เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I met you in the summerP.E.A.C.E
โปรดครั้งที่ 6
  • วันนี้เป็นวันสอบวัดผลตามที่เหล่าซือได้แจ้งไว้ พร้อมมากแค่ไหนบอกเลยว่าไม่ค่ะ! แต่อย่างน้อยกระดาษคำตอบเราก็ไม่ว่างเปล่านะ แต่จะตอบถูกมั้ยก็อีกเรื่องหนึ่ง…

    “เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคนนน” เสียงของแจนนำเจ้าตัวมาแต่ไกล พวกเธอทั้งหลายที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องสอบ หันไปมองตามเสียงแปดหลอดของเจ้าตัวทันที การที่แจนจะมาหาพวกเธอหลังเลิกเรียนเพื่อไปทานข้าวด้วยกันนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ที่ไม่ปกติคือเจ้าตัวไม่ได้มาคนเดียว

    อู้ววววววว


    แจนมองตาที่ระยิบระยับและท่าทางคันปากของแต่ละคนที่อยากจะอ้าปากแซวแต่ก็ไม่กล้าทำเพราะยังเกรงใจคำว่ามารยาทอยู่ เธอคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่ยอมให้หมอนี่ตามมาด้วย

    “คือพี่พา...หมอนี่ เอิ่ม...เพื่อนพี่มากินข้าวกลางวันด้วยนะ” แจนพูดตะกุกตะกัก เสียอาการสาวมั่นอย่างที่สุด! สายตาทุกคู่เบนไปจับจ้องยังหนุ่มหล่อที่พวกเธอพอจะรู้จักมาบ้างผ่านทางการบอกเล่า (?) ของแจน

    “สวัสดีครับ ชื่อจอมทัพนะ เรียกจอมเฉยๆ ก็ได้ครับ” หนุ่มหล่อเสียงก็หล่อแนะนำตัวเองหวังผูกมิตรกับกลุ่มเพื่อนของสาวที่เจ้าตัวตามจีบอยู่


    “สวัสดีจอมเฉยๆ ” เป็นเสียงของพริ้งที่ทะลุกลางปล้องขึ้นมา

    “อ่า พริ้งใช่มั้ยครับ ขอโทษนะที่คราวก่อนเรายังไม่ได้ทันแนะนำตัวเลย” จอมทัพเอ่ยขึ้นอย่างประหม่านิดหน่อยเมื่อเห็นสายตาวาววับของเพื่อนรักของแจนที่จ้องเขม็งมาที่เขา คราวก่อนที่เขาไปประกาศต่อหน้าสองสาวว่าจะตามจีบแจน เขาก็ไม่ได้พบกับเพื่อนตัวเล็กของแจนตรงๆ อีกเลย ไม่คิดว่าคนที่ดูนุ่มนิ่มจะสามารถทำสายตาได้น่ากลัวขนาดนี้


    “แล้วทำไมวันนี้มากินข้าวกับแจนล่ะ ไม่มีเพื่อนคนอื่นแล้วเหรอคะ”


    อูยยยยย พวกเธอที่เหลือได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่กกับบรรยาาศมาคุตรงหน้า


    “พอดีเราอยากรู้จักเพื่อนๆของแจนน่ะครับ เลยขอตามมาด้วย” จอมทัพยังใจดีสู้เสือ

    “อยากรู้จักเพื่อนๆของแจนไปทำไมเหรอคะ”


    “ไม่เอาน่าพริ้ง” แจนที่เห็นว่าสถานการณ์ชักจะไม่ค่อยดีแล้ว เอ่ยปากปรามเพื่อนตัวเล็กที่ส่งสายตาเหมือนจะกระโดดกัดคอคนตรงหน้าให้จมเขี้ยว

    “เดี๋ยวนี้มีปกป้องกันเนอะ” น้ำเสียงแฝงอารมณ์ขุ่นมัวไว้ชัดเจน

    “โธ่พริ้ง ไม่ใช่อย่างนั้น”


    โอ้โหหห พวกเธอห้าคนที่ยืนเกาะเวทีอยู่เงียบๆ ได้แต่ลอบเหงื่อตกแทนหนุ่มหล่อ


    “เอ่อ พริ้งไม่สะดวกใจผมไม่ไปก็ได้นะครับ” จอมทัพเอ่ยปากเพื่อไกล่เกลี่ยสถานการณ์ตรงหน้า เขาไม่อยากทำให้แจนลำบากใจ ถ้าเพื่อนรักของแจนยังไม่พร้อมที่จะต้อนรับเขา เอาไว้คราวหน้าก็ยังไม่สาย

    “ไปด้วยกันนี่แหละค่ะ เราแค่ถามเฉยๆ ไม่ได้จะกีดกันสักหน่อย” พริ้งยิ้มหวานให้จอมทัพที่ยืนทำหน้าลำบากใจอยู่

    “เอ่อ...ครับ ขอบคุณครับ” จอมทัพเหล่มองแจนที่ส่งสัญญาณบุ้ยใบ้ให้รีบตอบตกลงก่อนที่เพื่อนของเธอจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้

    “ดีค่ะ งั้นไปกันเถอะ” พูดเสร็จเจ้าตัวก็เดินนำลิ่วๆ ทิ้งให้พวกเธอที่เพิ่งตั้งสติได้ต้องรีบวิ่งตาม


    เดี๋ยวพลาดโอกาสเผือก!


    “แจน! เรา/ผมซื้อผัดมันฝรั่งมาให้” สองเสียงดังพร้อมกัน แจนมองจานผัดมันฝรั่งทั้งสองจานที่วางตรงหน้าเธอ เธอล่ะอยากจะให้เมนูนี้หายไปจากโลกจริงๆ หายไปตอนนี้เลย! เธอรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าสถานการณ์มันจะอิหลักอิเหลื่อขนาดนี้ เธอมองทั้งสองคนที่เริ่มทำสงครามผ่านทางสายตา

    “ไม่กินเหรอแจน/แจนครับไม่กินเหรอ”

    พวกมึงสองคนอย่ากดดันกู!!!!! ข้างนอกดูไหวแต่น้ำตาแจนไหลถึงตีนแล้วนะ



    “มึงว่าเค้าจะต่อยกันมั้ย”

    “บ้าเหรอมึง พี่พริ้งตัวแค่นั้นเองนะ”

    “แต่พริ้งสายดำคาราเต้นะ”

    พวกเธอสี่คนมองหน้าสไบทันที “แจนเคยเล่าให้ฟัง แถมยังบอกอีกว่าพริ้งเคยซ้อมคนเข้าโรงพยาบาลด้วย”

    “เชี่ย!! ” พี่พริ้งคนนุ่มนิ่มของน้องๆ จะโหดเกินไปแล้วนะ

    “เอาไงดีอ่ะ ต้องช่วยพี่แจนมั้ยมึง” มิ้ง

    “ไอ้โปรดมึงจัดการเลย” ป้าส้มโยนหน้าที่ให้ทันที โปรดทำหน้าตาเหรอหรา อยากจะให้เพื่อนย้ำอีกสักนิดว่ากูเหรอ… “มึงนั่นแหละ สนิทกับพี่เค้านี่ เอ๊ะ หรือว่าไม่นะ” น้ำเสียงของบุ้งเหยีดหยามมาก

    บุ้ง! มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว!

    นี่ใคร นี่โปรดนะ

    “พวกมึงรอดูเลย”

    “จ้า”



    โปรดได้แต่ทำหน้ามั่นใจ ทั้งๆ ที่ในใจคือสั่นไม่หยุดแล้ว โปรดแอบปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง สมองก็คิดไปล้านแปดว่าต้องทำอย่างไรให้พริ้งคนโหดกลับมาเป็นพริ้งคนนุ่มนิ่มคนเดิม อ้อนไหม? เอาของกินมาล่อ? ไม่สิ นั่นพริ้งนะไม่ใช่ไอ้บุ้ง เอาวะ! ลองดูกันสักตั้ง โปรดลุกจากที่นั่งตัวเองไปกระแซะนั่งใกล้ๆ พริ้งแบบไม่กลัวตาย ฉีกยิ้มออดอ้อนจนตาเรียวกลายเป็นแค่ขีดเดียว

    “พริ้งงง กินข้าวกันเถอะไม่หิวเหรอ”

    พริ้งละสายตาจากไอ้หน้าหล่อของแจนหันมองแมวยักษ์ของเธอที่ส่งเสียงอ้อนหนักกว่าปกติ ในใจเธอเกิดความลังเลว่าจะปล่อยไอ้หมอนี่ไปหรือสนใจคนอ้อนตาใสก่อนดี เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าทำให้เธอลังเลได้บ้างแล้ว จึงอ้อนเธออีกประโยค


    “กินข้าวกับโปรดนะ โปรดหิวแล้ว” กลัวคนตรงหน้าจะไม่คล้อยตาม หัวทุยๆ ของโปรดถูไถเข้าที่ไหล่ของบัดดี้ ทุ่มตัวอ้อนสุดฤทธิ์ โปรดอยากได้พริ้งคนนุ่มนิ่มคนเดิม! พริ้งมองหน้าโปรดที่อ้อนเธออยู่ มองสีหน้าของแจนที่ลำบากใจสุดๆ มองหน้าของน้องๆ และเพื่อนอีกหนึ่งคนที่สื่ออย่างชัดเจนว่า ‘กินข้าวเถอะนะ’ สุดท้ายเธอมองหน้าจอมทัพที่ยืนรอการตัดสินใจของเธออยู่ พริ้งสะบัดหน้าใส่จอมทัพหันไปพูดกับแจนด้วยเสียงที่อ่อนลง “อือ กินข้าวเถอะ”

    ทุกคนทำหน้าตาดีใจเหมือนได้ยินเสียงระฆังสงบศึก ทุกคนแอบชูนิ้วโป้งให้โปรด ‘ทำดีมากเพื่อน! ’ แจนรีบดึงแขนของจอมทัพให้นั่งลง ผัดมันฝรั่งเจ้าปัญหาทั้งสองจานถูกแบ่งให้คนบนโต๊ะอย่างเท่าเทียม โดยที่แจนเลือกที่จะไม่กินมันทั้งสองจาน ไอ้มันฝรั่งพาซวย! และแล้วมื้อกลางวันก็ผ่านไปได้อย่างสงบแม้จะมีสายตาอาฆาตของพริ้งที่จ้องจอมทัพเป็นระยะๆ จนคนถูกจ้องกินข้าวไปเหงื่อไหลไป น่าสงสารเป็นที่สุด



    “กลับห้องไปเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยกันด้วยนะพวกมึง หลังพิธีปิดแล้วเราต้องไปสนามบินกันเลย” ป้าส้มเอ่ยเตือนเพื่อนๆ ทุกคน พรุ่งนี้คือวันสุดท้ายที่พวกเธอจะได้อยู่ที่จีนกัน คิดแล้วก็แอบใจหาย เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านไปแล้วสามอาทิตย์ ในใจทุกคนล้วนอยากอยู่ต่อแต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา,เลิกร้าง มิตรภาพที่ได้พบในค่ายล้วนเป็นความทรงจำดีๆ ที่ได้จากฤดูร้อนในปีนี้ ใช่แล้วมันดีมากจริงๆ พวกเธอทั้งหมดแยกย้ายกันไปเก็บของตกลงกันว่าคืนนี้จะนัดปาร์ตี้ขนมเลี้ยงส่งวันสุดท้ายกันคืนนี้ แจนที่ไม่อยากถูกพริ้งสอบสวนเดี่ยวจึงกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งสำหรับปาร์ตี้คืนนี้

    “เดี๋ยวพี่เอาเบียร์ที่ห้องไปด้วย กินกันได้ป่าว”

    “กรี๊ดดด จัดมาเลยค่ะพี่! ” มิ้งนอกจากจะเป็นคุณนายสายเสมอแล้วยังสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าหญิงร้านเหล้าด้วย

    “น้อยๆ หน่อยนะแจน” พริ้งปรามคนที่จะพาน้องออกนอกลู่นอกทาง มีคดีติดตัวแล้วยังจะหาเรื่องอีกนะ แจนทำหน้าหงอยเหมือนเด็กโดนแม่ห้ามออกไปเที่ยว สไบจึงเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยสถานการณ์ “เอาน่าคืนสุดท้ายแล้ว แค่เบียร์เองไม่เมากันหรอก”

    “พี่พริ้งไม่ต้องห่วงเดี๋ยวหนูดูเอง”ป้าส้มอาสาเป็นฝ่ายเก็บกวาดในค่ำคืนนี้ เมื่อเห็นว่ามีคนคอยปรามเจ้าพวกเด็กดื้อพริ้งค่อยเบาใจหน่อย

    “แล้วพี่พริ้งจะกินด้วยกันป่าวหรือพี่ไม่กินแอลกอฮอล์” บุ้งถามพี่พริ้งคนนุ่มนิ่มที่ดูจะห่างไกลจากอบายมุขทั้งหลาย

    “หูยยย พริ้งอ่ะคอแข็งอย่าบอกใครเชียว” แจนทำหน้าตาประหลาดทันที พริ้งอ่ะนะไม่กินเหล้า ยัยคุณหนูเคยไปเรียนเป็นบาร์เทนเดอร์แถมมีใบเซอร์ด้วยนะ แจนอยากประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า ยัยคนนี้มันร้ายค่ะ!

    “ก็กินได้” พริ้งตอบยิ้มๆ

    “งั้นคืนนี้มานะ” โปรดกระพริบตาปริบๆ พริ้งย่นจมูกใส่คนขี้อ้อนที่วันนี้อ้อนเธอไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว

    “สรุปคืนนี้ที่ห้องโปรดนะ สักสามทุ่มละกัน” สไบสรุปเสียงดังด้วยนึกหมั่นไส้คนสองที่กำลังสร้างบรรยากาศสีชมพู

    “ดีล! ”




    00.29

    ขอรายงานสถานการณ์ภายในตอนนี้ โปรดมองสภาพของคนที่โม้ไว้ดิบดีว่าเป็นเจ้าหญิงร้านเหล้านอนไหลไปกับพื้นห้องทั้งๆ ที่กินเบียร์ไปแค่ 3 กระป๋อง

    ‘เบียร์แค่นี้ทำอะไรหนูไม่ได้หรอกพี่!’

    ถุย!!


    โปรดละอยากจะถ่ายรูปเอาไว้ให้ไอ้มิ้งดูตัวเองในตอนเช้าจริงๆ คนปากดีไปไหนแล้ว? คนอื่นนับได้ว่ามีสติครบถ้วน มีเพียงแค่แจนที่ดูจะกรึ่มๆ นิดหน่อย นอกนั้นถือได้ว่าสภาพเป็นผู้เป็นคน แต่คนที่เหนือความคาดหมายเธอที่สุดก็คือ พริ้ง แม่คุณเล่นฟาดคนเดียวไปเจ็ดแปดกระป๋อง คอแข็งอย่างที่แจนบอกไว้จริงๆ

    “ไอ้มิ้งลุกโว้ย” ป้าส้มใช้เท้าเขี่ยเจ้าหญิงร้านเหล้าที่ยังนอนไหลที่พื้นปากก็งึมๆ งำๆ ด่าแฟนเก่าที่ไม่มีอยู่จริง “บุ้งช่วยกูหน่อย” ป้าส้มกวักมือเรียกบุ้ง ท่าทางในการหิ้วเพื่อนของทั้งสองดูชำนาญมาก บ่งบอกได้ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ

    “พี่ออกไปสูบบุหรี่นะ” ทั้งห้องหันมองพริ้งเป็นตาเดียว แต่คนถูกมองก็ไม่ได้สนใจสายตาใครทั้งสิ้น ในใจของเธอรู้สึกไม่ปกติอย่างรุนแรง มือเล็กคว้าบุหรี่กับไฟแช็กแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ออกไประเบียงทางเดินหน้าห้อง


    หลังจากเสียงปิดประตูทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ แจนมองหน้าคนในห้องทุกคนมีเครื่องหมายคำถามแปะไว้กลางหน้าผาก ยกเว้นแค่โปรด แจนคาดว่าอีกฝ่ายน่าจะเคยเห็นด้านนี้ของพริ้งมาบ้างแล้ว

    “พี่ไปหาพริ้งก่อนนะ โทษนะที่ไม่ได้อยู่ช่วยเก็บห้อง” แจนขอโทษคนที่เหลือ เธอรีบออกจากห้องตามเพื่อนตัวเล็กทันที ไม่รู้ตอนนี้สภาพจิตใจจะดิ่งไปถึงไหนแล้ว

    เสียงประตูครั้งที่สองเงียบลง สไบก็หันมาถามโปรดทันที “โปรดรู้อยู่แล้วเหรอ” โปรดเงียบไปสักครู่ก่อนจะพยักหน้าตอบ “อือ เคยเห็นครั้งนึง” บุ้งที่ยกแขนมิ้งพาดบ่าอดพูดออกมาไม่ได้ “ไม่น่าเชื่อวะ” “กูไม่ได้มีปัญหาอะไรนะเว้ย แค่เห็นพี่เค้าดูเรียบร้อยเลยไม่คิดว่าจะสูบเฉยๆ ” บุ้งรีบแก้ตัวทันทีที่เห็นป้าส้มส่งสายตาดุๆ มาให้

    “เอาเถอะ เรื่องของเจ้าตัวเค้า แล้วเราสองคนพาเพื่อนกลับไหวมั้ย” สไบพยักพเยิดไปที่มิ้งที่ยังคงทำตัวเป็นของไหล ลำบากเพื่อนอีกสองคนที่ต้องคอยประคอง “ไหวพี่ พวกหนูแบกมันหลายครั้งแล้ว” ป้าส้มตอบ

    “พามิ้งกลับเหอะเดี๋ยวพี่ช่วยโปรดเก็บห้องเอง” สไบโบกมือไล่ทั้งสองคน “เคพี่ กลับก่อนนะ” ประตูห้องถูกเปิดและปิดอีกเป็นครั้งที่สาม เมื่อเหลือกันแค่สองคนในห้อง


    “จีบพริ้งอยู่เหรอ” โปรดชะงักมือที่กำลังเก็บถุงขนม เงยหน้ามองคนพี่ที่อยู่ๆ ก็ถาม

    “ไม่ได้จีบค่ะ”

    “งั้นพี่ก็จีบได้ดิ”


    ห้องตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัด โปรดขมวดคิ้วมองหน้าสไบที่ยืนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าตัวเองเป็นคนจุดประเด็นขึ้นมา เจ้าตัวดูจะไม่สนใจสีหน้าของโปรดด้วยซ้ำ “พริ้งคือตรงสเปคพี่มากๆ ตอนแรกพี่ก็ว่าจะจีบแต่เห็นว่าสนิทกับโปรด เลยนึกว่าจีบกันอยู่ แต่ถ้าโปรดบอกว่าไม่ใช่ พี่จะได้เริ่มจีบสักที” สไบมองโปรดที่นั่งเก็บขยะอยู่ “โปรดไม่มีปัญหาใช่เปล่า? ”



    “มีดิพี่”


    สไบเหยียดยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบของโปรด เธอมองหน้ารุ่นน้องที่ลุกยืนประจันหน้ากับเธอ ใบหน้าแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน ตาเรียวเหมือนมีประกายไฟลุกโชนอยู่ข้างใน

    “ทำไมอ่ะ ไหนว่าไม่จีบ”

    “ไม่ให้จีบ! ” ไอ้เด็กหวงก้างโพล่งออกมาชัดเจน

    “แล้วมีสิทธิ์อะไรไปหวงเค้า เป็นอะไรกับพริ้งเหรอ”



    โปรดจุกไปทันทีกับความจริงที่อีกฝ่ายตีแสกหน้าเธอ ตลอดเวลาที่พริ้งสนิทสนมกับเธอ ยอมอ่อนให้เธอ ทำให้โปรดนึกลำพองใจไปว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่เคยได้ยินจากปากพริ้งว่าเธอเป็นอะไรกับอีกฝ่ายกันแน่


    แม่งเอ๊ย!


    “แล้วไงอ่ะ ต่อให้พี่จีบ ยังไงพริ้งก็ไม่สนใจหรอก” โปรดตีรวน

    “รู้ได้ไง เรื่องแบบนี้ต้องให้พริ้งเป็นคนพูดเองป่ะ”


    สไบมองหน้าโปรดที่จนด้วยคำพูด โธ่ เด็กน้อยไม่ได้เป็นอะไรกับเค้าก็หวงซะแล้ว สไบที่แอบขำในใจรีบปั้นหน้าเป็นคนร้ายๆ ต่อทันที เธอลอยหน้าลอยตามองโปรดทีนึงแล้วยักไหล่อย่างกวนๆ

    “ยังไงก็เหอะ พี่จะจีบ” พูดจบโดยไม่รอมองสีหน้าของคนฟังสักนิด เธอหันหลังรีบเก็บถุงขนมต่อทันทีด้วยความที่ไม่อยากอยู่นาน เธอรับรู้ถึงสายตาร้อนแรง ถ้าคนเราสามารถใช้สายตาฆ่าคนได้ สไบคิดว่าเธอคงถูกสับเป็นหมื่นๆ ชิ้นไปแล้ว เธอรวบถุงขยะทั้งหมดในห้อง ก่อนจะจากไปเธอไม่ลืมที่จะยักคิ้วอย่างท้าทายให้อีกหนึ่งที



    เมื่ออยู่คนเดียวโปรดได้แต่ยืนกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่จะหวงยังทำไม่ได้เลย

    หงุดหงิด!





    ติ๊ง!

    สไบหยิบโทรศัพท์มองข้อความที่ถูกส่งมา



    J. : เป็นไงมั่ง

                                                                                                                            ใครเอาEEกูไป: โมโหใหญ่

    J. : กูว่าแร้วววว

                                                                                  ใครเอาEEกูไป : เอาไงต่อ แค่นี้ไอ้โปรดจะแดกหัวกูละ

    J. : มึงแหย่ๆ มันไปก่อน กูอยากดูท่าทีมัน

                                                                                  ใครเอาEEกูไป :เคๆ ถ้ากูโดนมันต่อย ช่วยกูด้วยละกัน

                                                                                                            ใครเอาEEกูไป : แล้วฝั่งนั้นเป็นไงมั่ง

    J. : หลับไปแล้ว

    J. : กูไปละ เหมือนมันจะตื่นเลยวะ

                                                                                                               ใครเอาEEกูไป :เออๆ กูก็จะนอนละ



    เธอละสงสัยใคร่รู้จริงๆ ว่าพรุ่งนี้โปรดมันจะทำอะไรเธอมั้ย จะรอดมั้ยนะ?



    แจนมองหน้าพริ้งที่นอนหลับไปทั้งคราบน้ำตา เธอเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าอีกฝ่าย

    กูช่วยอะไรมึงได้บ้างพริ้ง





    ช่วงนี้จะมาช้านิดหน่อยนะคะ พอดีเรื่องงานมันมีปัญหา ปวดหัวแท้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in