เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Autumn has comeByeruk
Love Confession
  • ผมพบเธอครั้งแรกในร้านเหล้าชื่อดัง ในวันนั้นผมโดนเพื่อนลากไปเฉลิมฉลองว่าด้วยเรื่องหลุดพ้นจากการเป็นทหารฝึกหัดและค่ำอีกวันต้องเลือกหน่วยเข้าทหารเพื่อประจำการ ตอนนั้นมีพนักงานเสิร์ฟอาหารมากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่ไปมา เธอก็ด้วย เธอเสิร์ฟเหล้าให้โต๊ะผมสองสามรอบ บอกตามตรง ผมค่อนข้างสนใจเธออยู่ไม่น้อย เหตุผลเหรอ? ไม่รู้หรอก น่าสนใจก็คือน่าสนใจ ผมไม่สามารถอธิบายมันออกมาได้ แต่เชื่อเถอะนี่ไม่ใช่รักแรกพบ ผมไม่เคยเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น—ไม่มีทางเกิดขึ้น—มันก็เป็นแค่ความสนใจเพียงชั่วข้ามคืน อาจเป็นเพราะการฝึกในค่ายทหารนั้นหฤโหดทำให้ผมไม่ค่อยได้สนใจเรื่องทำนองนี้เท่าไหร่นัก ผมจึงปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของจังหวะชีวิตแทน เพื่อนสนิทที่สุดในค่ายทหารของผม ไนล์ เริ่มโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าครอบงำพุ่งตรงไปที่หล่อนและถามชื่อ ดูท่าทางไนล์ก็คงสนใจเธออยู่เหมือนกัน วันนั้นผมจึงได้รับรู้ชื่อเธอจากเพื่อนขี้เหล้า แมรี่ แค่แมรี่

    รู้ตัวอีกทีผมก็ไปที่ร้านเหล้าร้านเดิมทุกครั้งที่ว่าง แน่นอนว่ามีเพื่อนตัวดีของผมตามไปด้วย ผมใช้เวลาอยู่ที่นั่นเกือบทั้งคืน จำไม่ได้ว่าผมหรือเธอกันแน่ที่เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน จำไม่ได้ว่าเราถามไถ่ถึงเรื่องใดบ้าง สิ่งยังหลงเหลือในความทรงจำคือเธอจะหัวเราะทุกครั้งที่พบว่าไนล์มักจะขอเธอแต่งงานทุกครั้งที่เมา(ค่อนข้างบ้าบิ่นและข้ามขั้นไปหน่อย) แม้เธอจะหัวเราะแบบนั้นแต่ผมก็รู้ดีว่าในใจลึกๆแล้วเธอคิดอะไรอยู่ ผมยังจำรอยยิ้มในห้วงเวลานั้นได้ วินาทีที่ผมรับรู้ได้เลยว่าผมไม่สามารถเป็นเจ้าของรอยยิ้มนั่นได้แล้ว ไม่เคยเป็นและไม่มีวันเป็น

    ทุกวันไนล์มักจะยกชื่อแมรี่มาเป็นหัวข้อการสนทนกลางวงข้าว เพื่อนที่เคยมีชีวิตอยู่ส่งเสียงแซวยกใหญ่ บ้างก็บอกให้ขอเธอแต่งงานไปเลยแลัวไนล์ก็จะตอบกลับเสมอว่า “ขออยู่ตลอดเวลาเมา” ผมหัวเราะและตบบ่าเพื่อนที่สนิทที่สุดในกลุ่ม ผมตัดสินใจไปหาแมรี่เป็นคืนสุดท้าย คืนนั้นผมไม่ได้สารภาพรักกับแมรี่ เพียงแค่ไปนั่งคุยกับเธอในฐานะเพื่อนของคนที่เธอรักเท่านั้น แมรี่ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอ แม้เวลาผ่านมานานแสนนานแล้วแต่เศษเสี้ยวความทรงจำของผมยังมีรอยยิ้มของหล่อนอยู่ในนั้น ผนึกไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยไปเหยียบที่นั่นอีกเลย หลังจากนั้นไม่กี่เดือน งานแต่งของทั้งคู่ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆที่โบสถ์ หลังจากผมขึ้นเป็นผู้บัญชาการหน่วยสำรวจอย่างเต็มตัวได้ไม่กี่ปี ผมตัดสินใจบอกความลับให้แก่เพื่อนสนิทฟัง “ฉันเคยชอบแมรี่” ผมก้าวลงจากรถม้า กระชับเสื้อคลุม ไนล์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง” ผมยิ้มและแค่นหัวเราะ

    ก่อนที่ผมจะสารภาพเรื่องแมรี่กับไนล์ผมก็ได้พบกับคนๆหนึ่ง ในเมืองใต้ดินที่อยู่ของพวกสลัมหรือกลุ่มคนที่ถูกรัฐบาลทอดทิ้งให้ใช้ชีวิติย่างยากลำบาก เป็นการพบกันที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ ใบหน้าเขาถูกกดลงในแอ่งน้ำโคลนเล็กๆและถูกกระชากขึ้น ผมย่อตัวให้เสมอกับเขา ย้ำถามชื่ออีกครั้ง คนตรงหน้ามองผมด้วยสายตาที่อ่านได้ว่าหากฉีกกระชากผมออกเป็นชิ้นๆตอนนี้ได้คงทำไปแล้ว เขาขยับริมฝีปากแห้งและเอ่ยชื่อ "รีไวล์ แค่รีไวล์"

    ในตอนแรกผมยังไม่ค่อยไว้ใจเขาสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกันกับที่เขาก็ไม่ไว้ใจผม เขาเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผม ส่วนผมเป็นคนที่ถูกเขาเกลียดและต้องการช่วงชิงชีวิตให้ได้ เหตุการณ์ในช่วงนั้นผมยังคงจำได้ดีเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม หลังจากการออกนอกกำแพงในครั้งแรกของเขา รู้ตัวอีกทีพวกเราก็ขยับความสัมพันธ์จากคนรู้จักกลายเป็นเพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่ไว้ใจ และอีกหนึ่งความสัมพันธ์ที่ผมยังนิยามให้มันไม่ได้ จากคนที่ผมไม่เคยไว้ใจให้เขาเหยียบในห้องทำงานของผม ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมอนุญาตให้เขาเข้า-ออกห้องทำงานได้ตามใจอยาก รวมถึงห้องนอนของผมและอย่างอื่นในอีกหลายๆเรื่อง แน่นอน ความรู้สึกบางอย่างนั่นก็ด้วย

    "ยิ้มอะไรของนายน่ะ น่าขนลุก" เขาถามคำถามที่ค่อนข้างไปทางด่าเสียมากกว่า 
    "แค่คิดถึงอดีตนิดหน่อยน่ะ" ผมตอบ สายตายังคงอ่านเอกสารไปด้วย 
    "อย่าบอกนะว่ากำลังคิดถึงผู้หญิงคนนั้น" ผมวางแผ่นกระดาษลง เดินไปสวมกอดเขาแน่น 
    "ปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ" เขาแค่นหัวเราะ มองผมด้วยสายตาที่สื่อว่าให้อยู่ห่างๆเขาเสียเดี๋ยวนี้
    "งั้นฉันไม่รบกวนกับการคิดถึงอดีตของนายแล้ว" รีไวล์ดันตัวผมออก ผมคว้าข้อมือ มองด้วยสายตาอ้อนวอนขอให้เขาอยู่ต่อ
    "อดีตของฉันมีนายอยู่ในนั้นด้วยนะ แต่เป็นนายตอนที่ยังเกลียดฉันอยู่"
    "ตอนนี้ก็เกลียด"
    "โกหกคำโต"
    "เรื่องจริงต่างหาก"
    "ใครสนล่ะ เพราะตอนนี้ฉันกำลังอยู่กับนายในปัจจุบัน"
    "อยู่กับเพื่อนน่ะสิไม่ว่า"
    "ตอนนี้น่ะใช่ แต่อนาคตข้างหน้าใครจะรู้ล่ะ ว่าไหม?"
    "พูดได้ดีนี่เออร์วิน"
    "ว่าไง อยากรู้หรือเปล่าว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน?"
    "อยากรู้ก่อนนายจะบอกอีก ผู้บัญชาการ"






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in