เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บ่นจิปาถะmylifesucker
ข่าวดาราชายที่โดนแฉ
  • เราได้อ่านข่าวมาพักนึงแล้ว และก็เห็นฝ่ายชายออกมาขอโทษ ฝ่ายหญิงลบข้อความไป และวันนี้ก็มีสำนักข่าวซาแซงออกมาแฉฝ่ายหญิงกลับ ซึ่งก็ดูน่าเกลียดดีที่เพื่อนฝ่ายชายเบลมผู้หญิงเรื่องเคยแต่งงาน เคยหย่า มันไม่น่าเป็นประเด็นเลย แต่ประเด็นก็กลับมาร้อนยิ่งกว่าเดิม เพราะแฟนคลับหลายคนดูสะใจกับเรื่องนี้ ส่วนตัวเราไม่ค่อยได้สนใจประเด็นนี้เท่าไหร่ แต่ไปสะดุดใจกับคอมเม้นนึง ที่คนเอาความเห็นจากอาจารย์ท่านนึงมาแชร์ 

    เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่าถ้าอาจารย์ไม่ได้เป็นเอฟซีดาราชายคนนี้ก็ฟังความข้างเดียวหรือเปล่า สิ่งที่อาจารย์เขาออกความเห็นคือ บอกว่าคนไปคาดหวังself imageจากดาราชายที่ตกลงกับแฟนว่าจะทำแท้ง การทำแท้งไม่ใช่สิ่งที่ผิด เกาหลีต้องทำแท้งจากทั้ง2ฝ่ายตกลง หากผู้หญิงไม่ยอมเรื่องนี้คงไม่เกิด ถ้าอาจารย์ไม่ได้อ่านข้อความทางฝั่งหญิงเลยว่า ฝ่ายชายนั้นมีการกล่อมให้ผู้หญิงยอมรับการทำแท้งเพราะจะแต่งงานด้วย คำถามคืออาจารย์ที่สอนจิตวิทยาจะทราบมั๊ยว่าในสังคมpatriarchyเข้มข้นอย่างเกาหลีนั้น เป็นไปได้มากว่าที่ผู้หญิงจะถูกหลอกหรือถูกบังคับถูกขู่ได้ เขียนแบบนั้นเป็นการซ้ำเติมเหยื่อกลายๆด้วยว่าก็เธอยอมเอง

    ประเด็นที่2 ส่วนตัวเท่าที่ส่องๆมา ไม่เห็นการโจมตีดาราชายท่านนั่นด้วยเรื่องของการทำแท้ง ที่ว่าขัดต่อความเชื่อหรือจริยธรรม เพราะส่วนมากก็สนับสนุนการทำแท้งทั้งนั้น her body her choice แต่ประเด็นคือฝ่ายหญิงเขาอยากเก็บลูกไว้ และถูกหลอกให้ทำแท้งโดยที่ว่าถ้าทำแท้งแล้วจะแต่งงานด้วย 

    ประเด็นที่3 คือเอาไปเทียบกับประเด็นที่มันปัจเจกมากเกินไป เช่น เพื่อนแย่งแฟน ความรู้สึกผิดในการทำตามพ่อแม่ละทิ้งความฝัน มันไม่สามารถผูกเข้ากับเรื่องพวกนี้ได้เลยที่สังคมมีเหยื่อจากabuseแบบนี้ สิ่งที่อาจารย์คนนั้นเสนอความเห็นออกมาคือการลดทอนของปัญหาความรุนแรงที่สามารถเกิดขึ้นในสังคมได้ ถ้าทุกคนต่างมองอะไรที่อ้อ เรื่องส่วน เรื่องผัวเมียตีกัน เรื่องภายในครอบครัว เราก็ไม่ต้องไปสนใจนะ แค่สนใจผลงานเขาก็พอ นี่เหรอคือสิ่งที่คนทางด้านจิตวิทยาสนใจ เหยื่อล่ะอยู่ตรงไหนของตรรกะและเหตุผลทั้งหมดของอาจารย์ เราคิดว่าความเห็นของอาจารย์ท่านนั่นดูไบแอสเอามากๆเลยล่ะ สังเกตุุได้ตอนที่เขียนchoiceเลือกติดตามกับเลิกติดตามสิ ต่างกันเชียวน้า 

    เลือกติดตามเราต้องลืมอดีต บลาๆ เปิดใจมุ่งความสนใจไปที่ผลงาน ไม่สนใจเรื่องส่วนตัว ส่วนเลือกเลิกติดตาม มีคำแบบดูใจแคบ เอาเรื่องในอดีตส่วนตัวมาตัดสินปัจจุบัน คุณลองดูkey wordเอาละกัน ลืมอดีต เรื่องส่วนตัว ใจแคบ คือนี่ตอนอ่านก็หัวร้อนเบาๆนะ คือสำหรับเหยื่อ(บางคน)อะ เรื่องร้ายที่มันติดในความทรงจำที่โดนทำร้ายมามันไม่มีคำว่าอดีตหรือปัจจุบันหรืออนาคตด้วยซ้ำ มันคือเรื่องราวเลวร้ายที่มันแล่นและวนเวียนอยู่ในความทรงจำเราไม่จบไม่สิ้น แม้กระทั้งคนที่ทำร้ายเราได้ขอโทษเราไปแล้ว ดังนั้นถ้ามีความรู้ด้านจิตวิทยาคิดว่าน่าจะควรเข้าใจคนที่ตกเป็นเหยื่อมากกว่านี้ ที่จะใช้คำพูดลดทอนความรุนแรง และนำพาไปสู่การเพิกเฉยต่อความรุนแรงทั้งกายและจิตใจ แล้วยิ่งในโปรไฟล์คุณเขียนว่าตัวเองเป็นอาจารย์ความเห็นของคุณก็อาจจะชี้นำอะไรกับคนบางกลุ่มได้ เราหวังให้เขาน่าจะระมัดระวังมากกว่านี้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in