น้อตเดินหน้าจ๋อยๆ เข้ามาในห้องสอบสวน เขายกมือขึ้นไหว้สารวัตรสอบสวนหน้าตาเคร่งเครียดกุญแจมือสีโครเมี่ยมขัดมันสะท้อนแสงแวววูบวาบบังคับให้สองมือของน้อตไม่อาจห่างกันไปได้ไกลราวกับคู่รักใหม่"สวัสดีครับ สารวัตร"
"ผมเป็นร้อยเวร ไม่ใช่สารวัตร ไอ้เวรนี่จะหาเรื่องให้กูโดนสารวัตรเด้งละ เอา นั่งลง"
น้อตทำตามอย่างว่าง่าย สมองของเขาแม้ตื่นตัวแต่ก็ไม่ปลอดโปร่งนัก ด้วยความที่ถูกกองกำลังไปล้อมจับได้คาที่นอนไม่นานหลังจากผลอยหลับไปคาหนังระทึกวัญจากยุค 80 เรื่่อง Misery ที่แฟนนิยายโรคจิตจับตัวนักเขียนชื่อดังไปทรมานเพื่อให้เขียนนิยายตามที่ต้องการ
"ไม่ทราบผมถูกจับข้อหาอะไรครับ?"
"พรบ. เรื่องสั้น ฉบับสยองศกที่ 115 มีอะไรจะสารภาพรึเปล่า"
"มันมีด้วยเหรอครับ พรบ.เรื่องสั้นนี้?"
"มีมานานแล้ว เก่าแก่มาก อะไรวะ เรียกตัวเองเป็นนักเขียนแต่เสือกไม่รู้จักพรบ.เรื่องสั้น"
น้อตเกาหัวแกรกๆ เหมือนใช้นิ้วทั้งสิบควานหาข้อมูลในความจำกุดๆ ของเขา พรบ... พรบ...
"มันไม่มีนี่ครับ"
"เถียงอีก กูบอกอยู่เนี่ยว่ามี" สารวัตรขึ้นเสียง น้อตโตมากับครอบครัวชาวจีน เขารำคาญทุกครั้งที่มีการรวมญาติ เพราะลุงป้าฝั่งพ่อจำนวนเกือบโหลพอเจอกันก็มักจะพูดกันด้วยเสียงอันดัง เขามักจะจินตนาการลุงป้าน้าอาสมัยเด็กๆ ว่าคนพวกนี้โตมาในรังนก แล้วลูกนกที่ไม่แหกปาก ปู่กะย่าคงจะไม่ป้อนข้าวให้
เสียงตวาดดังๆ ทำให้เขาผวา แถมร้อยเวรยังเสียงดังกว่าลุงกับป้าเขารวมกันเสียอีก "ห้องแคบนิดเดียว คุณร้อยเวรพูดดีๆ ก็ได้ยินนะครับ"
"ห่าแดก เด๋วกูยัดข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานให้อีกกระทงเลย ติดคุกตูดบานแน่มึง"
"ขอโทษครับ" น้อตยกมือไหวะปลกๆ
"เข้าเรื่อง กูจะรีบกลับบ้าน หิวแล้ว"
"ครับๆ ผมทำผิดพรบ.เรื่องสั้นครับ"
"ละเมิดมาตราอะไรบ้าง"
มึงจะเอาไงกะกูวะ น้อตแอบคิดเบาๆ ในใจ "ไม่ทราบครับ"
ตำรวจหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องสอบสวน ถือแก้วน้ำมาวางข้างหน้าผมก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งข้างๆ ร้อยเวร
"คุณนวรรตพล คุณเขียนเรื่องสั้น บทกวี และบทความอื่นๆ ตีพิมพ์ในบล็อกใช่ไหมคะ?"
"ครับ ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันผิดตรงไหน มีนักอยากเขียนเหมือนผมอีกหลายพันคนที่เขียนเรื่องลงบล็อก"
"ดิฉันยังไม่ได้แจ้งข้อหานะคะ คุณนวรรตพล เราเชิญคุณมาให้ปากคำเฉยๆ ในขั้นนี้"
" คุณร้อยเวรครับ"
"ดิฉันเป็นสารวัตรค่ะ" นายตำรวจหญิงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"คุณสารวัตรครับ"
"เรียกพัทก็ได้ค่ะ"
"คุณพัทครับ... "
"สารวัตรค่ะ สารวัตรพัท"
"โอ้ยยยยยย.... คุณครับ นี่เชิญมาให้ปากคำต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือครับ" น้อตชูสองมือที่ถูกล่ามขึ้นให้ดู "แล้วไอ้พรบ.เรื่องสั้นนี่มันกฏหมายแพ่งหรืออาญา มันรอจนเช้าก็ไม่ได้หรือครับ"
ไม่มีคำตอบจากเจ้าพนักงานทั้งสองราย
"ว่าไงครับ?"
"คุณนวรรตพล" สารวัตรพัทปั้นหน้าเคร่งเครียด "ขออธิบายนะคะ ด้วยพรบ.ฉบับใหม่ว่าด้วยการสืบสวนอย่างสงบ เราจึงไม่สามารถโต้ตอบและตอบโต้เมื่อผู้ต้องสงสัยเกิดความเครียดหรือมีอารมณ์โมโห ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในห้องสอบสวน ฉะนั้น ถ้าคุณนวรรตพลไม่สามารถสงบจิตสงบใจลงได้ เราก็จะตอบอะไรคุณไม่ได้นะคะ" สารวัตรพัทอ้างถึงพรบ. การสอบสวนอย่างสงบ ที่เพิ่งผ่านออกมาเมื่อปีที่แล้วหลังจากมีข่าวเจ้าพนักงานรุมกระทืบผู้ต้องสงสัยจนตับแตกตาย ทำให้ประชาชนสยองประเทศเรียกร้องให้มีการสอบสวนแบบไม่ใช้อารมณ์และความรุนแรง
"นี่ดิฉันก็ผิดระเบียบมามากพอแล้ว ถ้าคุณพร้อม เราก็คุยกันต่อได้ เข้าใจนะคะ?"
"ครับ" ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจ พร้อมๆ กับท่องพุทโธเพ่งสมาธิกับลมหายใจอย่างที่เคยหัดตอนเด็กๆ จนรู้สึกสงบลงมาก
"สรุปว่า พรบ.เรื่องสั้นนี่มันยังไงกันครับ?"
"คุณจะบอกว่าคุณไม่รู้กฏหมาย?"
"ครับ ผมไม่ทราบจริงๆ"
" ถ้าเช่นนั้นเราอาจต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม คือเพิกเฉยและกระทำการโดยขาดความรู้ ระวางโทษสูงสุดคือจำคุกหนึงเดือนและปรับ 100,000 บาท กรณีนี้รับผิดโดยดุษณี เราจะเปรียบเทียบปรับแค่กึ่งหนึ่งเท่านั้นก็พอ" แล้วสารวัตรก็หันไปถามร้อยเวร "นี่่ คนขับรถบรรทุกที่ถูกจับข้อหาสวมรองเท้าแตะนั่นเขายอมจ่ายค่าปรับมั้ย"
"ไม่ครับ เขายอมติดคุกแทนค่าปรับ"
ผมโอดครวญในใจ เงินในบัญชีร่อยหรอขนาดนี้จะเอาที่ไหนมาจ่ายค่าปรับ แต่ก็ช่างเถอะนะ อาจจะได้กินข้าวหลวงฟรีๆ สบายไป "แล้วส่วนของเรื่องสั้นนี่ผมผิดยังไงครับ"
"พรบ. เรื่องสั้น สยองศกที่ 115 มาตราที่ 2 วรรคหนึ่ง ระบุว่า เรื่องสั้นไทยต้องใช้ภาษาไทย และไม่เจือปนด้วยภาษาต่างชาติ มาตราที่ 51 วรรคสาม เรื่องสั้นเรื่องหนึ่งๆ มีความยาวไม่เกิน 10,000 คำ วรรคเจ็ด เรื่องสั้นไม่คสรมีเส้นเรื่องที่ซับซ้อน มาตราที่ 62 วรรค 4 ตัวละครต้องมีมิติความกลมลึกชวนติดตาม มาตราที่ 89 วรรค 2 เรื่องสั้นต้องมีสามองก์และต้องมีการคลี่คลายโดยสมบูรณ์ในองก์ที่สาม... "
"ขอโทษครับ คุณ..."
"สารวัตรพัทค่ะ"
"คุณสารวัตรพัทครับ เรื่องสั้นมันเป็นงานศิลปะนะครับ เราจะเอากรอบยุคสมัยสยองประเทศ 112..."
"115 ค่ะ"
"ปีไหนก็ช่างเหอะครับ มันโบราณมากแล้ว เราจะเอานิยมนิยายอะไรกับคำนิยามที่ถูกเขียนขึ้นมามากกว่าเจ็ดสิบปีก่อนมาเทียบกับงานเขียนในปัจจุบัน"
"มันเป็นกฎหมายค่ะ ถ้าคุณไม่ชอบก็ต้องไปเลือกตั้งนะคะ ให้ผู้แทนของคุณเข้าไปแก้กฎหมาย"
ผมกลั้นระเบิดที่อยู่ในหัวจนมือสั่นเทาไปหมด
"ดิฉันอ่านต่อได้หรือยังคะ?"
"ไม่ต้องแล้วครับ"
"ค่ะ" สารวัตรพัทพับสมุดบันทึกสีเทาในมือ แล้วพูดต่อ "เราติดตามอ่านสิ่งที่คุณเรียกว่าเรื่องสั้นกันมาหลายเดือนแล้ว พบว่าจากเรื่องสั้นของคุณนวรรตพลสิบเรื่องล่าสุด คุณมีความผิดอย่างต่ำ 15 กระทง ซึ่งเราได้ทำสำเนาสอบสวนไว้ตามนี้" สารวัตรพัทยื่นแฟ้มเอกสารหนาเตอะออกมากาง มีเรื่องสั้นที่ผมเขียนถูกพิมพ์ลงกระดาษ A4 อย่างดี ถ้าไม่นับลายมือเป็นระเบียบที่เขียนแทรกมาเป็นหย่อมๆ นี่นับว่าเป็นงานรวมเล่มครั้งแรกในชีวิตผม
"ถ้าคุณนวรรตพลไม่สะดวกให้ดิฉันอ่านข้อหาทั้งหมดให้ฟัง ก็ต้องรบกวนให้คุณนวรรตพลเซ็นบันทึกฉบับนี้ว่าได้อ่านสำนวนสอบสวนและรับทราบข้อหาทั้งหมดแล้ว เป็นระเบียบนะคะ" สารวัตรพัทพูดยิ้มๆ
"ดิฉันยอมรับว่าตัวเองก็ติดตามอ่านเรื่องของคุณมาโดยตลอด มีหลายเรื่องที่ชอบ บางเรื่องก็เฉยๆแต่กฏหมายก็คือกฏหมาย งานก็คืองาน คือดิฉันอยากจะบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอะไรเลยนะคะ"
"แปลว่าถ้าคุณไม่ตามอ่านงานผม คุณก็จะไม่จับผม? แล้วงานคนอื่นที่คุณไม่เคยอ่านนี่คุณจับเขาบ้างรึเปล่า?"
"ไม่ค่ะ ถ้าเช่นนั้นดิฉันก็จะไม่รู้ว่านักเขียนคนนั้นทำอะไรผิดบ้าง และอีกหลายคนที่ละเมิดพรบ. เรื่องสั้น ดิฉันก็จับเขาไม่ได้เพราะเขาไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ของสน. นี้" สารวัตรสาวหยุดจิบน้ำชั่วครู่ ผมเพิ่งสังเกตว่าจริงๆ เธอก็หน้าตาน่ารักดี ตัดผมบ็อบสั้นเกือบจะเหมือนทอมบอย ในมือสองข้างไม่มีแหวนสวมไว้ ผมเข้าใจว่าเธอยังเป็นโสด "คุณนวรรตพลต้องเข้าใจความปรารถนาดีของเราและของกฏหมายฉบับนี้นะคะ ไม่มีใครอยากอ่านงานแย่ๆ ที่กฏหมายเขียนไว้ก็เพื่อให้นักเขียนผลิตงานดีๆ ออกมาให้คนอ่าน"
"คุณบอกเองว่าบางเรื่องของผมคุณก็ชอบ"
"แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องค่ะ เราต้องการชอบเรื่องของคุณทุกเรื่อง"
"มันจะเป็นไปได้ยังไงครับ ไม่มีใครชอบอะไรเหมือนกันทุกอย่างหรอก"
"ดิฉันไม่ใช่นักเขียน แต่คิดว่าถ้าคุณเขียนเรื่องตามกรอบที่กฏหมายขีดไว้ เรื่องย่อมออกมาได้ดี ตัวอย่างนะคะ ถ้าคุณกลับไปบ้านแล้วเขียนถึงเรื่องเหตุการณ์ในห้องสอบสวนวันนี้ ดิฉันคิดว่า คุณคงวางตัวเราสองคนไว้เป็นผู้ร้าย และเราคงเป็นตัวละครที่ไม่มีเบื้องหลังความลึกอะไร ดิฉันคงเป็นแค่เครื่องมือทางวรรณกรรมของคุณในการสร้างมุขตลกและการหักมุมความคาดหวังของคนอ่านที่จะเห็นตำรวจเป็นผู้ชาย ส่วนร้อยเอกวินัย" สารวัตรหันไปทางร้อยเอกที่นั่งข้างๆ "ก็คงเป็นตัวละคร bad cop ที่ไม่มีชื่อหรือแม้กระทั่งบทพูด"
ร้อยเวรวินัย .... ตัวละครนี้มีชื่อด้วยเหรอ? โอ้ย นี่มันโลกอะไรกันวะนี่
"ยิ่งไปกว่านั้น เราตรวจสอบสถานการณ์การเงินของคุณนวรรตพล เครดิตบูโรแจ้งว่าหนี้สินของคุณมากมาย จากการคำนวนของทางกรมบัญชีกลางและสรรพากร การได้ไปใช้ชีวิตในเรือนจำตอนนี้น่าจะดีสำหรับคุณมากกว่า เรามีห้องมีเตียงให้ มีอาหารให้วันละสามมื้อ และยังไม่ต้องไปทำงาน แถมในคุกยังมีวัตถุดิบดีๆ ให้คุณอีกมาก"
"เห็นไหมคะ รัฐบาลเราสนับสนุนงานเขียนดีๆ มากนะคะ แล้วเราก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษากฏหมายเพื่อจะได้มีวรรณกรรมดีๆ ออกมา"
"ถ้าผมสู้คดีล่ะครับ"
"อย่าสู้เลยค่ะ"
"สมมติน่ะครับ ถ้าผมสู้ล่ะ"
"คุณผิดแน่ๆ ยอมเถอะ" สารวัตรพัทเอื้อมมือมาจับแขนของผมเขย่าเบาๆ
"ยอมเหอะ ไปเข้าคุกดีๆ
"นะนะ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in