เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#เกิดใหม่เป็นนางเอกเกมจีบหนุ่ม เดี๋ยวๆนางเอกก็ต้องเป็นผู้หญิงสิไม่ใช่ผู้ชายแบบนี้!?SolitaryRabbit
เตรียมตัวเตรียมใจ...แต่มีเรื่องเบาๆที่หนักใจ
  • อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดเรียนแล้ว ริออสจึงลองเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งที่ห้องสมุดในบ้านดูบ้าง...

    ถ้าถามว่าตอนนี้เขาคือริออสหรือว่าอาสึกะกันแน่ ตัวเขาเองนั้นคงจะตอบอย่างแน่ใจไม่ได้ แต่จะให้ปฏิเสธความรู้สึกของใครสักคนไป นั่นก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน ฉะนั้นจะเรียกว่าเขาคืออาสึกะที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในเกมจับหนุ่มมันก็คงได้อยู่ละมั้ง เพียงแต่ว่าความทรงจำในชาตินี้ดันขาดหายครึ่งๆกลางๆเพราะถูกกระแทกเข้าที่หัว ส่วนความทรงจำชาติที่แล้วดันอยู่ๆก็โผล่มาตอนถูกกระแทกเข้าที่หัวเช่นกัน เป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่ค่อยจะเท่าเทียมเท่าไหร่เลย เพราะเดิมทีก็ไม่ได้อยากจะถูกกระแทกอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องโทษคริสที่ผลักตัวผมแรงเกินไป...หรือว่าตัวผมจะน้ำหนักเบาเกินไปกันนะ...

    พอคิดแบบนั้น ในตอนที่กำลังจะเลี้ยวไปที่ห้องสมุดก็กลับเลี้ยวไปอีกทางแทน

    "เมย์ซัง...พอจะมีเครื่องชั่งน้ำหนักไหมครับ?"

    พอเดินไปที่ห้องครัวก็พบกับเมดสาวผมสั้นสีแดงที่ท่าทางกระฉับกระเฉง เธอเป็นเมดไม่กี่คนในบ้านหลังนี้ที่อายุใกล้เคียงกับผม ผมก็เลยรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนเพื่อนอยู่นิดหน่อย ผมคงไว้ใจเธอได้ใช่ไหมนะ?

    "อ๊ะ คุณหนู? ทำไมถึงถามหาเครื่องชั่งน้ำหนักล่ะคะ?" เมย์ซังถามแบบนั้น ก่อนจะรีบหันไปหยิบวัตถุหน้าตาคล้ายตาชั่งขึ้นมาให้จากใต้โต๊ะ...

    "ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมอยากได้แบบที่ชั่งตัวคนได้น่ะ..."

    "คนเหรอคะ?" เด็กสาวคิดอย่างจริงจังอยู่สักพักก็ทำสีหน้าเสียใจออกมา "ถ้าเป็นตาชั่งที่ใหญ่ขนาดนั้นน่าจะต้องไปที่สมาคมการค้านะคะ น่าจะมีตราชั่งที่ใช้ชั่งน้ำหนักของสัตว์ใหญ่ได้อยู่ อาจจะชั่งน้ำหนักคนได้ก็ได้ค่ะ"

    "งั้นเหรอ"

    ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีเครื่องชั่งที่ตีค่าออกมาเป็นตัวเลขทันทีอยู่สินะ ขนาดในห้องครัวยังไม่มีเครื่องชั่งแบบสปริงเลย การจะไปหวังว่าจะรู้น้ำหนักตัวเองได้คงต้องขอยอมถอยไปก่อน ตอนนี้มีแต่เครื่องชั่งที่ใช้หลักการแบบคานและการถ่วงน้ำหนัก ในห้องเก็บของเก่าที่บ้านของอาสึกะก็เคยเห็นตราชั่งแบบที่เมย์เอาออกมาให้ดูอยู่เหมือนกัน

    "ถ้างั้น ขอดูนั่นหน่อยสิ"

    "ได้สิคะ"

    ตาชั่งแบบนี้มีที่วางของสองด้าน ใช้ตุ้มถ่วงที่ผลิตอย่างได้มาตรฐานนำมาวางด้านหนึ่ง อีกด้านคือของที่ต้องการจะชั่ง ตุ้มถ่วงมีหลายขนาดเมื่อเพิ่มตุ้มถ่วงลงไปจนตาชั่งไม่เอียงปริมาณของตุ้มก็คือน้ำหนักของสิ่งของนั้นนั่นเอง

    "อย่างน้อยถ้ามีเครื่องชั่งแบบสปริงที่มีหน้าปัดบอกชัดเจนก็น่าจะวัดน้ำหนักง่ายกว่านี้นะ..."

    "ข้าเคยเห็นอะไรแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะคะ"

    พอเมย์ซังพูดแบบนั้นก็รู้สึกตัวว่าดันเผลอพูดเรื่องแบบนี้ออกไปซะแล้ว แต่ว่า...มีจริงๆงั้นเหรอเนี่ย?

    "เห็นที่ไหนเหรอ?"

    "อ๊ะไม่ใช่แบบที่มีสิ่งที่เรียกว่าหน้าปัดอะไรนั่นหรอกนะคะ แต่มีสปริงอยู่น่ะค่ะ ที่ร้านขายเนื้อบางเจ้าก็จะใช้แขวนเนื้อเอาไว้ แล้วด้านหลังก็จะขีดบนกำแพงเอาไว้ว่าถ้าสปริงยืดถึงความยาวเท่าไหนจะราคาเท่าไหร่บ้างน่ะค่ะ พอทำแบบนี้ก็เลยทำให้พ่อค้าสามารถขายเนื้อได้เร็วๆค่ะ"

    "งั้นก็ยอดเลย ขอบคุณนะเมย์ซัง ขอตัวไปที่ห้องสมุดก่อนล่ะ"

    "ไม่เป็นไรค่า ไว้จะชงชาไปให้นะคะ"

    ถ้าหากว่าที่นี่มีการใช้หลักการแบบสปริงอยู่จริงๆแล้วล่ะก็ งั้นก็พัฒนาขึ้นมาไม่ยากแล้วล่ะ...อย่างน้อยก็ลองไปหาข้อมูลที่ชัดเจนในห้องสมุดดูก็แล้วกัน ผมคิดแบบนั้นก่อนจะเดินออกไป

    "เมื่อกี้คุณหนูริออสเหมือนจะยิ้มอยู่นิดหน่อยด้วยล่ะค่ะ" เมย์ซังที่ยืนอยู่ที่เดิมมองแผ่นหลังเล็กๆของคนที่เดินออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเก็บตาชั่งที่หยิบขึ้นมาแล้วกลับไปทำงานตามเดิม

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in