เสียงคนชอบวิจารณ์ที่ชอบบ่นในหัวฉันคืออีป้าข้างบ้านที่มีลูกแฝดอยู่ชั้นเรียนเดียวกับฉัน อีป้าก็มีคำถามมากมายเหมือนอีป้าข้างบ้านของใครหลายๆคน
ป้า : กลับมาจากกรุงเทพแล้วหรอลูก สมบูรณ?ขึ้นเยอะเลยเนอะ
ฉัน : ค่ะ (ขำแห้ง)
ป้า : นี่ เดี๋ยวนี้ทำงานที่ไหนแล้วล่ะ ยังทำอยู่ที่เดิมรึเปล่า
ฉัน : อ๋อ เปลี่ยนที่แล้วค่ะ
ป้า : อ้าวหรอ ได้เงินเดือนเยอะขึ้นมั้ย เนี่ยนะลูกป้าอ่า เค้ายังทำที่เดิมอยู่เลย พอดีเจ้านายไว้ใจ วันนั้นเพิ่งเรียกไปขึ้นเงินเดือน…
ฉัน : อ๋อ หรอคะ (รีบตัดบทและเตรียมตัวจะเดินเข้าบ้าน)
ป้า : ใช่สิ เห็นบอกว่าจะโดนบริษัทคู่แข่งมาซื้อตัว แต่เนี่ยนะป้าก็บอกให้เค้าอยู่ที่เดิม ความไว้ใจของคนบริษัทเดิมสำคัญกว่าเงินทอง เนอะลูกเนอะ (แล้วป้าก็เว้นช่องไฟให้ฉันเออออด้วย)
ฉัน : ใช่ค่ะ 5555 (หัวเราะเสแสร้งแบบแรงๆ)
ป้า : แล้วหนูไม่คิดจะออกกำลังกายบ้างเลยหรอลูก (อ้าว แล้วป้าเสือกไรเนี่ย)
ฉัน : ก็มีออกบ้างค่ะ ที่สระว่ายน้ำของคอนโด เนี่ยนะคะป้า คอนโดหนูเนี่ยมีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ ไหนจะบริเวณให้วิ่ฃจ้อกกิ้งอีก คนในคอนโดนี่ไปวิ่งกันเต็มเลยค่ะ (ใช้วิธีโม้ทับไปบ้าง เพราะฉันรู้ดีว่าลูกป้าอยู่คอนโดเก่าๆมือสองที่ไม่มีส่วนกลางอะไรเลย)
ป้า : อ๋อเหรอลูก กีจังเลยเนอะ เนี่ลูกป้าก็บ่นว่าอยากไปฟิตเนส เห็นบอกว่าอ้วนๆ อะไรก็ไม่รู้ (ลูกป้าทั้งสองคนผอมกำลังดี)
ฉัน : อ๋อเหรอคะ ลูกป้าคงต้องไปจ่ายรายเดือนค่าฟิตเนส เดือนละเป็นพันเป็นหมื่นแล้วล่ะค่ะ ส่วนของหนูจ่ายส่งนกลางไม่เท่าไหร่ก็ได้มาหมดเลยทั้งฟิตเนสทั้งสระว่ายน้ำ สบายมากเลยค่ะ
ป้า : อ๋อเหรอลูก (หน้าเริ่มยิ้มไม่ออกและเดินเข้าบ้านไป)
ฉันรู้สึกโล่งและใจเต้นแรงมาก มีไม่กี่ครั้งใน 1 ปีที่ฉันต้องหาคำพูดมาฉะกับป้าข้างบ้าน เพราะฉันกลับบ้านปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ไม่ตรุษจีนก็เชงเม้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in