เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องสั้นนอวอรอรอตอพอลอ
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน การเมืองสัตว์ๆ
  • ________เกริ่น ________

    สยองประเทศมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาช้านาน  โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประมุขฝ่ายบริหาร

    _____________


    วันประชุมสภาวันแรก​ ปีสยองศกที่​ 369

    "สวัสดีครับ" นวรรตพล​ สส.​หน้าใหม่ของพรรคฝ่ายค้าน ระร่ำละลักขยำทิชชู่ที่กำลังใช้อยู่ลงโถ​ เพื่อยกสองมือขึ้นมายกมือไหว้​ เมื่อเห็นกำนันภู​ เลขาธิการของพรรคเสียงข้างมากที่ได้เป็นแกนนำพรรคฝ่ายรัฐบาล​เดินก้าวพรวดๆ​ เข้ามาในห้องน้ำชาย​ ตามด้วยบอดี้การ์ดส่วนตัวและหัวหน้าว่าที่พรรคร่วมอีกสี่คน

    ผู้เขียนต้องขออนุญาตนอกเรื่องเล็กน้อยเพื่ออธิบายสภาพฉากห้องน้ำ​ รัฐสภาใหม่แห่งนี้​เพิ่งก่อสร้างเสร็จหลังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา​ ด้วยงบประมาณกว่า​สี่หมื่นล้านสยอง​ (เทียบเท่ากับ​สี่หมื่นล้านบาทเรา)​ นับเป็นอาคารที่ทรงเกียรติและล้ำสมัย​ไปทุกส่วน​ ยกเว้นห้องน้ำที่สะท้อนอิทธิพลของจีนในวัฒนธรรมสยองประเทศ​ กล่าวคือทุกห้องกั้นฝาไว้สูงเพียง​ 80​ ซม.​ เมื่อเข้าไปนั่งจะปิดถึงแค่ไหล่​และสามารถพูดคุยแบบเห็นหน้ากับห้องข้างๆ​ ได้โดยไม่ขัดเขิน​ นัยของการออกแบบคือส่งเสริมให้มีการสมานฉันท์ในทุกสถานการณ์

    "สวัสดี​ คุณน้อต มาขี้แต่เช้าเชียว" สส.​อาสุโสทัก
    "ฮะฮะ​ กำนันภูก็เหมือนกัน​ครับ"

    กำนันภูไม่ตอบ​ เขาทำหน้าเคร่งเครียดเมื่อถกกางเกงลงนั่งโถเรียบร้อย​ จนเมื่อเสียงระเบิดที่ยาวนานราวปืนกลต่อต้านอากาศยานที่กำลังบินเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียงสงบลง​ สีหน้าของสส.​ภู​ หรือที่ชาวบ้านเรียกด้วยความรักว่า​ ​"อากำนัน" ก็พลันดูผ่อนคลาย​ เขาหันไปคุยกับสส.​ นวรรตพล​ที่กำลังล้างมืออยู่

    "ผมเสียดายอนาคตของคุณนะ​ บอกตรงๆ​ เหมือนเมื่อตอนผมไปชวนคุณเข้าพรรคของเราเมื่อก่อนเลือกตั้ง​ จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าคุณไปเลือกพรรคที่ไม่มีอนาคตอย่างนั้นได้อย่างไร"

    "ขอบคุณครับ​ ผมเชื่อว่าพรรคของผมต้องเป็นฝ่ายค้าน​ ผมไม่เก่งในด้านการบริหารงานราชการ​ น่าจะมีประโยชน์กว่าในการทำงานด้านตรวจสอบ" สส.​รุ่นหนุ่มตอบ

    สส​ อาวุโสถอนหายใจ​ ทำหน้าซู้ดปากเมื่อกระดาษทิชชู่​หยาบๆ​ สัมผัสร่องก้นอันบอบบางผิดกับภาพลักษณ์บุรุษแข็งกร้าวของตน​ ​"พูดตรงๆ​ นะ​ ทั้งสภานี่มีคนบริหารเก่งสักกี่คนเชียว​ ผมนับได้ด้วยนิ้วตีนทั้งหมดของผมแน่นอน​ นอกจากนั้น​ ผมรู้ชื่อเสียงการขุดคุ้ยของคุณ​ ไอ้บทความของคุณเมื่อสี่ปีก่อนทำให้ผมลำบากมาเยอะ"

    "แต่คุณกำนันก็เคลียผ่านได้หมดนี่ครับ​ ผมซะอีกที่ถูกคุณฟ้องจนต้องขายบ้านช่องหมดเนื้อประดาตัว​ ผมยังงงอยู่ว่าคุณกำนันจะไปชวนผมมาร่วมพรรคทำไม"

    "การเมืองน่ะคุณน้อต เราไม่มีศัตรูถาวรกันหรอก​" นายภูเปิดประตูสุขาแล้วก้าวออกมา​ ยัดเสื้อลงกางเกง​ ก่อนรูดซิปผูกเข็มขัดแล้วพูดต่อ

    "โบราณว่า​ ให้เอามิตรแท้ไว้ใกล้ตัว​ แต่ให้เอาศัตรูไว้ใกล้กว่า​ หรือคุณไม่เคยได้ยิน"

    "ผมเรียนตรงๆ​ นะครับ​ พอผมรู้ว่าตัวเลือกนายกรัฐมนตรี​ของคุณกำนันเป็นใคร​ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจ​ว่าไม่อยากลงพรรคคุณแน่นอน"

    "ว่าแต่​คุณกำนันไม่คิดจะล้างมือหรือครับ" น้อตพยายามเปลี่ยนบรรยากาศการสนทนา

    นายภูหัวเราะ​ลั่นห้องน้ำ​ "เรื่องนั้นเดี๋ยวก็ได้​ แค่คุยกันมือผมสะอาดพออยู่น่า ว่าแต่คุณรู้มั้ย​ตอนแรกมันก็เป็นมุขขำๆ​ ของผมเอง​ เราหาคนที่เหมาะสมในพรรคไม่ได้เลย​ แต่ผมมั่นใจในฐานเสียงมาก​ พวกสื่อมวลชนเพื่อนเก่าคุณยังทำนายว่าต่อให้เราจะส่งเสาไฟฟ้าลงยังชนะ​ แล้วทำไมผมจะส่งหมูแก่ๆ​ สักตัวมาชิงตำแหน่งนายกไม่ได้"

    "คุณกำนันก็รู้ว่ามันผิด​ งานในฐานะนายกฯ​ มันต้องใช้สมองและหัวใจของมนุษย์​ แต่คุณเล่นไปเอาหมูที่ไหนไม่รู้มาลงมันถูกต้องที่ไหน"

    "มันเป็นหมูหลังบ้านผมเอง​ ผมเลี้ยงมาตั้งแต่มันเพิ่งคลอด​ ตัวนี้ผมรับรองว่าน่ารักและเชื่องคนที่สุด​ พี่น้องคอกเดียวกันผมจับทำหมูหันเลี้ยงคนในพรรคไปหมดแล้ว​ และมันผิดตรงไหนถามหน่อย​ หมูตัวนี้ก็สัญชาติสยองประเทศ​ เกิดที่ในเขตประเทศสยองเรา​แน่นอน​ ข้อนั้นผมรับรองได้​ ที่สุดยอดคือ​ หมูธรรมดาตัวนี้ได้รับฉันทามติจากคนสยองประเทศเกิน​ 70% หัวหน้าพรรคคุณทำได้ขนาดนี้ไหม"

    "มันไม่ถูกต้อง"

    "ก็ประชาชนเขายอมรับหมูของผมนี่ไงเป็นนายกฯ​ความถูกต้องมันอยู่​ที่การยอมรับของสังคม​ มันเปลี่ยนไปตลอดเวลา​แหละ​ คุณคิดสิ​ วันหนึ่งเราเคยบอกว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี​ ตอนนี้ลูกใครโดนตีแมร่งวิ่งไปฟ้องศาล​ นักข่าวมาทำข่าวใหญ่โต​ แถมโดนรุมสกรัมในโซเชี่ยลมีเดียอีก​"

    "ไม่รู้ล่ะครับ​ ผมรู้ว่าคุณกำนันจ้องจะเข็นหมูตัวนี้มาเป็นนายกอยู่พักใหญ่แล้ว​ คุณเล่นแก้รัฐธรรมนูญถอดเรื่องที่มาของนายกไปเยอะแยะเพื่อส่งหมูมาเลือกตั้ง​ได้​ ผมรู้ว่าผมพูดถูกและจะออกไปป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ทันแผนชั่วของคุณ"

    "รู้มั้ย​ ผมเสียดายคนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณจริงๆ​ ผมน่ะหวังว่าวันไหนว่างๆ​ เราจะไปนั่งจับเข่าคุยกันอย่างเปิดอกได้​ บ้านผมไวน์ดีๆ​ เยอะแยะถ้าคุณสนใจก็บอกเวลามาได้เลย"

    "ผมคงต้องขอผ่านนะครับ​ เพราะผมไม่อาจลดตัวไปสุงสิงกับคนอย่างคุณกำนันได้"

    นายภูทำหน้าเครียด​ "ถ้างั้นเราก็คุยกันไม่ได้? "

    "ไม่ครับ​ ผมมีศักดิ์ศรีของผม"

    "ถ้าอย่างนั้นก็โอเค​" นายภูเปิดน้ำล้างมือ​ เขาพยักหน้าให้กระจก​ เป็นสัญญานที่รู้กันให้กับบอดี้การ์ดในสูทสีดำของตัวเอง​

    น้อตเห็นบอดี้การ์ดคนนั้นยกแขนขวาขึ้น​แล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋าในสูทสีดำ

    "บ้านสวยดีนี่น้อต"

    สส​ หนุ่มหัวเราะในคอ "อีกสักแก้วมั้ยครับอากำนัน"

    นายภูวางแก้วในมือให้สาวสวยในชุดกระต่ายบรรจงรินไวน์ให้

    "กูว่าแล้วมึงต้องเป็นคนมีเหตุผล​ แต่กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็แทบตาย"

    "แหม​ คนกันเอง​ จะอะไรนักหนาครับ"

    "รู้มั้ย​ ผมสงสัยมานานแล้วว่า​ คนเราต้องผลักแรงแค่ไหนถึงจะออกจากความเชื่อได้​ อย่่างพวกชาวบ้าน​ มึงก็แค่หลอกด้วยนโยบาย​ สัญญาให้โน่นให้นี่​ ถึงเวลาจริงมันก็มีเหตุผลร้อยแปดที่อ้างได้ว่ามันไม่พร้อม​ มันไม่ถึงเวลา​ มันมีเสียงค้าน​ อันสุดท้ายดีซะอีก​ ให้แม่งไปทะเลาะกันเอง

    "กับคนตรงๆ​ แรงๆ​ อย่่างมึงนี่​ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะง้างออก"

    "เชี่ย​ อาเล่นเติมศูนย์ในเช็คทีละตัวละตัว​ สุดท้ายผมก็ต้องรับสิครับ"

    "ขนหน้าแข้งกูร่วงไปเยอะนะ"

    "ที่ผมหุบปากเก็บตัวเงียบนี่อากำนันได้คืนไปกี่เท่าล่ะ"

    "เชี่ย​ ใครเขามานั่งนับกัน?" 
    "อาไง​ ผมรู้ว่าอาจะคำนวน"

    "หึหึ  ก็ได้​ จากเช็คใบนั้นที่กูเซ็นให้มึงในห้องน้ำที่สภา​ กูได้คืนมาไม่น้อยจริงๆ ทั้งจากการไม่ต้องเสียหมูของกูไป​จากตำแหน่ง​ นั่นตอบไม่ได้ว่ากำไรเท่าไหร่​ แต่ทุกกฎหมายที่กูเสนอและมึงไม่อภิปรายต้าน​ กูได้คืนมาไม่ต่ำกว่า​ 700ล้าน"

    "อืมม​ อากำนันจำแม่นดีนะ​ ยังจำได้ไหมครับที่บอกผมว่าให้เก็บศัตรูไว้ใกล้กว่าเพื่อน"

    "เฮ้ย​ นั่นคติประจำตัวกู​ ทำไมจะจำไม่ได้​ ทุกวันนี้กูก็เก็บมึงไว้ใกล้ๆ​ ไง"

    น้อตหัวเราะขืนๆ​ ​"อารู้มั้ยครับ​ ว่่าผมก็ถือคติเดียวกันมานานแล้ว"

    "ดีๆ​ แล้วคติเรื่องไม่มีมิตรแท้กับศัตรูถาวรด้วย"

    "จริงๆ​ ข้อนั้นผมไม่เห็นด้วยครับ"

    "หือ?"

    "ที่อากำนันอาจไม่รู้คือ​ ผมเองที่เลือกเก็บอากำนันไว้ใกล้ๆ​ เพื่อจะได้เก็บข้อมูลทุจริตของอาให้มากที่สุด​ เพิ่งได้คำสารภาพเป็นเรื่องเป็นราววันนี้เอง"

    "เฮ้ย"

    "อย่าคิดมากนะครับ​ ผมอัดเทปทั้งภาพและเสียงของวันนี้ไว้หมดแล้ว​ ตำรวจและอัยการจากปปช.​ก็นั่งดูกล้องอยู่ห้องข้างๆ​ นี่เอง"

    "ผมว่าสักพักนึง​ อากำนันก็อาจจะหลุดคดีอยู่​ดี​ แต่อย่างน้อยกว่าเรื่องจะเงียบ​ หมูของอาก็คงถูกชำแหละกินหมดแล้ว​ จะได้จบเรื่องตลกบ้าๆ​นี่กันเสียที"

    สามเดือนต่อมา​ รัฐบาลสยองประเทศประการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่​หลังจากประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจออกมาประท้วงและจับนายกรัฐมนตรีไป​และเผยแพร่ภาพการชำแหละหมูผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดีย

    พ่อค้าหมูรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า​ หมูอายุขนาดนี้แล้ว​ แม้ว่าเนื้อและไขมันจะเยอะ​ แต่ก็เหนียวไม่น่ารับประทาน


    ​Photo​ cr: Thairath.Co.Th

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in