"...การจะอยู่คนเดียวหรืออยู่หลายคนไม่ใช่เรื่องผิดถูกหรอก
แต่เป็นเรื่องของ 'ไลฟ์สไตล์' ต่างหาก..."
- คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(หน้า 195)
"One Life Stand - เดี่ยวดี เดี่ยวร้าย"
ผู้เขียน: คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
สนพ. แซลมอน
พิมพ์ครั้งแรก, ตุลาคม 2559
นี่เป็นงานเขียนของคุณคันฉัตรเล่มแรกที่เราซื้อมาอ่าน เป็น 1 ใน wish list ที่เราตั้งใจซื้อจากงานหนังสือรอบตุลา '59 ที่เพิ่งผ่านมา ด้วยเพราะถูกอกถูกใจในชื่อเรื่อง บวกกับเนื้อหาโดยย่อ เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตฉายเดี่ยวมาตลอด 30 ปี บร๊ะ! นี่มันไอดอลเราชัด ๆ
ประสบการณ์อยู่คนเดียวของเราเริ่มขึ้นหลังจากเลิกกับแฟน ซึ่งก็ผ่านมาหลายปีมาก ๆ ละ ตอนนั้นเราเคว้งอยู่พักใหญ่ หลังจากเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเกาะติดคนอื่นมาทั้งชีวิต ทั้งป๊า เพื่อน แฟน เรากลายเป็นชะนีดราม่าฟูมฟาย เหงาวายป่วง แถมพอเพื่อนไปไหนไม่ชวน อีนี่ก็เวิ่นได้เป็นวรรคเป็นเวร เวิ่นจนตอนนี้มองย้อนกลับไปก็ให้อนาถตัวเองจนถึงขั้นสมเพช นี่ถ้าย้อนเวลากลับไปเจอตัวเองตอนนั้นได้ล่ะก็คงได้เขกหัวตัวเองแล้วเรียกมานั่งด่ายกใหญ่ ๆ ให้หายเวิ่น หลังจากดราม่าได้ที่ สติก็บังเกิด นึกไม่ชอบใจตัวเองขึ้นมาที่มานั่งงอแงกับเรื่องแค่นี้ คนเราต่างก็มีชีวิตของตัวเอง จะให้เขามาคอยอยู่กับเราตลอดเวลาได้ไง ตัวเราเองเนี่ยแหละที่ต้องเป็นเพื่อนกับตัวเองให้ได้ก่อน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ถีบตัวเองให้เริ่มไปไหนมาไหนคนเดียวให้เป็น โดยเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการกินข้าวคนเดียว อยากกินอะไรก็ไปกิน เอาของอร่อย ๆ ของที่ชอบมาล่อใจ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านประเภทที่พอนั่งคนเดียวได้ กินคนเดียวหมด แล้วก็ค่อยพัฒนาจนถึงขั้นไปดูหนังคนเดียว แรก ๆ ก็มีขัด ๆ เขิน ๆ บ้าง คือเราเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ขี้กลัว แล้วก็ไม่มี sense เรื่องการเดินทางเท่าไร ถ้าต้องไปในที่ที่ไม่เคยไป จะเกิดอาการประดักประเดิดกลัวทำไรเปิ่น ๆ เด๋อ ๆ ตามสไตล์คนสะเหล่อแบบมืออาชีพ แต่ถ้าที่ไหนเคยไปแล้วรู้ว่าต้องทำอะไร อย่างไร ตรงไหนก็จะคล่องหน่อย ไม่เขินละ
พอเริ่มชินกับการอยู่คนเดียว มันก็เข้าสู่ช่วงติดใจ นึกจะไปไหนก็ไปเลย อยากกินอะไรก็ได้กินอย่างนั้น อยากดูหนังเรื่องอะไร รอบกี่โมงก็ได้หมด ไม่ต้องมารอถามคนนั้น คนนี้ว่าไปไหม ว่างไหม อยากดูหรือเปล่า หรือต้องมาถกเถียงกันนาน ๆ กว่าจะได้ข้อสรุป ซึ่งสุดท้ายพอถามไปถามมา รอไปรอมา ถ้าไม่กลายเป็นว่าโดนเปลี่ยน หรือถูกปฏิเสธ ก็คือโดนเท! ผิดหวังบ่อย ๆ จากการชักชวนนี่มันก็ชีช้ำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาเอาเรื่องนะคุณ แต่พอเราถึงจุดที่ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ ความชีช้ำพวกนี้ก็หายไป ดราม่าน้อยลง กลายเป็นมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น Happy Ending ไปเลย
แต่ว่าท่ามกลางความสุขที่เราค้นพบ คนรอบตัวเขาไม่เข้าใจกับเราด้วยเนี่ยสิ บางทีคนเราก็เอาบรรทัดฐานของตัวเองมาวัดและตัดสินชีวิตคนอื่นมากไปหน่อย จนทำให้เขาไม่เข้าใจจนไม่พอใจ มองคนที่ต่างออกไปเป็นพวกแปลก จะไปไหนที คำถามนี้ก็มาเลย "ไปกับใคร" ก็แอบคิดในใจทุกครั้งว่าจะรู้ไปทำไมกันหนอ แล้วเวลาบอกใครว่าไปดูหนังคนเดียว ส่วนใหญ่ร้อยละเก้าสิบ ต้องทำเหวอ ๆ ไม่ก็ตกใจ ว่าอาร๊ายยยยย อย่ามาอำ ดูหนังคนเดียวเนี่ยนะ ทำได้ไง ทำไมไปคนเดียวล่ะ บางคนก็ไม่เชื่อ หาว่าเราโกหก ต้องนัดเดตแน่ ๆ เลย (แหมะ มันจะเฮิร์ตก็ตรงนี้แหละคุณ มันไม่มี้วววว์) หนักสุดก็นี่เลยค่ะ "น่าสงสารจัง" คืองงว่าทำไมถึงรู้สึกว่าน่าสงสาร เพราะเราว่าคนที่ไปไหนคนเดียวไม่ได้เลยต่างหากที่น่าสงสาร ชีวิตที่ต้องรอคนอื่นตลอดนี่มันจะได้ทำอะไรที่อยากทำ ได้กินอะไรที่อยากกินกันสักเท่าไรเชียว
ความยุ่งยากใจอีกอย่างที่เจอคือ เพื่อนสายรวมหมู่ บางคนก็พยายามดึงเราเข้ากลุ่ม พยายามนัดเจอ และความอึดอัดก็บังเกิดเวลาต้องปฏิเสธเขาเหล่านี้เนี่ยแหละ คือต้องถนอมทั้งใจตัวเอง และน้ำใจคนอื่นในเวลาเดียวกัน ยิ่งปฏิเสธแล้วเจอลูกตื๊อนี่โคตรจะลำบากใจ แต่พอถึงเวลาที่เราเกิดนึกอยากนัดบ้าง หรืออยากมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนน่ะเหรอ ก็จำเพาะจะต้องเป็นตอนที่เขาไม่ว่างกันทุกทีไปสิน่ะ โลกนี้มันก็โหดร้ายแบบนี้ล่ะคุณ
แต่ถึงจะ happy กับการอยู่คนเดียวขนาดไหน ยังไงก็ต้องหาเวลาไปรวมกลุ่ม รวมหมู่กับเขาบ้างแหละนะ เพื่อที่เราจะได้ไม่ลืมความรู้สึกของการใส่ใจคนอื่น และถูกคนอื่นใส่ใจ อยู่คนเดียวมากไปอาจทำให้เรานึกถึงแต่โลกของเราเอง จนมองข้ามคนที่แคร์เราไปอย่างน่าเสียดาย จะเดี่ยว จะหมู่ ก็ขอให้ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขตามสะดวกใจละกันเนอะ :)
แม้ว่าการใช้ชีวิตคนเดียวของเราจะไม่ถึงระดับ Advance อย่างคุณคันฉัตร และสไตล์ออกจะต่างกันมากอยู่ คุณคันฉัตรเขาแนวฉายเดี่ยวผจญภัย ส่วนเรามันสายมนุษย์ถ้ำ ชอบอยู่บ้านเงียบ ๆ อ่านหนังสือ เล่นเกมไปตามเรื่องตามราวมากกว่า แต่เราก็เข้าใจในหลาย ๆ ประเด็นที่เขาเขียนถึง อ่าน ๆ ไปแล้วก็ได้แต่ร้องว่า โอ๊ย โดนใจ ๆ กับ เฮ้ย เหมือนกันเลย ๆ ตลอดทั้งเล่ม อ่านเพลินดี ทึ่งกับ skill ของเขามาก เที่ยวคนเดียวนี่ไม่เท่าไร แต่ดูคอนเสิร์ตคนเดียว กับไปคาราโอเกะคนเดียวเนี่ย โคตรเทพเลย พีกมากค่ะ เป็นหนังสือที่เหล่ามนุษย์ฉายเดี่ยวทั้งหลายถ้าได้อ่านแล้วคงมีอาการคล้าย ๆ กัน แม่งโดนใจ นำเสนอทั้งส่วนดี และส่วนเสียของการใช้ชีวิตคนเดียวให้เห็นกันชัด ๆ แถมท้ายด้วยเกร็ดมนุษย์คนเดียวน่ารู้มาในตอนท้ายของแต่ละบท เสริมความรู้ไปอีก ส่วนคนที่ไม่เข้าใจหมู่เราชาวเดี่ยวพีเพิ่ล ก็อาจได้โอกาสปรับมุมมองเสียใหม่ ช่วยลดอาการสงสารและสงสัยต่อคนที่ไปไหนทำอะไรด้วยตัวคนเดียว และ (น่าจะ) มองเราเป็นคนปกติทั่วไปที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างออกไปจากคนหมู่มากเล็กน้อยก็เท่านั้น ส่วนสำหรับพวกมือใหม่หัดเดี่ยว จะลองอ่านเป็นแนวทางในการเดินหน้าต่อไปก็ไม่เลวนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in