และแล้วการฝึกงานวันแรกก็มาถึง ตามที่ผอ.ได้แจ้งไว้ตั้งแต่วันยื่นเอกสาร คือ ต้องมาถึงโรงเรียนก่อน 7 โมงเช้าเพื่อเตรียมตัวรับเด็ก ๆ เข้าโรงเรียน ด้วยความตื่นเต้นเราจึงรีบตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเพื่อต้อนรับชีวิตฝึกงานอันสดใส ทว่า เมื่อไปถึงโรงเรียนกลับพบว่ายังไม่ถึง ‘วันเปิดเทอม’ แต่กลับเป็น ‘วันทำความสะอาดโรงเรียน’ เพื่อต้อนรับการเปิดเทอมในวันถัดไปแทน… (T_T)

...แต่การทำความสะอาดโรงเรียนไม่ได้หนักหนาสำหรับเราขนาดนั้น เพราะหน้าที่ของเราตลอดช่วงเช้า คือ ทำความสะอาดห้องเรียนอนุบาลกับตรวจเช็คความปลอดภัยของเครื่องเล่นว่ามีส่วนไหนพังหรืออาจเป็นอันตรายต่อเด็กเมื่อถึงช่วงบ่ายก็ไปทำงานจัดเอกสารกับผอ.จนถึงเวลาเลิกงาน วันแรกจึงเสมือนการวอร์มอัพร่างกายเตรียมรับศึกหนักหลังจากนี้

.

.

.

ในสัปดาห์แรก เป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างหนักหน่วงทั้งใจและกายของเราเลย เพราะภายใน 1 สัปดาห์แรกเป็นช่วงเรียนรู้และปรับตัวกับเด็ก ๆ ในห้องเรียนทั้ง 10 คน โดยเราต้องจำกระบวนการทำงานทั้งหมด เช่น การพาเด็กเดินเรียงแถวไปเข้าห้องน้ำ การคุมเด็กไม่ให้เดินออกจากห้องเรียน ช่วงเวลานอน-ตื่นนอน ช่วงเวลากลับบ้าน โดยเฉพาะรายละเอียดของเด็กแต่ละคนที่ต้องจำให้ได้ ได้แก่ อาหารที่แพ้ พฤติกรรมของเด็กที่อาจนำไปสู่การงอแง(?) เช่น เด็กที่มาถึงโรงเรียนคนหนึ่งจะร้องไห้งอแงมากกว่าเดิมถ้าเราให้ความสนใจ (จับตัว, อุ้ม, โอ๋, พูดคุย) วิธีแก้คือปล่อยให้นอนร้องไห้งอแงในห้องเรียน แล้วสักพักจะหยุดร้องไห้ไปเอง หรือเด็กบางคนจะชอบให้กอดโอ๋มากกว่าถ้าเริ่มงอแง เป็นต้น ทำให้เราค่อนข้างเครียดที่บางครั้งเผลอทำบางอย่างไม่ถูกต้องจนถูกติอยู่บ่อย ๆ ส่วนความเหนื่อยทางกาย คือ การปรับตัวของร่างกายเราเองที่ต้องตื่นเช้า ทำงานในห้องพัดลมที่อากาศข้างนอกค่อนข้างร้อน ต้องเดิน ลุก นั่งบ่อย ๆ ประกอบกับความเครียดที่เกิดขึ้น ทำให้พอกลับถึงบ้านต้องกินยาพาราแล้วก็นอนสลบ เป็นแบบนี้วนไปเกือบทั้งสัปดาห์

.

.

.

ด้วยความที่สัปดาห์แรกค่อนข้างหนักหน่วง สัปดาห์ที่ 2 จึงสบายขึ้นเล็กน้อยเพราะร่างกายเริ่มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้(ไม่ต้องพึ่งยาพาราแล้ว >_<) บวกกับเด็ก ๆ เริ่มคุ้นเคยกับเรามากขึ้นจากการที่เราเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาบ่อย ๆ ในสัปดาห์นี้จะเป็นการเริ่มต้นการเรียนการสอนของคุณครูประจำชั้น โดยคุณครูได้มอบหมายให้เราเล่านิทานหรือชวนเด็กร้องเพลงก่อนเริ่มเรียนคาบแรก

ในส่วนของการเรียนการสอน เราได้รับหน้าที่คอยดูแลส่วนของเด็กอนุบาล 1 ในการหัดเขียน ระบายสีและทำแบบฝึกหัด ซึ่งเราต้องช่วยจับมือเด็กในการลากเส้นระบายสี เพราะนิ้วของเด็กบางคนยังไม่แข็งแรงมากนักหรือบางคนยังจับดินสอไม่ถูกต้อง ถ้าปล่อยให้ทำเองได้กลายเป็นงานศิลปะเก๋ ๆ แทนแน่ ๆ โดยเด็กอนุบาล 1 จะมี 4 คน แต่ละคนให้ความร่วมมือกับเราดีมาก ๆ ทั้งการนับเลข เลือกสี ตอบคำถาม ซึ่งเราจะเรียกมาสอนทีละคนเพราะเราจะได้โฟกัสกับเด็กคนนั้นไปเลย ส่วนเด็กที่เหลือจะปล่อยให้เล่นปั้นดินน้ำมัน วาดรูปอิสระ หรือต่อบล็อกของเล่นรอเพื่อบริหารนิ้วมือและฆ่าเวลาไปในตัว เมื่อจบจากการเรียนช่วงเช้าจะเป็นช่วงพักกินข้าวและพาเด็กเข้านอน ช่วงเวลาที่พาเด็กเข้านอนเป็นช่วงที่เราจะได้พักทานข้าวและทำธุระส่วนตัว เมื่อเด็กตื่นนอนก็ต้องพาเด็กไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า ปะแป้งและกินขนม หลังจากนั้นจะแล้วแต่คุณครูว่าจะปล่อยให้เด็กเล่นกันรอผู้ปกครองมารับหรือให้เรียนอีก 1 คาบ แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะปล่อยให้เล่นกัน แต่ถ้าวุ่นวายมากเกินจนคุมไม่อยู่คุณครูก็จะให้แบบฝึกหัดเด็ก ๆ ไปทำเพื่อให้ทั้งหมดอยู่ในความสงบเรียบร้อย

เป็น 2 สัปดาห์แรกที่มีเรื่องราวให้ปรับตัวมากมาย แต่เพราะมีเด็ก ๆ ที่เปิดใจให้เราและคุณครูพี่เลี้ยงที่คอยให้คำแนะนำทำให้เราเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว (และยังมีแมวที่บ้านคอยฮีลใจเสมอ TwT) จนทำให้เราสามารถก้าวผ่านเรื่องยาก ๆ มาได้อีกขั้น !