรักผมมากนัก พูดแล้วก็ฟังดูคล้ายผมหึงหวงภาพมายาที่สร้างขึ้นมาจากตัวผมไม่มีผิด
หรือจริงๆ แล้วผมอาจชิงชังที่เราไม่สามารถรักกันได้โดยไร้ถ้อยคำของคุณ และผมไม่สามารถบอกรักคุณได้หากไม่มีจูเลียตหรือดอนน่า เราสนทนากันด้วยรหัสลับ เหมือนเด็กซนแหกกฎต่อหน้าอาจารย์อย่างแนบเนียน อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้และคุณย่อมรู้ดี นั่นเป็นเรื่องที่ผมไม่ถนัดอย่างแท้จริง ผมไม่มีอะไรจะเอ่ยนอกจากคำง่ายๆ ว่า สบายดีไหม สงสัยจังว่าคุณทำอะไรอยู่ ที่นั่นหนาวหรือเปล่า ผมคิดถึงคุณเป็นบ้า ฯลฯ ถ้าปล่อยให้ผมเขียนจดหมายในฐานะตัวผมจริงๆ คงไม่วายจบลงที่สามบรรทัด จอห์น ผมไม่อยากเป็นดอนน่าแสนหวานคนนั้นแล้ว ผมอยากให้คุณพูดกับผม บอกรักผมเป็นพันครั้งเหมือนในค่ำคืนเงียบสนิทนั่น
ดังนั้น หากจดหมายฉบับนี้ถึงมือคุณเมื่อไหร่ ช่วยกลับมาแล้วเรียกชื่อจริงของผมให้ทุกคนได้ยินทีนะครับ
ด้วยรัก,
ดอนน่าของคุณ (แค่ครั้งนี้หรอก)
ป.ล. ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ถาม คำตอบของผมคือคุณเสมอ — นั่นแหละครับคำตอบของผม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in