“พี่ธรรศมายืนทำอะไรมืดๆตรงนี้คะ” ศรานตาเอ่ยถาม เมื่อครู่เธอเห็นเหมือนมีคนเดินอยู่ในบริเวณบ้านของธรรศผ่านช่องกำแพง ซึ่งช่วงบนเป็นลูกกรงเหล็กโปร่ง จึงเดินออกมาดูเกรงว่าอาจเป็นขโมย เนื่องจากทราบว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่และไม่แน่ใจว่าหนุ่มเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมด้วยกลับบ้านหรือยังและปรากฏว่าเป็นธรรศเองที่เดินเตร่อยู่ ไม่ใช่ใครที่ไหน
“พี่กำลังทดสอบพลังจิตของตัวเองอยู่”
คำกล่าวกลั้วหัวเราะและประโยคเหมือนอำเด็กเล็กๆของชายหนุ่มทำให้ศรานตาเผลอเอียงคอ ลากเสียงสูงอย่างแปลกใจ
“คะ?”
“พี่กำลังเพ่งพลังจิตเรียกหนูตาหนูตา หนูตา แล้วหนูตาก็ออกมาจริงๆ แสดงว่าพลังจิตของพี่ได้ผล”
อาการลดตัวลงไปเป็นเด็ก ใช้สองนิ้วแตะขมับหรี่ตา พลางพูดพึมพำอย่างตั้งใจของพี่ชายข้างบ้าน ทำให้ศรานตาอมยิ้ม
อารมณ์ขันของธรรศช่างร้ายกาจ
“แล้วพี่ธรรศอยากเจอหนูตาทำไมล่ะคะ”
“แน่ะ ทำเป็นลืมนะคุณครู”
นอกจากไม่ได้รับคำตอบศรานตายังโดนต่อว่าอีกต่างหาก
“ลืมอะไรคะ หนูตาไม่ได้ลืมอะไรนะ”เจ้าตัวเถียงหน้าซื่อ ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“นี่ไงใครนะสัญญาเอาไว้ว่าจะเป็นคนให้คะแนนพี่”
คำตอบของชายหนุ่มมาพร้อมสมุดเก็บดาวสีชมพูทำให้ศรานตาเผลอหัวเราะออกมาเบาๆไม่คิดว่าเขาจะจริงจังกับสมุดของเด็กอนุบาลขนาดนี้
“ไม่เจอกันหลายวันหนูตาคิดว่าพี่ธรรศจะลืมไปแล้วเสียอีก”
“จะลืมได้ไง หนูตาให้มาทั้งที”
“โธ่ หนูตาล้อเล่นหรอกค่ะ แค่ขำๆไม่คิดว่าพี่ธรรศจะเอาจริง”
“พี่จะทำเล่นๆ ได้ยังไงเดี๋ยวครูตี...อีกอย่างได้ยินมาว่า พอหมดเทอมคุณครูหนูตาจะมีรางวัลเตรียมไว้ให้คนได้ดาวสูงสุด แล้วแบบนี้หนูตาจะให้พี่พลาดได้ยังไงกันล่ะครับ”
ศรานตาโคลงศีรษะเบาๆ กับคนตัวโต ที่จู่ๆวันนี้อยากทำตัวเป็นเด็กขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“หนูตายังอยากเป็นครูที่ดีให้คะแนนลูกศิษย์นะคะ แต่พี่ธรรศจะให้หนูตาให้คะแนนได้ยังไงยังไม่รู้เลยว่าวันนี้พี่ธรรศทำความดีอะไรบ้าง แล้วสมควรได้รับดาวจากหนูตาหรือเปล่า”เธอนึกสนุก สวมบทเป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาลนอกเวลางานทันที
“อืม...” ธรรศลากเสียงทำท่าคิดศรานตาเองก็ใจเย็นพอที่จะรอ ไม่คาดคั้น
“ตื่นเช้าแล้วเก็บเตียงเรียบร้อย”ธรรศเริ่มด้วยสิ่งที่คิดว่า ถ้าเป็นเด็กอนุบาลทำแล้วคุณครูพร้อมจะให้ “ดาว”
ศรานตายังเฉย
“ไม่เขี่ยผักทิ้งเวลากินข้าว”
“...........”
พอคุณครูยังเงียบธรรศก็เริ่มยกนิ้วขึ้นนับ ร่ายยาวเป็นข้อๆ ที่พอนึกได้เริ่มไม่สนว่าเป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กหรือของเขาเอง ทั้งหมดเพื่อเอาใจ “คุณครู”โดยเฉพาะ
“กินอาหารตรงเวลาขับรถเคารพกฎจราจร ไม่หงุดหงิดหรือสบถเวลารถติด ขยันทำงาน ไม่ไปสาย”
“แค่เนียะ”
ร่ายมาก็มากแต่พอคุณครูข้างบ้านทำท่าเหมือนเหตุผลที่เขายกมาไม่เข้าท่าธรรศก็เริ่มใจแป้ว ตอนท้ายน้ำเสียงจึงอ่อยๆ ชอบกล
“กลับบ้านตรงเวลา ไม่เถลไถล”
“ฟังดูดี”หญิงสาวยกมือกอดอกพยักหน้าหงึกๆ มองหน้าจ๋อยๆ ของชายหนุ่มอย่างเป็นต่อ
“แค่เป็นคนดีของหนูตาเท่านี้ไม่พอหรือครับ”
ประโยคนั้นไม่ร้ายเท่าสายตาเว้าวอนที่มองมานั่นทำเอาศรานตาถึงกับอายจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่ง หน้าแดง
“ครับ? หนูตา ว่ายังไง” เขาซ่อนยิ้มเอ่ยเร่งเร้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าหญิงสาวกำลังอาย แถมอายได้น่ารักเสียด้วย
“เอ่อ หนูตา...”
“ครับ”
“ก็คงได้ค่ะ”ในที่สุดหญิงสาวก็หลุดปากออกมา เธอย้ำกับตัวเองว่า เขาแค่เล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะฉะนั้นก็ไม่รู้จะหวงคะแนนไปทำไม “ถือว่าเป็นการประเดิม”
“หนูตาใจดีจัง”
คำเอ่ยชมของธรรศทำให้ศรานตารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กๆไม่ใช่คุณครู ซึ่งมีอำนาจประเมินให้หรือไม่ให้ “ดาว” เด็กนักเรียน
“แล้วไหนล่ะครับ ดาว ‘คนดี’ ของพี่”
เมื่อถูกทวงคนยืนอึ้งเป็นใบ้เบื้อถึงได้เริ่มขยับตัว ชี้นิ้วไปทางห้องนอนของตัวเองบนชั้นสองอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านั้น
“เอ่อ...อยู่ในห้องนอนค่ะ ดะ...เดี๋ยวหนูตาไปเอา พี่ธรรศรอแป๊บนะคะ”
พูดจบก็ไม่รอให้ชายหนุ่มตอบรับหรือปฏิเสธศรานตาออกเดิน ก่อนเปลี่ยนเป็นจ้ำอ้าว ก้มหน้างุดเข้าบ้านไป
“เร็วๆ นะหนูตา ยุงกัด”
ประโยคเร่งยิกๆ จากธรรศไม่ทำให้ศรานตาหมั่นไส้ได้เท่ากับเสียงหัวเราะที่เจือมา
มันน่าปล่อยให้ยุงกัดตายนัก!
---------------------------------
สวัสดีค่า เอาพรหมดาวตอนใหม่มาให้อ่านแล้วค่ะ และตอนนี้มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วที่ Meb ใครอยากอ่านก่อนฟินก่อน คลิกที่นี่ https://goo.gl/SyMfOz เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ แต่ในเว็บก็ยังลงให้อ่านอยู่เรื่อยๆ นะคะ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
FB Fanpage : เนตรนภัส
สามารถติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ
ในรูปแบบ E-Book ที่ Meb ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in