เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกฝึกงานของสาวพลังงานต่ำJimmyKun
03 ; วันพุธสุดหรรษา
  •           วันพุธของโรงเรียนตวงพรวิทยาเป็นวันที่มีการเรียนวิชาพละ สำหรับระดับชั้นอนุบาลที่เราดูแลอยู่นั้นจะได้เรียนวิชาว่ายน้ำและได้เล่นบ้านบอลในช่วงบ่ายหลังจากตื่นนอนกลางวัน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวันพุธสุดหรรษาที่ต้องปาดเหงื่อสู้ชีวิตตลอดทั้งวัน


              หลังจากกิจกรรมเข้าแถวเคารพธงชาติและการพาเด็กดื่มนมจบลง เราและคุณครูพี่เลี้ยงต้องช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กจากชุดพละเป็นชุดว่ายน้ำ ขั้นตอนเปลี่ยนชุดไม่ยากเท่าไหร่ แต่พอต้องเปลี่ยนชุดให้คนนึง คนที่เหลือก็จะระงับความตื่นเต้นที่จะได้เล่นน้ำไม่ไหว บ้างก็ชวนกันเล่น บ้างก็วิ่งรอบห้อง จนคุณครูพี่เลี้ยงต้องดุจึงจะสงบลงได้ และเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ จุดสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับเราคือถ่ายรูปเด็ก  ในชุดว่ายน้ำไว้เพื่อให้แน่ใจว่าตอนเก็บชุดว่ายน้ำใส่กระเป๋าจะเป็นของคน  นั้นจริง  เพราะถ้าใส่ผิดคนขึ้นมามีหวังได้เจอปัญหาวุ่นวายตามมาแน่  


              หลังจากเตรียมตัวลงว่ายน้ำแล้ว สิ่งที่ทำให้ต้องปาดเหงื่ออย่างแรกเลย คือ การเปิดประสาทสัมผัสทั้งหมดเพื่อสอดส่องดูแลความปลอดภัยของเด็ก ๆ ขณะอยู่ในสระว่ายน้ำ เนื่องจากสระว่ายน้ำของโรงเรียนแม้ว่าจะตื้นแต่ก็ค่อนข้างกว้าง ทำให้เด็กสามารถว่ายไปไกลจากที่เราอยู่และเล่นซนกับเพื่อนจนอาจเกิดความวุ่นวายหรืออันตรายตามมาได้ ด้วยความที่เราลงสระไม่ได้จึงต้องใช้เสียงในการตะโกนเตือนออกไปแทน ทำเอาบางครั้งถึงกับหน้ามืดจนต้องลงไปนั่งพักเลยทีเดียว โชคดีที่ส่วนใหญ่หน้าที่ใช้เสียงเป็นของคุณครูประจำชั้น ทำให้เราสามารถผละออกมาดูแลเด็ก ๆ ที่ว่ายน้ำเกาะไปตามขอบสระได้…ถึงแม้จะสอดส่องดูแลดีแค่ไหน แต่อย่าประมาทความซนของเด็กแค่เพียงกะพริบตาเชียว เพราะครั้งหนึ่งเราเคยหันไปพูดคุยกับคุณครูประจำชั้นประถมที่มาช่วยคุมเด็กเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เสียงร้องงอแงของเด็กคนหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมความวุ่นวายขนาดย่อม โชคดีที่คุณครูประจำชั้นเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปควบคุมดูแลถามไถ่เด็ก ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบเรื่องภายหลังว่าเด็ก 2 คนทะเลาะกันแย่งห่วงยาง ซึ่งเจ้าของห่วงยางไม่พอใจอยู่แล้วที่ห่วงยางของตนจะโดนแย่งไป ด้วยไม่รู้ว่าจะป้องกันตัวอย่างไรจึงกัดไปที่มือของเด็กอีกคนที่กำลังยื้อแย่งห่วงยางกับตนอยู่ โชคดีที่แรงกัดของเด็กนั้นไม่แรงถึงขนาดฟกช้ำหรือมีบาดแผล ไม่เช่นนั้นคงได้มีเรื่องยาวใหญ่โตเป็นแน่



              หลังจบชั่วโมงว่ายน้ำก็เป็นการล้างตัวและเปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดพละดังเดิม จากนั้นก็เริ่มบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปรับประทานอาหารกลางวันและเข้านอนตามกิจวัตรประจำวัน (แน่นอนว่าเด็ก ๆหลับปุ๋ยกันอย่างรวดเร็วและง่ายดายเพราะใช้พลังงานในการว่ายน้ำกันเยอะสุด ๆ )


    .

    .

    .


              ชั่วโมงนอนกลางวันจบลง ก็ได้เวลาพาเด็ก ๆ ไปล้างหน้าล้างตากินขนมเตรียมตัวใช้พลังงานในกิจกรรมต่อไป นั่นก็คือ ชั่วโมงบ้านบอล ต้องอธิบายก่อนว่าบ้านบอลนี้ใช้เรียกห้องที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กอยู่ด้านใน โดยจะมีโซนบ่อบอล โซนม้าโยก ม้ากระดก และโซนสไลด์เดอร์ให้เด็ก ๆ ได้ปีนป่ายวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน แน่นอนว่าไม่พ้นเราที่ต้องปาดเหงื่ออีกรอบ


              หน้าที่ของเราเป็นการสอดส่องดูแลความปลอดภัยของเด็ก ๆ อีกเช่นเคย โชคดีหน่อยที่ครั้งนี้ไม่ต้องใช้เสียงดังมากเนื่องจากอยู่ในห้องไม่ใช่พื้นที่กว้างขวางแบบสระว่ายน้ำ แต่ก็ต้องแลกกับการที่ต้องหูไว ตาไว ปากไวแทน เนื่องจากเด็กบางคนเล่นเครื่องเล่นบางอย่างไม่เป็นจนดูโลดโผนและสุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตรายทำให้เราต้องรีบเอ่ยเตือนก่อนจะสอนวิธีเล่นที่ถูกต้องให้ หรือบางคนพาเพื่อนเล่นอะไรแผลง ๆ ก็ต้องรีบเข้าไปห้าม แน่นอนว่าเด็กที่กำลังคึกคงไม่ค่อยฟังครูที่ดูอ่อนแอและไม่มีอำนาจแบบเราอยู่แล้ว TuT เลยต้องส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้คุณครูประจำชั้นที่เป็นลาสบอสของเด็ก ๆ ตักเตือนแทนจึงจะยอมเชื่อฟังเลยทำให้เราสามารถผ่อนแรงลงได้บ้างเล็กน้อย


    อาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่เด็ก ๆ พอได้เล่นจนเหนื่อยแล้วก็ยอมกลับห้องเรียนแต่โดยดีแบบไม่อิดออดทั้งที่ยังไม่ครบเวลากิจกรรมด้วยซ้ำ ต่างจากที่เราในตอนแรกคิดไว้เลยว่าต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็จะไม่ยอมเสียเวลาอันแสนสนุกนี้ไปเด็ดขาด (มาจากประสบการณ์ของตัวเองในวัยเด็ก) พอได้พักเหนื่อยก็กลับมาเจี๊ยวจ๊าวกันอีกครั้ง เล่นกันรอเวลาผู้ปกครองมารับเป็นอันจบวันที่สูบพลังมากที่สุดในสัปดาห์


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in