ถึงดอนน่าที่รัก
คุณรู้จักผมดี คุณย่อมรู้ว่าผมไม่เคยเริ่มต้นข้อความแบบนี้มาก่อน แต่ผมหวังว่าตัวผมในอีกสิบปีข้างหน้า นับจากวันที่หยิบปากกามานั่งตรงหน้ากระดาษเปล่าแผ่นนี้ ผมคนนั้นจะเลิกสรรหาถ้อยคำคำหนึ่งมาสื่อความหมายอีกอย่างหนึ่งได้สักที เมื่อเวลานั้นมาถึง ผมหวังจากใจจริงว่าจดหมายฉบับนี้จะเดินทางมาเยือนคุณในวันที่อากาศแจ่มใส ในมือของบุรุษไปรษณีย์ที่กดกริ่งหน้าบ้าน เจ้าหมาตัวใหญ่ที่คุณอยากเลี้ยงมาตลอดเห่าเสียงดังขณะที่คุณเลื่อนประตูรั้วเปิด ผมจะปรากฏตัวต่อหน้าคุณในรูปของลายมือหวัดๆ และชื่อเชยๆ บนซองจดหมายสีฟ้า เหมือนทหารผ่านศึกที่หายสาบสูญกลับมาหาคนรักหลังผ่านไปหนึ่งทศวรรษ ถ้าเป็นไปได้ ช่วยกอดผมอีกสักครั้งเถอะนะ
ขอโทษด้วยครับ มีแต่ถ้อยคำเต็มไปหมดอีกแล้ว ผมยังไม่เก่งพอที่จะถามคุณว่าที่ผ่านมาสบายดีไหม หรือบอกว่าคิดถึงคุณแค่ไหนโดยไม่เฉไฉไปเรื่องอื่น อาจเป็นเพราะช่วงเวลา “ที่ผ่านมา” นั้นยังไม่มาถึง ผมจึงต้องใช้จินตนาการแต่งเรื่องสมมติไปก่อน — ตอนนี้ดอกไม้หน้าบ้านคุณจะบานหรือยังนะ ผมกลัวว่าเทศบาลจะตัดสินใจโค่นต้นมันทิ้งลงสักวันเพื่อทำลานจอดรถโง่ๆ หรือไม่ภาวะโลกร้อนก็อาจทำให้ดอกไม้ผลิช้าจนแทบขาดใจ แล้วแบบนั้นคุณจะมองอะไรนอกหน้าต่างระหว่างที่อ่านจดหมายฉบับนี้กันล่ะ คุณยังจะเห็นเราที่ม้านั่งตัวนั้น สัมผัสกันและกันผ่านหูฟังคนละข้าง และจดจำตอนที่ผมหยิบกลีบดอกไม้ออกจากเรือนผมสีน้ำตาลของคุณได้หรือเปล่า กลีบดอกไม้แสนบอบบางนั่น ผมเก็บมันไว้ในหนังสือของเนรูดา หน้า Sonnet XVII — ผมรักคุณเพราะไม่รู้ทางอื่นใดอีก ถ้าคุณยังเก็บบทกวีนั้นไว้อยู่ ช่วยตรวจดูหน่อยนะครับว่าฤดูใบไม้ผลิของเรายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า ณ เวลานี้ ผมเป็นเพียงชายจากอดีตอันไกลโพ้น กำลังพร่ำเพ้อกับคุณถึงเรื่องอนาคตที่กลายเป็นปัจจุบันไปแล้ว ช่วงเวลาต่างๆ ละลายรวมกันเหมือนไอศกรีมคาราเมลของคุณกับเชอร์เบตมะนาวของผมในถ้วยเดียวกัน รสชาติพิลึกเหมือนที่คุณเคยบอก
เป็นอย่างไรบ้างครับ นี่คือสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้อ่านตอนเสนอให้เราทำแบบนี้หรือเปล่า เจ้าของบทบาทคนโรแมนติกจนน่าเวทนาควรจะเป็นผมมากกว่า รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ไม่รู้จักคิด แต่ริมฝีปากของคุณเมื่อคืนทำให้ผมกลายเป็นคนธรรมดาสามัญ โง่งมและเปลือยเปล่าดังเช่นเด็กแรกเกิด สมญานามกวีที่คนรอบข้างเรียกกันจนผมเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ช่างไร้ความหมาย ผมไม่ได้เป็นใครหรืออะไรเลย กวีถือกำเนิดขึ้นหลังจากจูบแรก หลังจากเขาใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาความหมายของจุมพิตในคืนพระจันทร์เสี้ยว และเฝ้าฝันว่าจะได้สัมผัสริมฝีปากคู่นั้นอีกในวันฝนตก ดอนน่าที่รักของผม ผมไม่อยากให้นั่นเป็นจูบสุดท้าย แต่กลับขี้ขลาดเกินกว่าจะขอให้คุณสัญญา หากจะมีใครอื่นได้ตายดับไปชั่วครู่ด้วยจูบของคุณแล้วเกิดใหม่ในฐานะกวีคนแล้วคนเล่า อย่างน้อยได้โปรดให้ผมเป็นคนสุดท้าย ได้โปรด
ให้ตายสิ ผมชักจะอิจฉาแสงแดดหกโมงเช้าที่ได้แตะแก้มคุณแล้ว ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหมว่ารุ่งเช้าวันนั้นฝันอะไรถึงได้ยิ้มหวาน ลักยิ้มสองข้างที่บุ๋มลงไปแบบนั้น ไม่ว่าผมเห็นที่ไหนก็จำได้ ไม่ว่าในวันข้างหน้าผมจะได้เห็นหรือถือวิสาสะสัมผัสด้วยปลายนิ้วอีกหรือไม่ เกรงว่าผมคงต้องจุมพิตลูกพีชราคาหนึ่งเหรียญพวกนั้นก่อนลิ้มรสอยู่ร่ำไป ผมจะคิดถึงคุณถึงเพียงนั้นทีเดียว
ผมไม่อยากทำคุณตื่น ขอโทษด้วยที่ตอนนั้นผมทำได้เพียงโอบกอดคุณด้วยสายตา เพราะอย่างนั้นตัวเองถึงได้หนาวเหน็บขนาดนี้ ผมห่มผ้าให้คุณเสียหนา หวังให้คุณหลับสบายและฝันถึงโลกที่ไม่ตัดสินใครหน้าไหนต่อไปอีกหน่อย ช่วยพาผมเข้าไปในโลกนั้นที และถ้าอ่านถึงตรงนี้ ช่วยกระซิบตอบหน่อยนะครับว่าคุณเลิกนิสัยเตะผ้าห่มทิ้งกลางดึกแล้ว ดอนน่าที่รัก โปรดบอกผมทีว่าคุณใช้ชีวิตอย่างดี ว่าคุณหวนคิดถึงวันแรกที่เราเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว ว่าโลกในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว และถ้าหากผมร้องป่าวให้ทุกคนรู้ว่าผมรักคุณ พวกเขาจะยินดีและบอกว่าเราเหมาะสมกันราวสวรรค์สร้าง ในเมื่อตอนนี้ความรักผลักไสให้เราไป แล้วในอีกสิบปีข้างหน้า ตอนที่คุณอ่านจดหมายฉบับนี้อยู่ ความรักจะนำเรากลับมาหรือเปล่า ผมอยากไปอยู่ข้างคุณเพื่อรอฟังคำตอบเหลือเกิน ถ้าหากมันบังเอิญเกิดขึ้นจริง คุณช่วยตะโกนเรียกผมมาอ่านด้วยกันหน่อยได้ไหมครับ หลังจากคุณอ่านรอบแรกจบแล้วก็ได้ หวังว่าผมจะเก่งพอทำให้แก้มขาวๆ ของคุณแดงระเรื่อขึ้นมาได้อีก
แต่หากว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน — ณ ตอนนี้ใจผมคงสลาย การจินตนาการถึงความเป็นไปได้แบบนั้นเป็นเรื่องที่คุณถนัดมากกว่าผม ใช่ครับ วันหนึ่งผมอาจเลิกรักคุณ และคุณเองก็เลิกรักผม อาจคิดได้ว่าไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก เราอาจตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนและเพลงรัก ต้องมนตร์ของดวงจันทร์และฤทธิ์ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่า แต่ถึงอย่างนั้น ขอให้จดหมายฉบับนี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าทุกอย่างก่อนหน้านั้นเป็นข้อเท็จจริงอันโต้แย้งไม่ได้ ว่าผมรักคุณ รักจนถึงวินาทีนี้ ผมเขียนทุกถ้อยคำด้วยความรู้สึกว่า ช่างหัวตอนจบไปก่อนเถอะ (คุณคงไม่เชื่อว่าผมจะพูดแบบนี้สินะ ผมก็เหมือนกัน)
ดอนน่าที่รัก ยามที่คุณถือกระดาษแผ่นนี้ในมืออย่างอ่อนโยน ผมกลับมาตามสัญญาแล้วนะครับ
ทุกถ้อยคำและลมหายใจ,
จอห์นของคุณ
การมีใครสักคนที่เขียนถึงเราโดยใช้คำสวยๆ เปรียบเปรยสรรพสิ่ง และให้เวลามองความสัมพันธ์ของพวกเราได้ละเอียดละออแบบนี้ คงโห...
คงดีเหมือนได้หนังสือ ได้อ่านรวมเรื่องสั้น แบบฟรีๆ เลยนะคะเนี่ย :)
ชอบมากอีกแล้วค่ะคุณ
I cannot write a good comment, but I'll try thank you with my own writing.
Thank you.