รูปถ่ายเป็นเพียงเสี้ยววินาทีของเวลาระหว่างเรา
รอยยิ้มที่ค้างไว้ในภาพนิ่ง โดยไร้คำเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้า
เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยิน จากสายตาแสนร่าเริง
คิ้วขมวดเป็นปม ที่กำลังจดจ่อกับเรื่องนอกรัศมีของเลนส์กล้อง
คำหวานที่ถูกแลกเปลี่ยน กลับกลืนหายไปกับฉากหลังในรูป
“คนฉวยโอกาส ” พี่นายว่า ยกหนังสือที่กางไว้ขึ้นปิดหน้าตัวเอง
ผมหัวเราะ เอื้อมมือไปแตะขอบหนังสือเล่มหนา
(พี่นายกำลังพยายามอ่าน สงคราม ความรัก และสันติภาพ รอบสอง
ผมแอบเห็นว่าจัดการเล่มหนึ่ง องค์หนึ่งไปสำเร็จแล้ว
จะลุยงานโทลสตอย ไม่ใช่อะไรที่ง่ายเลย)
“ก็ถ่ายสวยนะ” ผมบอก เอียงกล้องในมือให้พี่นายดู “พี่ตั้งใจอ่านจริงๆ”
พี่นายชะโงกหน้ามาดูแวบนึง แล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ คว้าลอนดอนฟ็อคมาจิบก่อนจะตอบอะไร
“แต่คนอย่างพี่--” ผมยกม็อคค่าของตัวเองขึ้นมาดื่ม ร้านกาแฟหัวมุมมีชีวิตชีวาขึ้นช่วงบ่ายวันหยุด ผมเองนัดพี่นายมาคั่นกลางการท่องหนังสือ
(ถ้าโดดมาได้นานๆ อย่างนี้ก็ดี
ถ้าอาจารย์จะให้ผมเขียนบรรยายเรื่องรอยยิ้มของพี่นายแทนน่ะ
เรื่องเพลงต่างๆที่ผมมักได้ยินในหัวตอนอยู่กับพี่นาย
เรื่องคำร้อยพันที่ผมนึกออกเมื่อได้ยินเสียงนั้นพูดกับผม
อยากคิดไปอย่างนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าข้อสอบวิชา Soundtracks in Film นั้นเป็นปรนัยล้วนๆ
หาเพลงประกอบประจำตัวพี่เขาได้เป็น playlist ก็น่าจะนับได้
....ใช่มั้ย)
“—คนอย่างพี่ถ่ายมุมไหนก็สวย”
พี่นายแกล้งถอนหายใจเสียงดัง วางหนังสือลงบนโตีะ แล้วลุกมาคว้ากล้องไปจากมือผม
“อะ—เดี๋ยวนะ!”
ผมยกมือขึ้นปราม
หากพี่นายจับกล้องไว้กับมือ หยีตาข้างนึงที่เลนส์กล้อง
“แบร์ก็หล่อ--”
เสียงล้อๆของพี่นายทำเลือดสูบฉีดที่แก้มผม
ได้แต่นั่งนิ่งฟังเสียงกดชัตเตอร์เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง
“--ลองโดนถ่ายมั่งจะเป็นไร”
ผมยิ้ม (จะว่าบ้าคำชมก็ได้) ยอมตามใจพี่นาย
ยังไงแล้ว ความหมายในรูปถ่ายก็รู้กันอยู่สองคน.
//
มาคุย / ทักทายกันได้ที่ทวิต
@_XDolan
นะคะ <3
x
ข้าวเอง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in