“นายว่าช่อนี้เป็นไง?” เขาชูดอกทานตะวันช่อใหญ่ให้ผมดู ผมจ้องมองสักพักแล้วหันหน้าหนี “ก็ดี” คนข้างหน้าตอบกลับสั้นๆว่างั้นเหรอและวางกลับไว้ที่เดิม ทั้งยังเดินหาดอกไม้ช่อใหม่ ผมรู้สึกหงุดหงิดจากระดับแปดในสิบ จู่ๆเขาก็ลากผมมาที่นี่—ร้านกลิ่นและดอกไม้—ทั้งๆที่ผมกำลังดื่มด่ำกับการใช้เวลาบนเตียงโง่ๆ ตอนนี้ผมควรโดนเตียงดูดมากกว่ามายืนอยู่ที่นี่—แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะผมเป็นฝ่ายที่ยอมฝืนจากอาการเตียงดูดเพื่อมาเป็นเพื่อนเขา—ครั้นถามว่าซื้อให้ใครผมกลับได้รับคำตอบที่ทำให้ผมหงุดหงิดยิ่งกว่าตอนโดนปลุก “ให้คนรู้จัก” นั่นทำให้ผมสงสัยว่าเขากำลังสนใจใครอยู่ ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่เคยซื้อดอกไม้มาประดับห้องหรือมอบให้ใครบางคนมาก่อน
—แน่นอน นั่นรวมถึงตัวผมด้วย น่าน้อยใจจริงๆ
ผมเดินแยกออกมาคนเดียว ดูโซนดอกไม้ที่อยู่ลึกไปอีก ทำหน้าซังกะตาย เมื่อไหร่เออร์วินจะเลือกเสร็จสักที ผมคิดว่าความหงุดหงิดในไม่กี่นาทีก่อนสลายหายไปกลายเป็นความว้าวุ่นใจแทน ไม่ใช่ว่าผมต้องกลับไปทำงานต่อให้เสร็จแต่เขาใช้เวลากับดอกไม้ให้คนรู้จักนานเกินไปแล้ว ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงดี ผมไม่ชอบเลยความรู้สึกแบบนี้ แต่ช่างเถอะ ผมตัดสินใจเดินดูไปเรื่อยๆเพื่อหวังว่ามันคงจะบรรเทาความรู้สึกนี้ได้บ้าง จับนั่นดมโน่นบ้างเมื่อเห็นดอกไม้ที่น่าสนใจ จู่ๆสายตาผมดันไปเห็นดอกไม้สีม่วงและเหลืองชิดมุมกำแพง ผมถามชื่อดอกไม้จากตาเฒ่าเจ้าของร้าน ชายแก่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและกลับไปรดน้ำดอกกุหลาบต่อ บอกตามตรงดอกไม้สองสายพันธุ์นี้ทำให้นึกถึงหน้าคนที่ลากผมมาที่นี่ ดอกอะแคนทัสและดอกแดฟโฟดิล ผมยืนพิจารณาอยู่หลายนาทีว่าจะเลือกช่อไหนจนเขาตะโกนเรียกผมจากหน้าโต๊ะคิดเงิน ผมจึงรวบดอกไม้ทั้งสองช่อและเดินตรงไปที่นั่น
"ฉันจ่ายเอง" ผมชิงพูดก่อนเมื่อเห็นเขากำลังหยิบกระเป๋าตังขึ้นมา รีบควักเงินของตัวเองส่งให้คุณยาย--พี่สาวคุณตาเจ้าของร้าน--จนเกือบทำเหรียญตก บอกให้คุณยายรวมดอกไม้ให้เป็นช่อเดียว เมื่อซื้อเสร็จผมจึงเดินไปรอข้างนอกร้าน พบว่าสายฝนกระหน่ำเทจนต้นไม้เอนเอียง "ฝนตกอีกแล้ว" เขาบอก ผมก้มมองดอกไอริสช่อใหญ่สีม่วงในมือคนข้างกาย แค่นยิ้มกับตัวเองเบาๆ "สรุปแล้วซื้อให้ใคร?" เขามองหน้าผมแล้วยิ้ม "คนสำคัญ" —แล้วฉันไม่สำคัญหรือไง คนข้างกายถามผมกลับบ้าง "แล้วนายล่ะซื้อให้ใคร?" ผมมองหน้าเขาแล้วตอบ "คนสำคัญเหมือนกัน"
เสียงสายฝนปกคลุมพวกเราทั้งคู่ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ผมกำช่อดอกไม้แน่น ลังเลว่าจะให้เลยดีหรือเปล่า เหงื่อเต็มมือทั้งๆที่อากาศรอบตัวเย็นเหมือนตอนเช้ามืด ชีพจรเต้นรัวแรง ผมสูดหายใจ รวบรวมความกล้าและยื่นช่อดอกไม้ให้เขา คำว่าประหลาดใจโลดแล่นเข้ามาในหัวสมองทันทีเมื่อผมเห็นภาพคนข้างกายก็ยื่นช่อดอกไอริสสีม่วงให้ผมเหมือนกัน พวกเราจ้องหน้ากันและกันและหัวเราะลั่นกับภาพตรงหน้า ผมรับช่อดอกไม้ของเขา เขารับช่อดอกไม้ของผม
"ใครจะไปคิดว่านายจะซื้อให้ฉัน" ผมพูด
"ใครจะไปคิดว่านายก็ซื้อให้ฉันเหมือนกันล่ะ" เขาย้อน
"ฉันคิดว่านายไปมีใครแล้วเสียอีก หมายถึง คนรัก" ผมแย้ง
"ทุกวันนี้ฉันก็อยู่แค่กับนายคนเดียว อ้อ ฮันจิด้วย" เขาตอบ
เขามองดูช่อดอกไม้สองสีในมือตัวเอง ยิ้มกริ่มเมื่อรู้ความหมายของมัน: ศิลปะและแสงอาทิตย์ มองหน้าผมไม่วางตาและขยับเข้ามาใกล้ ผมดันเขาออก "ดอกไอริส นายต้องการจะบอกอะไรฉันกันแน่?" เออร์วินโน้มตัวกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูผม "บอกไปแล้วไง" ผมยกยิ้ม "ฉันไม่อยากรอฝนหยุดแล้วนะ" เขาจับมือผม สอดประสานนิ้วทั้งสิบไว้ด้วยกัน "ก็ลุยฝนแทนสิ ที่รัก" พวกเราวิ่งฝ่าฝนออกมาด้วยกัน สองเท้าเหยียบย่ำน้ำและโคลน เสื้อผ้าเปียกชุ่ม ช่อดอกไม้ในอ้อมอก กับรอยยิ้มบนใบหน้าของเราทั้งคู่ ก่อนแยกทางกันเข้าห้องของตัวเองผมหย่อนไอริสชุ่มน้ำฝนหนึ่งดอกไว้ในอกเสื้อของเขา จูบเบาๆและบอกลา "ขอบคุณสำหรับดอกไม้ คนสำคัญ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in