ทุกโรงเรียน ทุกมหาวิทยาลัย ย่อมมีงานไม่ก็สองงานที่ถือว่าเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีที่ไม่ใช่แค่นักเรียนเฝ้าคอยแต่รวมไปถึงทุกคนในโรงเรียนด้วย และแน่นอน Solbridge International School of Business เมืองแดจอน ประเทศเกาหลีใต้ ก็มีงานแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งงานใหญ่ประจำภาคการศึกษา Fall นั้นก็คือ งาน Culture Day จากชื่อของงานก็สามารถเดาได้ว่างานนี้ต้องเกี่ยวกับวัฒนธรรมแน่นอน อาจจะคิดว่าเป็นงานแสดงวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีให้เด็กต่างชาติได้ดู ซึ่งก็ถูก แต่! ด้วยความที่มหาลัยนี้เป็นมอนานาชาติ งานนี้เลยเหมือนเป็นงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของนักเรียนทุกชาติด้วยเช่นกัน โดยกิจกรรมที่มีในงานนั้นจะแบ่งเป็นสองช่วงก็คือช่วงเย็น food festival แต่ละประเทศจะทำอาหารและตั้งเป็นบูทให้ทุกคนได้ของลิ้มรสอาหารของประเทศต่างๆ ช่วงดึกหรือไฮไลท์ของงานก็คือ performance โชว์วัฒนธรรมเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศและพาเหรดนานาชาติ ซึ่งช่วงที่สองนี้จะมีการแจกรางวัลด้วยซึ่งรางวัลก็จะเป็น รางวัลอาหารประจำชาติยอดเยี่ยม การแสดงยอดเยี่ยม หรือแม้กระทั้งรางวัล Social media ยอมเยี่ยมโดยทั้งก่อนมาและหลังมาที่นี่เราตื่นเต้นกับงานนี้มากเพราะความพิเศษมันอยู่ตรงที่ปีที่ผ่านมาคนไทยในมีจำนวนน้อยมาก แต่ปีนี้มีจำนวนคนไทยมากหน่อย จากทุกปีที่คนไทยเข้าร่วมแค่ food festival ปีนี้อาจจะได้ทำการแสดงด้วย ตรงอาหารไม่ค่อยหน้าเป็นห่วงเพราะมีเพื่อนคนไทยที่ทำอาหารเป็น(และก็มีร้านอาหารไทยด้วย) ส่วนการแสดงนี่สิ ส่วนตัวครั้งสุดท้ายที่แสดงหน้าคนเยอะๆก็ตอนเป็นหลีดกีฬาสีสมัยมัธยมพอขึ้นมหาลัยจนเรียนจบทำงานก็มีแสดงบ้างแต่ก็เป็นงานเล็กๆแต่งานนี้ต้องต่อหน้าคนทั้งในและนอกมหาลัยแถมยังเป็นคนต่างชาติด้วยพวกเราเลยแอบคิดหนักตอนแรกเลยคิดว่าก็คงไม่แสดงดีกว่า แต่สุดท้ายพวกเราก็ต้องแสดงเพราะทางมหาลัยอยากเห็นการแสดงของประเทศไทยบ้าง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมงานแสนหฤโหดเป็นเวลาเกือบสองเดือนก่อนวันงานจริง
เริ่มแรกจะทำอาหารอะไรและจะแสดงอะไร พวกเราตัดสินใจว่าเราจะผัดผงแกงกระหรี่ทะเล กับทำทอดมันปลาเอง ทุกคนอาจจะมีความ เอ๊ะ กับอาหารที่พวกเราเลิกแต่มันมีเหตุผลนั้นก็คือ เพื่อนๆหลายๆประเทศไม่กินหมู!ไม่กินเนื้อสัตว์ยกเว้นอาหารทะเล!(ที่นี่มีนักเรียนจำนวนมากนับถืออิสลาม) ดังนั้นตัวเลือกที่น่าจะโอเคกับทุกคนที่สุดก็คืออาหารทะเล และเราก็อยากจะนำเสนออาหารไทยอย่างอื่นนอกจากพวกต้มยำกุ้ง ผัดไทย ส้มตำ ทุกคนเลยลงความเห็นว่า ผัดผงกระหรี่แกล้มกับทอดมันปลานี่แหละลงตัวที่สุด! แต่ด้วยความที่จำนวนคนเรามีน้อยถ้าเทียบกับประเทศอื่น (6คน) บวกกับแต่ละคนค่อนข้างยุ่ง เนื่องจากวันงานเป็นช่วงสอบมิดเทอม ทำให้พวกเราตัดสินใจว่าจะสั่งผัดผงกระหรี่จากร้านอาหารไทย ส่วนทอดมันปลาจะทำกันเอง จบเรื่องอาหารก็มาต่อกับเรื่องการแสดง ทางโรงเรียนกระซิบมาว่าอยากดู"รำไทย"ดังนั้นพวกเราเลยมาสรุปที่ การรำบายศรีสู่ขวัญ เพราะการรำไม่ยากมาก รำสี่คนแล้วไม่ดูเหงามาก แถมเพลงก็เพราะอีกด้วย(พวกเราเลือกเวอร์ชั่นพี่ต่าย อรทัย) หลังจากสรุปทุกอย่างเสร็จพวกเราก็ใช้เวลาเตรียมตัวซ้อมรำ ทดลองทำทอดมัน วางแผนกันว่าวันงานใครจะทำหน้า่ที่อะไร เป็นเวลาเดือนกว่าๆ และแล้ววันงานก็มาถึง สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนของเราจากงานนี้ก็คือถึงแม้ว่าพวกเราจะเตรียมตัวดีเท่าไหร่ก็ตามแต่บางครั้งทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแพลนเสมอไป แต่อย่างไรก็ตามต้องมีกำลังใจไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน วันนั้นพวกเราต้องเจอกับการซ้อมใหญ่หลายต่อหลายครั้งจนแทบไม่มีเวลาเปลี่ยนชุด บวกกับความล้าจากการอดนอนทำทอดมันคืนก่อน ไหนจะการสอบที่หนักหน่วงตลอดสัปดาห์นั้น ความตื่นเต้นกับเวทีแสงสีเสียงเต็มพิกัดคนดูนานาชาติทั้งนักเรียนและคนทั่วไป ความกังวลว่าคนดูจะชอบการแสดงไหม แต่สุดท้ายทุกคนก็พร้อมใจกันร่วมแรงกันจนทั้งงาน food festival และการแสดงบายศรีสู่ขวัญผ่านไปได้ด้วยดี ได้รับคำชมจากเพื่อนๆและคนอื่นๆที่มาร่วมงาน สำหรับเราสิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดคงเป็นการที่พวกเราได้ใช้ช่วยกันผ่าฝันกับปัญหานู่นนี่จนงานออกมาสำเร็จถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบที่สุดแต่เราก็ภูมิใจกับมันมาก
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in